Xiaomi 17 และ Xiaomi 17 Pro Series ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในจีนไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่ในซีรีส์เรือธงนี้ก็ยังมีอีกหนึ่งรุ่นที่เป็นรุ่นท็อปสุดอย่าง Xiaomi 17 Ultra ที่ได้เผยสเปคออกมาบางส่วนในเรื่องของกล้อง ล่าสุดได้มีข้อมูลหลุดออกมาเพิ่ม เกี่ยวกับตัวกล้องและการออกแบบด้านหลังของตัวเครื่อง ที่รุ่นท็อปนี้จะไม่มีหน้าจอด้านหลังเหมือนกับรุ่น Pro เพราะว่ากล้องหลังที่มีขนาดใหญ่ รองรับการถ่ายภาพได้ดีกว่านั่นเอง
ส่วนรุ่นที่วางขายในบ้านเราตอนนี้คือ Xiaomi 15 ราคา 29,990 บาท (Shopee/ Lazada) และ Xiaomi 15 Ultra ราคาเริ่มต้นที่ 42,990 บาท (Shopee/ Lazada)
Xiaomi 17 Ultra จะมีกล้องหลัง 200MP ดีไซน์วงกลมขนาดใหญ่
จากข้อมูลที่หลุดออกมาโดย Digital Chat Station แหล่งข่าววงในบน weibo เผยว่า Xiaomi 17 Ultra เตรียมอัปเกรดระบบกล้องใหม่ โดยเริ่มจากกล้องหลักความละเอียด 50MP ที่มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงการซูมแบบ In-sensor Zoom และการสลับเปลี่ยนระหว่างเลนส์ต่างๆ ได้อย่างราบรื่น ทำให้สามารถครอบคลุมช่วงทางยาวโฟกัสได้อย่างไร้รอยต่อ
จุดสำคัญก็คือเลนส์ Telephoto Periscope ที่คาดว่าจะใช้เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ที่มีความละเอียด 200MP รองรับทางยาวโฟกัสหลายช่วงโดยไม่เสียคุณภาพของภาพถ่าย และคาดว่าจะรองรับการถ่ายภาพ Telephoto Macro ได้ด้วย แต่อาจจะไม่ได้ใกล้มากนัก ทั้งกล้องหลักและกล้องเทเลโฟโต้ใหม่ จะมีช่วงไดนามิก (Dynamic Range) ที่สูงเป็นพิเศษ ทำให้ประสิทธิภาพการถ่ายโดยรวมของ Xiaomi 17 Ultra จะอยู่ในระดับที่สูงมาก
ทั้งนี้จากโพสต์เดียวกัน DCS ได้ตอบข้อมูลโมดูลกล้องรุ่นนี้ด้วย ว่าจะมีโมดูลกล้องทรงกลมขนาดใหญ่ ที่กินพื้นที่ด้านหลังตัวเครื่องไปเต็มๆ ซึ่งเป็นดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์ Ultra อยู่แล้ว และแน่นอนว่าด้วยโมดูลกล้องที่ใหญ่โตนี้ ก็อาจทำให้รุ่นนี้ไม่มีหน้าจอแสดงผลด้านหลังแน่นอน ไม่เหมือนกับรุ่นอื่นๆ ของซีรีส์ เช่น Xiaomi 17 Pro หรือ Xiaomi 17 Pro Max ที่มีขอด้านหลังด้วย
สำหรับสเปคหลักอื่นๆ ของ Xiaomi 17 Ultra จะขับเคลื่อนด้วยชิปเรือธง Snapdragon 8 Elite Gen 5 ตัวใหม่ตัวแรงที่ใช้ในซีรีส์ Xiaomi 17 ทั้งหมด ด้านหน้าจอเป็นแบบแบน OLED ขนาด 6.8 นิ้ว ความละเอียด 2K และอัตรารีเฟรชเรท 120Hz คาดว่าจะมี 3 สีให้เลือก ได้แก่ สีดำ สีขาว และสีม่วง คาดจะเปิดตัวในตลาดประเทศจีนช่วงต้นปี 2026 เพื่อท้าชนกับสมาร์ทโฟนเรือธงจากค่ายอื่นๆ ในช่วงเวลาเดียวกัน
ที่มา: gizmochina
