สมาร์ทโฟนปัจจุบันมีหลากหลายขนาดหน้าจอให้เลือกใช้ หลายคนก็ชอบจอเล็กเน้นพกพาง่าย หลายคนก็ชอบจอใหญ่เน้นความเอนเตอร์เทน แล้วแต่ความชอบกันไป ซึ่งสมาร์ทโฟนจอใหญ่ที่ผ่านมาจะมีตัวเครื่องที่ใหญ่มาก เพราะนอกจากหน้าจอที่ใหญ่แล้วยังมาพร้อมกับขอบหน้าจอที่กว้างทำให้ตัวเครื่องใหญ่ไปอีก แต่ในปัจจุบันเทคโนโลยีหน้าจอพัฒนาขึ้นมามากแล้ว ทำให้ขอบหน้าจอนั้นบางมาก ๆ ทำให้สมาร์ทโฟนจอใหญ่ 7 นิ้วในปัจจุบัน มีขนาดเท่ากับสมาร์ทโฟน 6 นิ้วในอดีต อย่างเช่น Huawei Y Max ที่เราได้มารีวิวในวันนี้ มากับหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 7.12 นิ้ว แต่ก็มาขนาดตัวเครื่องที่กำลังพอดีมือ ใครที่ชอบจอใหญ่ เน้นเล่นเกม ดูหนัง ตัวนี้ถือเป็นตัวเลือกที่ดีเพราะมีราคาที่ถือว่าคุ้มมาก ไปดู รีวิว Huawei Y Max ได้เลยครับ
รายละเอียดสเปค Huawei Y Max
- หน้าจอ IPS LCD ขนาด 7.12 นิ้ว อัตราส่วน 18.7 : 9 ความละเอียด 2244×1080 พิกเซล
- ขนาดตัวเครื่อง 177.57 x 86.24 x 8.48 มม. หนัก 210 กรัม
- ชิปประมวลผล Snapdragon 660 CPU Octa-core (4×2.0 GHz Kryo 260 & 4×1.8 GHz Kryo 260)
- แรม 4 GB
- หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 128 GB
- รองรับ microSD สูงสุด 256 GB
- กล้องหลัง Dual Camera ความละเอียด 16+2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้างสุด f/2.0 พร้อมกับ AutoFocus
- กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้างสุด f/2.0
- รองรับ Dual SIM แบบ Triple Slot
- พอร์ตเชื่อมต่อ microUSB
- แบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh รองรับ Fast Charging
- มีระบบสแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง
- ระบบปฏิบัติการ Android Oreo 8.1 พร้อมกับ EMUI 8.2
- ราคา 10,990 บาท
Design
Huawei Y Max นั้น Max สมชื่อจริง ๆ เนื่องจากมากับขนาดหน้าจอใหญ่ถึง 7.12 นิ้วที่มีความละเอียด Full HD+ อัตราส่วน 18.7 : 9 ตามยุคสมัยซึ่งหลายคนที่ชอบจอใหญ่อาจจะติดตรงขนาดเครื่องใหญ่ไป พกพายาก แต่สำหรับ Huawei Y Max นั้นมากับดีไซน์หน้าจอ FullView Display ทำให้ขอบตัวเครื่องนั้นบางมาก ส่งผลให้ตัวเครื่องสามารถใส่ในกระเป๋ากางเกงได้สบาย แต่หากจะใช้งานมือเดียวอาจจะไม่สะดวกสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะคนที่มือเล็ก
จากที่ใช้ดีไซน์หน้าจอแบบ Fullview ที่เน้นพื้นที่หน้าจอให้มีอัตราส่วนที่มากที่สุด จึงมีรอยบากหน้าจอทรงหยดน้ำด้านบนสำหรับกล้องหน้า และเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ซึ่งรอยบากทรงหยดน้ำมีข้อดีคือกินพื้นที่หน้าจอน้อยมาก ทำให้มีพื้นหน้าจอเพิ่มมากขึ้น
ส่วนด้านล่างบริเวณหน้าจอมีสัญลักษณ์ HUAWEI สีเงินดูโดดเด่น ส่วนปุ่มควบคุมต่าง ๆ จะอยู่ด้านล่างของหน้าจอ ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนตำแหน่งได้ตามความถนัดของแต่ละคน
ตัวเครื่องด้านหลังถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ไม่ค่อยพบเจอในปัจจุบัน นั่นก็คือฝาหลังที่ที่เล่นลวดลายเป็นหนัง แต่ความจริงแล้วเป็นพลาสติก ให้สัมผัสคล้ายหนัง ถูกผลิตขึ้นด้วยเทคโนโลยีพิเศษ laser micro-etching มองไกล ๆ แล้วจะคล้ายกับหนังเลยทีเดียว ที่สำคัญมีการเล่นตะเข็บด้านข้างอีกด้วย โดยรวมแล้วถือว่าทำได้ออกมาสวยงามหรูหราลงตัว และแปลกตาไม่เหมือนใคร
กล้องหลังอยู่มุมบนซ้ายของตัวเครื่อง มีดีไซน์วงกลมสองจุดที่ดูเข้ากัน ถัดลงมาด้านล่างเป็น LED Flash และข้อความ AI Camera ที่บอกว่ากล้องรุ่นนี้มากับ AI ส่วนเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเป็นวงกลมที่มีสีเข้ากับฝาหลังเป็นอย่างดีพร้อมกับเล่นขอบเป็นสีทอง
ส่วนด้านข้างของตัวเครื่องนั้นเป็นโลหะสีทองที่เข้ากับสีน้ำตาลของฝาหลัง ด้านขวาของตัวเครื่องเป็นปุ่ม Power และปุ่มเพิ่มเสียง ลดเสียง
ส่วนด้านซ้ายจะเป็นถาดใส่ซิมที่ใช้เข็มจิ้มออกมา ซึ่งเป็นถาดแบบ Dual SIM ที่สำคัญแบ่งช่องใส่ microSD อีกช่องอีกด้วย (3 Slot) นั่นหมายความว่าถาดนี้สามารถใส่ซิมพร้อมกับสองซิม และใส่ microSD ได้อีก
ส่วนด้านล่างของตัวเครื่องนั้นมีพอร์ตเชื่อมต่อ microUSB ลำโพงขับเสียง ไมค์รับเสียง และช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม.
ส่วนด้านบนตัวเครื่องนั้นมาพร้อมกับไมค์ตัดเสียงรบกวน และที่เห็นเป็นขีดนั่นคือ เสาอากาศ
Huawei Y Max มากับสเปคที่ถือว่าคุ้มมากหากมองเทียบกับราคา 10,990 บาท ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอที่ใหญ่ขนาด 7.12 นิ้วความละเอียดที่ Full HD+ นี่ก็ถือว่าตอบโจทย์ของคนที่ต้องการสมาร์ทโฟนจอใหญ่แล้ว ยังมาพร้อมกับชิปประมวลผล Snapdragon 660 ชิปตัวแรงที่สามารถเล่นได้ทุกเกม หรือใช้งานในชีวิตประจำวันได้แบบลื่น ๆ มากับแรมขนาด 4 GB ที่เพียงพอกับการใช้งานในปัจจุบัน และยังมากับรอมขนาด 128 GB
Software
Huawei Y Max มากับระบบปฏิบัติการ Android 8.1 ที่มาพร้อมกับ EMUI 8.2.0 ที่หน้าตาของธีมเหมือนกับ สมาร์ทโฟน Huawei ทั่วไป หน้าเมนูเน้นสีขาวเพื่อที่จะมองเห็นได้ง่าย
Performance
จากที่ได้ลองเล่นเกม ROV ดูแล้ว บอกเลยว่าเล่นเกมจอใหญ่ สะใจมาก ด้วยอัตราส่วนหน้าจอ 18.7 : 9 ที่ทำให้ปุ่มเขยิบออกมามากขึ้นทำให้มองเห็นภาพในเกมได้มากขึ้น ที่สำคัญเมื่อเทียบกับหน้าจออัตราส่วน 16 : 9 ยังมองเห็นแมพได้มากกว่าอีกด้วย ชิปประมวลผล Snapdragon 660 นั้น เป็นที่รู้กันว่าสามารถเล่นเกมได้ทุกเกมอยู่แล้ว สามารถปรับเฟรมเรตสูงสุดได้เลยสำหรับเกม ROV หรือแม้กระทั่ง PUBG เองก็เล่นได้สบาย
Camera
สำหรับกล้องนั้น มาพร้อมกับ กล้องคู่ ด้านหลังความละเอียด 16 MP และ 2 MP รูรับแสงกว้าง F2.0 + F2.4 ที่มี AI อัจฉริยะ สามารถจำแนกภาพได้ 22 ประเภท และแยกฉากหลังได้มากถึง 500 ฉาก เพื่อมอบประสบการณ์การถ่ายภาพที่สวยงามและชาญฉลาด สามารถปรับโหมดการถ่ายภาพแบบอัตโนมัติและจัดทำดัชนีแบบเรียลไทม์ ช่วยปรับสีภาพให้สดขึ้นแบบธรรมชาติ เช่น ภาพวิวทิวทัศน์ ภาพถ่ายบุคคล ภาพถ่ายสัตว์เลี้ยง อาหาร
อย่างภาพด้านล่างที่ AI สามารถจำแนกได้อย่างอัจฉริยะที่จำแนกการถ่ายภาพดอกไม้ เน้นทองฟ้า และใบไม้ เป็นต้น สังเกตจากไอคอน AI ด้านล่างของภาพ ส่วนกล้องหน้านั้นมีความละเอียดอยู่ที่ 8 MP มีรูรับแสงอยู่ที่ F2.0
จากที่ได้นำไปถ่าย พบว่าการประมวลผลของกล้องนั้นยังช้าไปนิด เมื่อเทียบกับรุ่น Huawei Y9 2019 ที่ได้ลองเล่นมาจะลั่นชัตเตอร์ได้ไวกว่า แต่อาจจะต้องรอประมวลผลเล็กน้อย ก่อนลั่นชัตเตอร์จับภาพให้ อาจจะเป็นเพราะซอฟต์แวร์ที่ยังทำงานได้ไม่สมบูรณ์กับชิป Snapdragon 660
อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีการปล่อยอัพเดทแก้ไขออกมาในภายหลัง แต่สำหรับคุณภาพของภาพถ่ายนั้นก็ทำออกมาได้ดีหลังถ่ายเสร็จ เป็นข้อดีของ AI จาก Huawei ที่ปรับแต่งมาเป็นอย่างดี ไปดูตัวอย่างภาพถ่ายกันเลยครับ
ตัวอย่างภาพถ่าย Huawei Y Max
สรุป
หากใครที่มองหาสมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่ ๆ สเปคคุ้ม ๆ ในราคาประมาณหนึ่งหมื่นบาท ต้องบอกเลยว่าห้ามพลาดที่จะอยู่ในตัวเลือก ด้วยสเปคที่ให้หน้าจอมาถึง 7.12 นิ้วแถมความละเอียดระดับ Full HD+ อีกด้วย ทำให้เล่นเกม ดูหนัง แบบคมชัดกันสะใจสุด ๆ
ชิปประมวลผลก็เป็นตัวแรงอย่าง Snapdragon 660 ที่สามารถเล่นได้ทุกเกมแบบไม่มีปัญหา และยังมากับแรมขนาด 4 GB และรอม 128 GB ให้ใช้กันแบบเหลือเฟือ ทั้งหมดนี้มีราคาของตัวเครื่องอยู่ที่ 10,990 บาทเท่านั้น ซึ่งถือว่าคุ้มมากกับสเปคที่ได้มา สิ่งที่ยังติดเป็นข้อสังเกตอยู่ก็คือในเรื่องของกล้องที่ยังทำได้ไม่ค่อยดีนัก แต่ถ้าใครซื้อมาเล่นเกม หรือดูหนัง บอกได้เลยว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
ข้อดี
- หน้าจอใหญ่สะใจ 7.12 นิ้ว แต่มีตัวเครื่องขนาดพกพาง่าย
- สเปคแจ่ม ในราคาหนึ่งหมื่น
- กล้องมี AI ช่วยประมวลผลให้ภาพถ่ายดีขึ้น
- แบตเตอรี่อึดมาก พร้อมฟีเจอร์ชาร์จเร็ว
- เน้นเล่นเกม และเอนเตอร์เทนขั้นสุด
ข้อสังเกต
- คนที่มือเล็ก ใช้งานมือเดียวจะไม่สะดวก
- กล้องถ่ายไม่ดีนักในช่วงกลางคืน และประมวลผลค่อนข้างช้า
- ยังใช้พอร์ตเชื่อมต่อ microUSB