ถ้าพูดถึง Android นั้นอีกคำหนึ่งที่คนจะนึกถึงกันก็คือคำว่า Fragmentation เพราะการมีการออกรุ่นใหม่ที่บ่อยมากแต่การอัพเดทไปเป็นเวอร์ชันล่าสุดนั้นกลับทำได้ล่าช้าเพราะต้องเสียเวลาในการพัฒนาตัวอัพเดทให้เข้ากับฮาร์ดแวร์ชนิดนั้นโดยเฉพาะ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องยากทีเดียวเพราะนอกจาก Android รุ่นใหม่ๆ มักจะใช้ทรัพยาการเครื่องที่สูงขึ้นแล้ว ผู้ผลิตเองก็ประสบปัญหาในการออกตัวอัพเดทเนื่องจากผู้ผลิตซีพียูนั้นเลิกให้การสนับสนุนความช่วยเหลือด้านเทคนิคไปด้วยเช่นเดียวกัน
ทาง Opensignal ได้ออกรายงานชิ้นหนึ่งที่ให้ความเห็นว่า Fragmentation นั้นอาจจะถูกมองในแง่ร้ายกว่าที่หลายคนคิด เพราะถึงแม้ว่านักพัฒนาจะประสบความยากด้านเทคนิคในการออกแบบแอพลิเคชันให้แสดงผลได้เหมาะสม แต่ Fragmentation นั้นก็เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ Android ประสบความสำเร็จจนถึงทุกวันนี้ทั้งในแง่ของผู้ใช้ที่สามารถเลือกซื้อเครื่องได้ตรงตามความต้องการของตัวเองมากที่สุดเพราะมีหลายแบรนด์ สเปค ฟีเจอร์และราคา สำหรับนักพัฒนานั้นโอกาสที่แอพของตนจะสามารถเข้าถึงผู้ใช้งานจำนวนมาก ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากในการทำก็ตาม แต่ผู้พัฒนาก็จะได้รับผลตอบแทบอย่างคุ้มค่าถ้าสามารถทำได้สำเร็จ และสถานะของ Fragmentation โดยรวมในตอนนี้นั้นไม่ได้ถือว่าน้อยลง แต่กลับมากขึ้นด้วยซ้ำ เพราะนอกจาก Android เอง ฝั่งของ iOS ก็เริ่มมีฮาร์ดแวร์และขนาดหน้าจอที่หลากหลายขึ้น ทั้ง iPad mini รวมไปถึง iPhone ราคาถูกที่จะออกมาในเร็วๆ นี้
คาดว่าในไม่ช้าเรื่อง Fragmentation นั้นอาจจะกลายเป็นเรื่องธรรมดาๆ ที่อาจจะไม่สามามารถมองได้ว่าเป็นปัญหา (ซะทีเดียว) เหมือนกับที่เป็นจุดอ่อนของเฉพาะบน Android อีกต่อไป เพราะแม้กระทั่ง Apple ที่ควบคุมฮาร์ดแวร์อย่างใกล้ชิดนั้นก็ออกฮาร์ดแวร์ที่มีความหลากหลายมากขึ้นเมื่อเทียบกับในอดีตที่ผ่านมาครับ
ที่มา : BGR