HUAWEI Watch GT 3 SE สมาร์ทวอทช์เพื่อสุขภาพรุ่นใหม่ในราคาย่อมเยาว์มาให้เพื่อนๆ ที่ต้องการสมาร์ทวอทช์เพื่อสุขภาพได้เลือกซื้อกันแล้ว โดยจุดเด่นของ Watch GT 3 SE คือแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานถึง 14 วัน โหมดออกกำลังกายมากกว่า 100 โหมด มาพร้อมโหมดติดตามการนอน แถมยังใช้คุยโทรศัพท์ได้โดยไม่ต้องหยิบมือถือขึ้นมาด้วย เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทวอทช์ที่ครบครันในราคาคุ้มค่ามากๆ เนื่องจากปกติจะให้ได้ฟีเจอร์ทั้งหมดนี้อย่างน้อยๆ ราคาก็ราวๆ 8,000 – 10,000 บาทเข้าไปแล้ว เรียกได้ว่าคุ้มจริง สำหรับตัวสมาร์ทวอทช์จะเป็นอย่างไรเราไปดูกัน
สเปคของ HUAWEI Watch GT 3 SE
- หน้าปัดนาฬิกา : 46.4 x 46.4 x 11 มม.
- หน้าจอ : AMOLED ขนาด 1.43 นิ้ว ความละเอียด 466 x 466 พิกเซล
- ปุ่ม : ปุ่มเพาเวอร์, ปุ่มฟังก์ชัน
- น้ำหนักตัวเรือน (ไม่รวมสาย) : 35.6 กรัม
- สายนาฬิกา : TPU Fiber
- วัสดุสายนาฬิกา : Durable Polymer Fiber
- ความยาวสายนาฬิกา : 140-210 มม.
- สี : Graphite Black, Wilderness Green)
- การเชื่อมต่อ :
- Bluetooth 5.2
- GPS
- เซ็นเซอร์ :
- Accelerometer sensor
- Gyroscope sensor
- Magnetometer sensor
- Optical heart rate sensor
- Barometer sensor
- ลำโพง : รองรับ
- ไมโครโฟน : รองรับ
- ระบบปฎิบัติการที่รองรับ : HarmonyOS 2 หรือใหม่กว่า / Android 6.0 หรือใหม่กว่า / iOS 9.0 หรือใหม่กว่า
- โหมดการออกกําลังกาย : มากกว่า 100 โหมด
- มาตรฐานการกันน้ำ : มาตรฐานกันน้ำระดับ 5ATM
- ระยะเวลาใช้งาน : 7 วัน ถ้าใช้งานเต็มที่และ 14 วันถ้าใช้งานปกติ
- เทคโนโลยีการชาร์จ : ชาร์จไร้สาย
ดีไซน์ของ HUAWEI Watch GT 3 SE
Watch GT 3 SE เป็นสมาร์ทวอทช์ที่เน้นเรื่องความใส่สบายและน้ำหนักที่เบา แต่มาด้วยหน้าจอแบบสัมผัสที่มีขนาดใหญ่ถึง 1.43 นิ้ว และด้วยความที่เป็นหน้าจอ AMOLED จึงให้สีสันที่สวยสดไปด้วย ตัวเรือนใช้วัสดุเป็น Polymer Fiber จึงทำให้น้ำหนักตัวเรือนมีความเบาเพียง 35.6 กรัม ช่วยให้สวมใส่สบายข้อมือขึ้นเยอะ แถมตัวหน้าปัดยังสามารถเปลี่ยนได้เยอะเลยด้วย
ที่ด้านหลังของตัวเรือนวัสดุเองก็เป็น Polymer Fiber โดยจะมีเซ็นเซอร์ต่างๆ เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ, ค่าออกซิเจนในเลือด, ค่าความเครียด รวมไปถึงคุณภาพการหลับนอน เป็นต้น โดยที่รอบเซ็นเซอร์นั้นจะมีรายละเอียดเล็กๆ ของตัวเรือนเช่น ข้อความที่ระบุว่ากันน้ำได้กี่ ATM หรือเลขรหัสของตัวสมาร์ทวอทช์เป็นต้น
ในส่วนของสายจะเป็นสายแบบ TPU ซึ่งมีความยืดหยุ่นทำให้สวมใส่สบายแถมยังทนทานอีกด้วย ซึ่งตัวสายนี้สามารถถอดเปลี่ยนได้ด้วยการดันสลักที่อยู่ใกล้ตัวเรือน นอกจากนี้เพื่อป้องกันการหลุดของสายจึงได้มีการใส่สลักหมุดเอาไว้ที่เข้มขัดรัดสายอีกด้วย
สำหรับด้านข้างตัวเรือนนั้นปุ่มทั้งหมดจะอยู่รวมกันที่ฝั่งขวาไม่ว่าจะเป็นปุ่มเพาเวอร์หรือปุ่มฟังก์ชัน รวมถึงยังมีลำโพงอยู่ระหว่างปุ่มด้วย ซึ่งปุ่มเพาเวอร์จะใช้เข้าหน้าเมนูรวม ส่วนปุ่มฟังก์ชันจะเป็นปุ่มลัดสำหรับการเข้าโหมดออกกำลังกายอย่างรวดเร็ว ที่ฝั่งซ้ายของตัวเรือนจะมีไมโครโฟนเอาไว้ใช้สนทนาอยู่ที่ขอบล่างด้วย
สำหรับอุปกรณ์ภายในกล่องที่ให้มานั้นนอกจากตัว Watch GT 3 SE แล้วจะมีแท่นชาร์จแบบไร้สายและหนังสือคู่มือมาในกล่อง
การเชื่อมต่อ
ในการเชื่อมต่อกับ HUAWEI WATCH GT 3 SE นั้นถ้าไม่ได้ใช้มือถือ HUAWEI ก็จำเป็นต้องไปโหลดแอปฯ HUAWEI Health มาติดตั้งก่อน โดยให้ไปโหลดแอปฯ HUAWEI Health ผ่านทาง AppGallery หลังจากนั้นก็ทำการล็อคอินให้เรียบร้อย ในการเชื่อมต่อจะมีอยู่ 2 วิธีคือเชื่อมต่อโดยการกดเลือกรุ่นในหน้าแอปฯ หรือใช้วิธีอ่าน QR Code จากบนตัว Watch GT 3 SE เอา ซึ่งวิธีหลังง่ายกว่าเยอะ ซึ่งหลังจากทำตามขั้นตอนไปเรื่อยๆ ก็จะสามารถเชื่อมต่อ HUAWEI Watch GT 3 SE กับตัวมือถือได้แล้ว
โดยหลังจากเชื่อมต่อแล้วตัวแอปฯ จะแสดงข้อมูลต่างๆ เอาไว้ในหน้าอุปกรณ์ทั้งชื่อรุ่น, สถานะการเชื่อมต่อ และปริมาณแบตเตอรี่ นอกจากนี้ยังมีหัวข้อสำหรับเอาไว้เปลี่ยนหน้าปัด, จัดการเพลง และ AppGallery ด้วย
สำหรับหน้าแรกที่เป็นเมนูริมซ้ายสุดจะเป็นหน้ารวมผลสรุปต่างๆ เอาไว้ไม่ว่าจะเป็นจำนวนก้าว, ระยะทาง, พลังงานที่เผาผลาญ, อัตราการเต้นของหัวใจ, การนอนหลับ ฯลฯ ทั้งหมดจะสรุปรวมเอาไว้ในหน้านี้
ต่อมาคือหน้าที่ชื่อ ออกกำลังกาย โดยจะเป็นหน้าที่สรุปรวมกับการออกกำลังกายทั้งหมดที่เราทำไว้ในหน้านี้ นอกจากจะเก็บข้อมูลแล้วยังสามารถช่วยวางแผนการออกกำลังกายให้เราได้อีกด้วย โดยจะมีการแบ่งเป็นระดับตามความหนัก-เบาในการออกกำลังกาย รวมถึงสามารถวางแผนฝึกฝนสำหรัยการวิ่งมาราธอนได้ด้วยนะ
ฟีเจอร์ต่างๆ ที่น่าสนใจ
สิ่งแรกที่น่าสนใจใน Watch GT 3 SE ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดเด่นของรุ่นนี้เลยก็คือโหมดการออกกำลังกายที่มีมากกว่า 100 โหมดที่ช่วยให้เราสามารถออกกำลังกายได้ทุกที่ตั้งแต่ในห้องนอนยันนอกบ้านเลยทีเดียว โดยตัวสมาร์ทวอทช์จะทำการบันทึกและตรวจจับการออกกำลังกายของเราแล้วนำไปวิเคราะห์พร้อมแนะนำการออกกกำลังกายที่ดีที่สุดให้ แถมๆ ตัวเรือนยังกันน้ำได้ถึงระดับ 5ATM ช่วยให้สามารถใส่ลงไปว่ายน้ำได้ด้วยนะเออ
นอกจากจะช่วยเรื่องการออกกำลังกายแล้วตัวสมาร์ทวอทช์ยังสามารถตรวจการนอนหลับแบบละเอียดได้ด้วยไม่ว่าจะเป็นการหลับลึก, หลับตื้น, การขยับของดวงตา หรือแม้แต่การกรนก็ตาม ซึ่งตัวสมาร์ทวอทช์จะบันทึกทุกอย่างแล้วเอามาสรุปผลให้ดูผ่านแอปฯ ทั้งหมดเลย
ฟีเจอร์หลักๆ ที่เราต้องใช้กันแน่นอนคือการตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจและการตรวจวัดระดับออกซิเจนเอง Watch Gt 3 SE ก็มีเช่นกัน แถมยังช่วยเตือนเป้าหมายที่ต้องทำไม่ว่าจะเป็นการดื่มน้ำ, การกินยา และอื่นๆ อีกมากมายได้ด้วย
อีกสิ่งที่ทาง HUAWEI ชูจุดเด่นของ Watch GT 3 SE ก็คือแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 14 วัน ซึ่งถ้าใช้งานแบบจัดเต็มทาง HUAWEI ก็เคลมว่าสามารถใช้งานได้ถึง 7 วัน ซึ่งถ้าพูดถึงระยะเวลาในการใช้งานแล้วก็นับว่าเพียงพอจริงๆ แถมยังการชาร์จไร้สายแบบย้อยกลับจากมือถืออีกด้วย ช่วยให้เวลาออกกไปไหนแล้วไม่ได้พกที่ชาร์จไปก็ยังสามารถชาร์จสมาร์ทวอทช์ตัวนี้ได้อยู่ (แต่มือถือก๋ต้องรองรับฟีเจอร์ชาร์จไร้สายแบบย้อนกลับด้วยนะ)
สรุปการรีวิว HUAWEI Watch GT 3 SE จากการใช้งาน
HUAWEI Watch GT 3 SE จากที่ได้ลองเอาไไปใช้งานมาระยะหนึ่งนั้นโดยส่วนตัวแล้วค่อนข้างติดใช้ได้ เนื่องจากผู้เขียนเป็นคนไม่ค่อยชอบใส่นาฬิกาหนักๆ จึงเลือกใส่แต่สมาร์ทแบนด์ แต่พอมาใส่ Watch GT 3 SE ตัวนี้แล้วก็ติดใจขึ้นมาเลยเพราะมันเบามากๆ ใส่แล้วไม่รู้สึกหนักข้อมือเลยแม้แต่น้อย แถมฟีเจอร์ต่างๆ ก็ยังมีมาให้พร้อมสรรพ ไม่ว่าจะเป็นโหมดออกกำลังกายที่ครอบคลุมทุกกิจกรรม ระบบตรวจจับที่สามารถตรวจวัดได้แทนตลอดเวลา และลำโพงที่เรียกได้ว่าดังพอสมควร ช่วยให้สามารถฟังเพลงหรือคุยโทรศัพท์ในที่สาธารณะได้ เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทวอทช์สำหรับคนออกกำลังกายที่ไม่ชอบให้มีอะไรหนักๆ มาถ่วงข้อมือ หรือไม่ก็เป็นคนที่ต้องการสมาร์ทวอทช์น้ำหนักเบาๆ มาใช้เช็คสุขภาพแบบตลอดเวลานั่นเอง ซึ่งถ้าใครที่สนใจสามารถเข้าไปสั่งซื้อล่วงหน้าแบบ Exclusive ได้ตั้งแต่วันที่ 11 – 14 พฤศจิกายน 2565 ที่ Lazada ตามลิ้งดังต่อไปนี้ได้เลย bit.ly/3UbaCLY โดยตัวสมาร์ทวอทช์จะมีราคาอยู่ที่ 6,499 บาทเท่านั้น และเมื่อทำการสั่งซื้อก็จะได้ของแถมเป็น HUAWEI mini Speaker มูลค่า 1,090 บาทไปด้วย พิเศษสำหรับคนที่สั่งซื้อผ่าน Lazada จะได้ HUAWEI City Travel Package 2 มูลค่า 1,690 บาทเพิ่มไปด้วยนะ