แนะนำ Redmi Note 11 Pro Plus 5G สเปคกล้อง 108MP ถ่ายรูปสวย หน้าจอ 120Hz ชาร์จเร็ว 120W เล่นเกมได้ด้วยสเปคแรง
มือถือตัวแรงที่เปิดตัวออกมาในช่วงสิ้นเดือนมีนาคม 2565 ที่ผ่านมาอีกหนึ่งรุ่น ในซีรีส์ของ Redmi Note 11 Series และเรียกได้ว่าเป็นรุ่นตัวท็อปสุดแล้วก็ว่าได้ นั่นก็คือตัว Redmi Note 11 Pro Plus 5G ที่มีสเปคเกินรุ่นอื่นๆ ไปหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความแรงของตัวเครื่อง หน้าจอสวยใสไหลลื่น เล่นเกมได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญคือได้กล้องมาถ่ายรูปได้แบบสวยๆ ถึงระดับเรือธงเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีลำโพงที่ให้เสียงโดดเด่นกว่าใครด้วย แต่สำหรับในบ้านเราก็ต้องรอราคาที่จะนำมาวางขายกันอีกรอบ เพราะตอนนี้ยังไม่ได้นำเข้ามาอย่างเป็นทางการ แต่รุ่นนี้ถ้าดูจากสเปคจริงๆ ก็มีความแอบคล้ายกับ Redmi Note 11 Pro 5G อยู่เหมือนกัน จะแตกต่างกันที่ชิปและแบตนิดหน่อย คาดว่าราคาก็คงจะไม่ต่างกันมากด้วย ต้องมารอดูกันอีกทีว่าจะมีราคาเข้ามาที่กี่บาท และจะเข้ามาตอนไหน ใครที่กำลังสนใจรุ่นนี้อยู่ วันนี้ทาง Specphone จะมาแนะนำสเปคของ Redmi Note 11 Pro Plus 5G ที่สามารถถ่ายรูปได้แบบสวยๆ ด้วยกล้องหลักระดับเรือธง 108MP หน้าจอไหลลื่นถึง 120Hz และยังได้สเปคเร็วแรงใช้งาน 5G ได้ด้วย
- ดีไซน์ตัวเครื่อง
- สเปคหน้าจอ
- ชิปประมวลผล
- กล้องหน้า และกล้องหลัง
- ความจุแบตเตอรี่ การเชื่อมต่อ และราคา
- ตารางเปรียบเทียบ Redmi Note 11 Pro Plus 5G กับรุ่นอื่นในซีรีส์เดียวกัน
ดีไซน์ตัวเครื่องสวยงามตามแบบฉบับ Note 11 Pro
เริ่มต้นกันด้วยการดีไซน์ตัวเครื่องของรุ่นนี้กันก่อนเลย ซึ่งรูปแบบตัวเครื่องนี้จะบอกว่าคล้ายๆ กับตัว Redmi Note 11 Pro และ Redmi Note 11 Pro 5G เลยก็ว่าได้ แต่ก็ไม่เหมือนกันทั้งหมดทีเดียว เพราะรุ่นนี้จะมีความหนากว่าที่ 8.34 มม. มีน้ำหนัก 204 กรัม และมีขนาดที่สั้นกว่าเล็กน้อยเท่านั้น แต่ก็ยังมีความคล้ายกันตรงที่เป็นเหลี่ยมๆ กับกรอบแบน และมีฝาหลังหลังเป็นกระจกเหมือนกันด้วย ส่วนด้านหน้าก็มีจอเป็นแบบ Punch-Hole Display มีกล้องตรงกลาง พร้อมกับโมดูลกล้องหลังของรุ่นนี้ก็ไม่เหมือนกับทั้งสองรุ่น เพราะ Redmi Note 11 Pro Plus 5G ตัวนี้จะมีการบอกเลข 108MP ที่กล้องหลังในแนวนอนไปกับตัวเครื่อง ส่วนทั้งสองรุ่นก่อนหน้านี้จะบอกไว้เป็นแนวตั้งแทน แต่ทั้งนี้ก็ยังคงมีกล้องที่เป็น 3 ตัวเหมือนกับรุ่นโปร 5G เช่นกัน ส่วนการปลดล็อคหน้าจอ รุ่นนี้จะสามารถสแกนลายนิ้วมือได้จากด้านข้างตัวเครื่อง และสามารถใช้งาน AI Face เพื่อปลดล็อคหน้าจอได้ด้วย พร้อมกับคุณสมบัติกันฝุ่นและละอองน้ำระดับ IP53 ส่วนสีของตัวเครื่องจะมีให้เลือก 3 สีคือ Graphite Gray, Star Blue และ Forest Green
หน้าจอคมชัดไหลลื่น 120Hz
มาที่เรื่องของหน้าจอของ Redmi Note 11 Pro Plus 5G กันบ้างที่ไม่ธรรมดาเหมือนกัน ด้วยหน้าจอกระจก Corning Gorilla Glass 5 ที่เป็นแบบ AMOLED (FHD+) ให้การแสดงผลหน้าจอที่คมชัดสีสันสวยงาม และแสดงผลได้ถึงระดับ HDR 10 พร้อมขอบเขตสีระดับ DCI-P3 ถึงแม้ว่าจะออกไปยังที่ที่มีแสงจ้ามากๆ ก็ไม่ต้องกังวลด้วยความสว่างหน้าจอมากถึง 1200 นิต มีการตรวจสอบแสงได้แม่นยำ 360 องศาเลยทีเดียว รุ่นนี้จะมีความกว้างหน้าจอที่ 6.67 นิ้ว ใหญ่เท่ากับรุ่นโปร 5G ธรรมดาเลย และยังมีความไหลลื่นของหน้าจอด้วยอัตรา Refresh Rate 120Hz พร้อมกับ Touch sampling rate มากถึง 360Hz สัมผัสได้อย่างแม่นยำเล่นเกมได้เป็นอย่างดีแน่นอน นอกจากนี้หน้าจอยังเป็นแบบเจาะรูกล้องหน้าหรือ Punch-Hole Display ตรงกลางหน้าจอ ทำให้ไม่รบการใช้งานมากเกินไป และยังถนอมสายตาได้ดีอีกด้วย
ชิปประมวลผลตัวแรง
มาถึงจุดสำคัญที่ทำให้รุ่นนี้มีความต่างจากรุ่นโปรและรุ่นอื่นๆ นั่นก็คือชิปประมวลผลที่รุ่นนี้เป็น Dimensity 920 5G ให้ความเร็วถึง 2.5GHz ในขณะที่รุ่นโปร 5G จะมีชิปเป็น Snapdragon 695 ที่ความเร็ว 2.2GHz เท่านั้น ส่วนตัว GPU ก็ได้ใช้เป็นตัว Mali G68 เข้ามาช่วยให้รุ่นนี้สามารถเล่นเกม และใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย ที่สำคัญคือรุ่นนี้ก็ยังมีระบบระบายความร้อนแบบ LiquidCool และถือเป็นรุ่นแรกของ Redmi เลยที่มีระบบ Vapor Chamber Cooling ระบายความร้อน ที่น่าสนใจก็คือ Redmi Note 11 Pro Plus 5G รุ่นนี้มีเสียงที่ออกแบบโดย JBL พร้อมลำโพงสเตอริโอคู่ รองรับทั้ง Dolby Atmos, Hi-Res AUDIO และ Hi-Res AUDIO Wireless ให้เสียงคมชัดความละเอียดสูง กระจายรอบทิศทาง ไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง หรือว่าจะเล่นเกมก็ดื่มด่ำไปกับเสียงระดับเทพ ส่วนความจำรุ่นนี้จะมีให้เลือกทั้งแบบ RAM 6GB / 8GB และ ROM 128GB / 256GB และทำงานบนระบบ MIUI 12.5, based on Android 11 แต่ต้องรอดูอีกทีว่ารุ่นที่เข้าไทยนั้นจะเป็นความจุเท่าไหร่บ้างนะ
กล้องหน้า และกล้องหลังระดับเรือธง
จุดเด่นของ Redmi Note 11 Pro Plus 5G อีกหนึ่งอย่างก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของกล้อง ที่ถึงแม้ว่ากล้องหน้าจะมีสเปคเท่ากับรุ่นโปร 5G เลยคือความละเอียด 16MP เซลฟี่ได้สวยคมชัดทุกมุมมอง แต่ว่ากล้องหลังที่มี 3 ตัวเหมือนกันนั้น จะมีสเปคที่ไม่เหมือนกันอยู่ด้วย โดยรุ่นนี้จะมีกล้องหลักความละเอียด 108MP (ƒ/1.8) ในขณะที่รุ่นโปร 5G จะมี 108MP (ƒ/1.9) เลนส์อัลตร้าไวด์ 8MP (ƒ/2.2) ที่สามารถเปิดกว้างได้ถึง 120 องศา (รุ่นโปร 5G ได้ 118 องศา) และสุดท้ายคือเลนส์มาโคร 2MP (ƒ/2.4) เหมือนกัน พร้อมกับถ่ายวิดีโอได้ถึงระดับ 4K (30fps) ถ่ายได้ทุกช่วงเวลาไม่ว่าจะมุมใกล้หรือมุมไกล ก็เก็บรายละเอียดได้เป็นอย่างดี รวมไปถึง AI Skycaping และฟีเจอร์อื่นๆ อีกมากมายรองรับการสร้างสรรค์การถ่ายรูปได้สนุกมากยิ่งขึ้นด้วย ใครที่มองหามือถือ 5G สำหรับถ่ายรูปได้สวยๆ หรือจะถ่ายวิดีโอทำคอนเทนต์ต่างๆ รุ่นนี้ก็ยังตอบโจทย์การใช้งานในหลายรูปแบบอยู่ดี ถ้าเทียบกับรุ่นโปร 5G รุ่นนี้ก็ยังมีกล้องที่เหนือกว่านิดหน่อยด้วย
ความจุแบตเตอรี่ การเชื่อมต่อ และราคาที่ยังไม่เป็นทางการ
ปิดท้ายกันด้วยเรื่องของความจุแบตเตอรี่ที่รุ่นนี้ได้ความจุมา 4500 mAh ซึ่งจะน้อยกว่ารุ่นอื่นๆ ที่มี 5000 mAh แต่ว่า Redmi Note 11 Pro Plus 5G ตัวนี้ก็มีการรองรับ HyperCharge 120W ที่มีมาให้ในกล่องเลยด้วย ถ้าถามว่าเร็วแค่ไหนก็เร็วจนสามารถชาร์จเต็ม 100% ได้ภายในเวลา 15 นาทีด้วยโหมด Boost กันเลยทีเดียว ไม่ต้องรอนานให้เสียเวลาก็กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง และด้วยสเปคชิปที่ประหยัดพลังงานอยู่แล้ว จึงทำให้รุ่นนี้สามารถดูวิดีโอได้ยาวๆ 18 ชม. และฟังเพลงได้ต่อเนื่องถึง 140 ชั่วโมงเลยทีเดียว ส่วนการเชื่อมต่อรุ่นนี้จะมีพอร์ต USB Type-C มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และเชื่อมต่อได้ทั้ง 5G, NFC, Wi-Fi 6 และ Bluetooth 5.2 ส่วนทางด้านของราคารุ่นนี้ยังไม่มีราคาอย่างเป็นทางการของไทยออกมา จะมีเพียงราคานำเข้าที่เป็นเครื่องจีนที่ราคา 12,890- 13,890 บาท แต่คาดว่าเข้ามาในไทยก็คงมีราคาไม่เกิน 15,000 บาทแน่นอน ดูสเปคเต็มได้ที่นี่
ตารางเปรียบเทียบ Redmi Note 11 Pro Plus 5G กับรุ่นอื่นในซีรีส์เดียวกัน
ข้อมูล\ รุ่น | Redmi Note 11 Pro Plus 5G | Redmi Note 11 Pro 5G | Redmi Note 11 Pro | Redmi Note 11S |
หน้าจอ | AMOLED กว้าง 6.67 นิ้ว | AMOLED กว้าง 6.67 นิ้ว | AMOLED กว้าง 6.67 นิ้ว | AMOLED กว้าง 6.43 นิ้ว |
ชิปฯ | Dimensity 920 5G | Snapdragon 695 5G | Helio G96 | Helio G96 |
กล้องหน้า | 16MP | 16MP | 16MP | 16MP |
กล้องหลัง | 108MP + 8MP + 2MP | 108MP + 8MP + 2MP | 108MP + 8MP + 2MP + 2MP | 108MP + 8MP + 2MP + 2MP |
RAM/ ROM | 6GB, 8GB/ 128GB, 256GB | 8GB/ 128GB | 8GB/ 128GB | 8GB/ 128GB |
microSD | 1TB | 1TB | 1TB | 1TB |
แบตเตอรี่ | 4,500 mAh HyperCharge 120W | 5,000 mAh TurboCharge 67W | 5,000 mAh TurboCharge 67W | 5,000 mAh Fast Charge 33W |
ราคา | ยังไม่มีราคาในไทย | 10,990 บาท | 8,999 บาท | 8,299 บาท |
แล้วทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลของ Redmi Note 11 Pro Plus 5G รุ่นตัวท็อปในซีรีส์ของ Redmi Note 11 ที่ปล่อยออกมาอยู่หลายรุ่น ซึ่งรุ่นนี้ถ้าดูจากตารางการเปรียบเทียบสเปคด้านบน จะเห็นได้ว่ามีความใกล้เคียงกับ Redmi Note 11 Pro 5G มากๆ แต่ว่ารายละเอียดสเปคจะต่างกันตามที่ได้บอกไว้ในข้อมูลข้างต้น และก็แน่นอนว่ารุ่นที่มี 5G นั้นก็จะมีการลดสเปคกล้องและสเปคอื่นๆ ลงไปด้วย ไม่เหมือนกับรุ่น 4G ที่ได้กล้องดีกว่าและสเปคอื่นๆ ที่ต่างกันอีกพอสมควรเลย รุ่นนี้เหมาะกับคนที่ต้องการใช้งาน 5G และต้องการเน้นทั้งเล่นเกมหรือถ่ายรูปเป็นหลักเลย แต่ถ้าใครที่คิดว่าไม่ได้ใช้ 5G อยู่แล้วก็สามารถเลือกเป็นตัว Redmi Note 11 Pro รุ่นปกติที่มีสเปคใช้งานแบบทั่วไปได้ดี และมีราคาที่ถูกกว่ารุ่น 5G ด้วย แล้วถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราก็จะนำมาฝากกันเรื่อยๆ เลยนะครับ