นอกจากสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ที่ทุกวันนี้เราพกกันจนแทบเป็นปัจจัยที่ 5 กันไปแล้ว ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่จะขาดไปไม่ได้นั่นก็คือ แหล่งพลังงานสำรองหรือที่เรียกกันติดปากว่า Power Bank นั่นเอง ในวันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยกันว่าหากระหว่างวันแบตเตอรี่ของเราไม่พอใช้ เราจะต้องเลือกซื้อ Power Bank อย่างไรให้คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป และพอใช้ไปตลอดทั้งวัน
การทดลองนี้จะนำ Power Bank 3 ขนาดความจุมาทดลอง โดยตัวแรกคือ Samsung Portable Charger ความจุ 3,100 mAh ตัวที่สองเป็น PowerCore+ ความจุ 3,350 mAh และตัวสุดท้าย AmazonBasics portable power bank ความจุ 16,100 mAh
และเมื่อทดสอบความจุจริง ๆ แล้วจะได้ 2,130 , 2,337 และ 12,380 mAh ตามลำดับครับ
และถ้าเพื่อน ๆ ลองสังเกตดูจะพบตัวเลขอีกค่าหนึ่งนอกจากความจุนั่นก็คือ Wh หรือ Watt-hours ซึ่งมันคือค่าหวามจุของแบตเตอรี่คูณกับความต่างศักย์ของแบตเตอรี่นั่นเอง
นั่นแสดงว่าแบตเตอรี่นั้นมีความต่างศักย์ประมาณ 3.7 v แต่ถ้าจะให้ชาร์จโทรศัพท์ของเราได้ต้องใช้ความต่างศักย์ถึง 5 v เมื่อคำนวณดูแล้วจะพบว่าที่ความต่างศักย์ 3.7 v จะให้ค่าความจุที่ประมาณ 3,200 mAh แต่เมื่อจ่ายที่ความต่างศักย์ 5 v จะทำให้ความจุนั้นเหลือเพียงประมาณ 2,400 mAh เท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อพลังงานถูกป้อนจาก Power Bank มาที่ตัวโทรศัพท์ผ่านทางสาย ย่อมทำให้เกิดความสูญเสียพลังงานจากความต้านทานภายในสาย 8% ถึง 25% ขึ้นอยู่กับคุณภาพของสาย แล้วอย่างนี้จะเหลือใช้จริงซะเท่าไรกันล่ะเนี่ย ?
แบบนี้ก็จะพกยากไปนะ
ครั้นจะซื้อให้ใหญ่ ๆ ความจุเยอะ ๆ ไปเลยก็คงสิ้นเปลือง แถมยังพกพาไปไหนมาไหนยากลำบากอีกต่างหาก ในวันนี้เราจึงนำสูตรคำนวณง่าย ๆ มาฝากเพื่อน ๆ ได้ลองคำนวณดูนะครับ
” โดยความจุจริงๆของ Power Bank = [(ความจุ Power Bank ที่เขียนบนฉลาก x 3.7) / 4.2] x 0.8 “
สมมติว่า Power Bank บนฉลากบอกว่าจุ 5,000 mAh จะมีความจุจริง ๆ เมื่อเรานำมาใช้งานชาร์จมือถือ = [ ( 5,000 x 3.7 ) / 4.2 ] x 0.8 ดังนั้นเมื่อเรานำมาใช้งานจริงก็เท่ากับว่ามีความจุประมาณ 3,500 mAh เท่านั้นเอง และเมื่อเรามองกลับมาดูที่สมาร์ทโฟนของเรา หากว่ามีความจุแบตเตอรี่ในเครื่องประมาณ 3,000 mAh ก็จะสามารถชาร์จได้ 1 รอบพอดีเลยครับ
ดังนั้นหากเพื่อน ๆ ไม่ได้ลุยป่า 3 วัน 2 คืน หรือใช้งานหนักๆทั้งวัน ก็ไม่มีความจำเป็นต้องซื้อ Power Bank ใหญ่ ๆ ให้เกินความจำเป็นเลยครับ แล้วผมขอแนะนำให้เพื่อน ๆ ใช้สาย USB แบบสั้น ๆ เพื่อลดความต้านทานที่สูญเสียไป แถมยังช่วยให้ชาร์จเร็วขึ้นอีกด้วย
ที่มา : AndroidAuthority