
ที่งาน MWC 2025 ทาง SPECPHONE ได้รับเชิญจากทาง realme ประเทศไทย พาทีมงานเดินทางลัดฟ้าไปที่เมืองบาร์เซโลนาประเทศสเปน ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานดังกล่าว สำหรับใครที่ไม่ทราบว่างาน MWC คืออะไร ขออนุญาตอธิบายและสรุปได้อ่านทำความเข้าใจกันง่ายๆดังนี้ครับ
งาน Mobile World Congress (MWC) 2025 เป็นงานประชุมและนิทรรศการระดับโลกที่สำคัญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีมือถือและการสื่อสาร จัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-6 มีนาคม 2025 ที่ Fira Gran Via ในเมืองลอสปิตาเลต เด ยอเบรกัต ใกล้บาร์เซโลนา ประเทศสเปน

มาตรฐานใหม่ใน Smartphone realme
มาต่อกันที่บูธของ realme เริ่มจากการโชว์สมาร์ทโฟนแช่น้ำ ซึ่งบ่งบอกให้รู้ว่า สมาร์ทโฟน realme มีมาตรฐาน ใหม่สามารถกันน้ำกันฝุ่นได้ทุกรุ่น ตั้งแต่รุ่นราคาเริ่มต้นจนไปถึงรุ่นท็อประดับเรือธง ซึ่งจากรูปจะเห็นตัวรุ่นเล็กสุดที่นำมาโชว์จะเป็น realme c75 ซึ่งก็ใช้มาตรฐานกันน้ำ IP69 เป็นต้นไป โดยความหมายของ IP69 แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ
ตัวเลขตัวแรก 6 = ป้องกันฝุ่นระดับสูงสุด (Dust-tight)
– หมายความว่าอุปกรณ์มีการปิดผนึกอย่างสมบูรณ์ ไม่ให้ฝุ่นเข้าไปได้เลย
ตัวเลขตัวที่สอง 9 = ป้องกันน้ำแรงดันสูงและอุณหภูมิสูง
– สามารถทนต่อ น้ำแรงดันสูง (สูงสุด 100 บาร์) ที่ฉีดจากทุกทิศทาง
– สามารถทนต่อ น้ำร้อนที่อุณหภูมิสูงถึง 80°C
– ใช้สำหรับอุปกรณ์ที่ต้องผ่านการล้างทำความสะอาดแบบแรงดันสูง เช่น อุตสาหกรรมอาหาร, ยานยนต์ และเครื่องจักร
สำหรับใครที่ต้องการทราบข้อมูลของมาตรฐาน IP เพิ่มเติมสามารถคลิกที่ LINK นี้ได้เลย

สมาร์ทโฟนไฮไลท์ realme 14 Pro Series
สมาร์ทโฟนไฮไลท์จากเร็วดีคงหนีไม่พ้น realme 14 Pro Series ซึ่งเป็น สมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่ฝาหลังสามารถเปลี่ยนสีได้ตามอุณหภูมิของบรรยากาศที่เราอยู่โดยเริ่มเปลี่ยนสีที่อุณหภูมิต่ำกว่า 17 องศาเซลเซียส
สังเกตได้จากรูปทางซ้ายมือที่ตัวเครื่องอยู่ในสภาวะอุณหภูมิที่สูงกว่า 17 องศาเซลเซียสจะมีสีฟ้าหลังเป็นสีโทนขาวหรือโทนอุ่นและเมื่อเทียบจาก รูปเครื่องด้านขวามือซึ่งแช่อยู่ในน้ำเย็นที่อุณหภูมิต่ำกว่า 17 องศาเซลเซียสจะเปลี่ยนสีเป็นสีฟ้าน้ำทะเล
โดย realme 14 Pro มีให้เลือกซื้อในยุโรปด้วยกัน 2 สี คือ สีขาว Pure white และสีดำที่ฝาหลังเป็นแบบหนัง Vegan
ความต่างของ realme 14 Pro และ realme 14 Pro Plus
ภายในงานยังมีเปิดตัวอีกหนึ่งรุ่นนั้นคือ realme 14 Pro Plus (รุ่นที่ทีมงานได้มาจะเป็น 14 โปร 5G) ที่มีหน้าตาไม้คล้ายคลึงกันจนแทบจะแยกไม่ออก โดยมีความต่างของกล้องซึ่งถ้าเป็น realme 14 Pro Plus จะให้กล้องมาทั้งหมดสามตัว แบ่งเป็น
– 50MP Sony IMX882 Periscope คือ กล้องที่มีเทคโนโลยีการซูมแบบ Optical Zoom แบบไม่สุญเสียรายละเอียดของภาพ
– 50MP Sony IMX896 OIS Camera คือ เป็นกล้องหลักที่มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอล เป็นเทคโนโลยีในกล้องมือถือที่ช่วยลดการสั่นของภาพและวิดีโอ ทำให้ได้ภาพที่คมชัดขึ้นแม้ในขณะที่มือสั่นหรืออยู่ในสภาพแสงน้อย
– 8MP Ultra-Wide Camera คือ กล้องมุมกว้างพิเศษ ทำให้สามารถเก็บรายละเอียดของฉากได้มากขึ้นในภาพเดียว
โดยเทียกับตัว realme 14 Pro 5G ที่ทางทีมงานได้นำมาใช้งานจริงในทริปนี้ จะความต่างของกล้อง คือ 50MP Sony IMX882 OIS Camera และ Monochrome Camera ซึ่งเป็นกล้องที่ใช้สำหรับคำนวณระยะชัดตื้นชัดลึกเพื่อช่วยให้กล้องหลักสามารถถ่ายภาพแบบบุคคลหรือ Portrait ให้มีมิติที่ชัดเจนมากขึ้น
realme 14x
ภายในงานยังมีเปิดตัวตัว realme 14x ที่เป็นพี่น้องตามกันมากับ realme c75 แต่จะต่างกันที่ realme 14x รองรับ 5G และที่สำคัญ ยังไม่มีวี่แวงจะเข้าไทยในเร็วๆนี้แน่นอน
realme Buds Air7
หูฟัง realme Buds Air7 เป็นอีกสินค้าที่เปิดตัวภายในงาน หน้าตาสวยงามน่าใช้ ที่สำคัญ คาดว่าจะเข้าไทยในเร็วๆนี้
AI Sketch to Image
มาถึง Hilight ที่สำคัญภายในบูธ realme ที่งาน MWC2025 ในครั้งนี้คงหนีไปไม่พ้นเรื่องของ Ai ที่ทุกๆแบรนด์ต่างพัฒนา Ai ของตัวเองให้ฉลาดและใช้งานได้ง่ายที่สุดเพื่อประสบการณ์ที่ดีของผู้ใช้ โดยเริ่มจาก AI Sketch to Image คือการวาดรูปด้วยการลากลายเส้นง่ายๆและให้ Ai Generate รูปที่เราวาดออกมาให้ได้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับความต้องการของผู้ใช้มากที่สุด
Ai Voice-based Retoucher
Ai ตัวต่อมาที่ทาง realme พัฒนาเพื่อให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานในการแต่งรูปที่สุดก็คือ Ai Voice-based Retoucher ซึ่งความสามารถหลักๆ ก็คือการรับคำสั่งเสียงในการสร้างรูปภาพหรือภาพถ่ายให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานที่สุด จากตัวอย่างในรูป คือ การเติมพุลงในฉากหลังของรูปที่เราต้องการ ปกติแล้ว เราอาจจะสามารถทำได้ด้วยการ วาดรูปลายเส้นให้ดูใกล้เคียงกับพุลงไปในรูปแล้วรอให้ Ai Generate รูปขึ้นมา แต่ Ai Voice-based Retoucher จะต่างออกไปโดยการเลือกรูปที่เราต้องการ แล้วพูดสิ่งที่ต้องการลงไปได้เลย เช่น เพิ่มพุลงไปในฉากหลัง แล้ว Ai ก็จะประมวลผลคำสั่งเสียงและ Generate พุลงไปในภาพที่เราต้องการให้โดยใช้เวลาไม่กี่วินาที
AI Video Eraser
Ai ตัวนี้ถูกพัฒนามาเพื่อหลายๆคนที่ชื่นชอบการทำ content ในรูปแบบของ video โดยทาง realme นำเสนอในส่วนของการลบคนที่ไม่ต้องการให้อยู่ในคลิปได้อย่างสมูทและแนบเนียน ที่สำคัญ สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วย smartphone เครื่องเดียวของ realme
AI Ultra Clarity
AI ตัวนี้ถูกพัฒนาให้มีสามารถในการปรับภาพที่เบลอ หรือรายละเอียดไม่ชัดเจนให้กลับมามีรายละเอียดที่ดีและชัดเจนมากขึ้น ซึ่ง smartphone ของ realme ในหลายๆรุ่นที่วางจำหน่ายในประเทศไทย สามารถใช้งานได้แล้ว
realme Ultra
มาถึง Smartphone ตัว Concept ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่างถ่ายภาพมืออาชีพอย่าง realme Ultra ซึ่งมีจุดเด่นคือ สามารถเพิ่มเลนส์ภายนอกสำหรับการถ่ายภาพที่ต้องการรายละเอียดที่ดีและมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น โดยตัวเครื่องมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ภ่ายภาพขนาด 1 นิ้ว (IMX989) จาก Sony ความละเอียด 50MP โดยเลนส์ที่นำมาโชว์ในงานจะเป็นเลนส์ซูม 10X ซูมสูงสุดได้ที่ 60x โดยไม่สูญเสียรายละเอียดและได้มิติภาพที่ดีใกล้เคียงกับกล้องระดับมืออาชีพ ซึ่งแน่นอน ยังคงยังเเป็น Smartphone Concept ยังไม่มีวางจำหน่ายแต่อย่างใด แต่ถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นในอนาคตที่ realme อาจจะทำ Smarrtphone ที่มีกล้องระดับมืออาชีพแต่ใช้งานง่ายมาวางจำหน่ายก็เป็นได้
เปิดราคา realme 14 Pro
realme 14 Pro ที่เปิดตัวในฝั่งยุโรปนั้น จะมี 2 สเปคด้วยกัน คือ
– 8GB+256GB เปิดราคาที่ 429.99 ยูโร ประมาณ 16,630.54 บาท
– 12GB+512GB เปิดราคาที่ 429.99 ยูโร ประมาณ 17,145.52 บาท
แน่นอนว่า เข้ามาจำหน่ายในไทยเร็วๆนี้แน่นอน ในส่วนของราคาที่เป็นทางการในไทย ต้องรอทาง realme ประเทศไทยเปิดราคาอีกที คาดว่าราคาไม่น่าจะต่างจากที่ยุโรป หรืออาจจะถูกกว่าก็เป็นได้
เปิดราคา realme 14 Pro Plus
realme 14 Pro Plus ตัวนี้ต้องบอกก่อนว่า ทางทีมงานได้สอบถามกับทาง realme ประเทศไทยแล้วว่า ไม่ได้นำเข้ามาจำหน่ายในไทยเร็วๆนี้อย่างแน่นอน และในส่วนของราคาที่เปิดตัวที่ฝั่งยุโรปนั้นจะมี 2 สเปคที่วางจำหน่ายเช่นเดียวกันกับ realme 14Pro 5G ก็คือ
– 8GB+256GB เปิดราคาที่ 529.99 ยูโร ประมาณ 18,819.68 บาท
– 12GB+512GB เปิดราคาที่ 579.99 ยูโร ประมาณ 20,607.82 บาท