ช่วงหลังนี้เรามักได้เห็นมือถือลดราคากันบ่อยขึ้น โดยเฉพาะพวกรุ่นที่เริ่มเก่า ออกมาในตลาดได้เกือบปีก็ได้เห็นมีลดกันอยู่เรื่อยๆ รวมถึงพวกมือถือรุ่นท็อปด้วย ซึ่งบางตัวนี่ลดราคาลงมาซะเหลือใกล้เครื่องรุ่นใหม่ราคากลางๆ เลยด้วยซ้ำ ทำให้มีหลายๆ ท่านรู้สึกลังเลว่า เอ๊ะ! จะซื้อตัวไหนดี ระหว่างมือถือรุ่นท็อปตัวเก่าลดราคา กับมือถือรุ่นใหม่ ราคากลางๆ (หมื่นกว่าๆ ขึ้นไป) ในบทความนี้เราจะมาดูจุดเด่น จุดที่น่าสนใจของทั้งสองแบบกันครับ ว่ามีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
สเปค
มือถือรุ่นท็อปตัวเก่าลดราคา – ถ้าเรื่องของสเปค อันนี้ค่อนข้างแน่นอนอยู่แล้วว่ามือถือรุ่นท็อป ต้องมาพร้อมสเปคสุดแรงของในแต่ละปี ทั้งชิปประมวลผลที่แรง แรมก็เยอะ หน้าจอก็สวย คมชัด และยังสามารถใช้งานไปได้อีกนานแบบไม่น่าเกลียดแน่นอน
มือถือรุ่นกลางตัวล่าสุด – ถ้าเป็นเมื่อก่อน ส่วนใหญ่แม้ว่าจะเป็นมือถือรุ่นกลางตัวใหม่ สเปคก็อาจจะยังสู้รุ่นท็อปปีก่อนหน้าไม่ค่อยได้เลยด้วยซ้ำ แต่พอในช่วงหลังมานี้ เราเริ่มได้เห็นพวกมือถือรุ่นหมื่นกลางๆ มาพร้อมสเปคที่แซงหน้าตัวท็อป ทั้งเรื่องชิปประมวลผลที่เทคโนโลยีสดใหม่กว่า หน้าจอก็คมชัดกว่า ความละเอียดสูงกว่า กล้องถ่ายสวยกว่าเดิมมาก โดยเฉพาะกับมือถือจีนตัวคุ้มๆ เช่น Xiaomi, vivo, OPPO เป็นต้น อันนี้ก็ต้องดูเป็นรุ่นๆ ไปครับ
ฟีเจอร์เสริมอื่นๆ
มือถือรุ่นท็อปตัวเก่าลดราคา – ตามปกติแล้ว พวกมือถือรุ่นท็อปก็มักจะมาพร้อมฟีเจอร์เสริมระดับจัดเต็มกันตลอดๆ เรียกว่าบางฟีเจอร์นี่เปิดตัวมาพร้อมกับมือถือตัวนั้นเป็นครั้งแรกเลยทีเดียว จากนั้นจึงค่อยตามใส่มาให้ในรุ่นกลางๆ ที่ออกมาหลังจากนั้น ซึ่งถ้าใครที่ชอบมือถือแบบมีลูกเล่นสนุกๆ การเล่นมือถือตัวท็อปแม้ว่าจะเป็นรุ่นเก่ากว่าหน่อย ก็ยังน่าจะตอบโจทย์ได้ดีอยู่ครับ
มือถือรุ่นกลางตัวล่าสุด – ถ้าเป็นเมื่อก่อน ฟีเจอร์ของพวกมือถือรุ่นกลางๆ ก็มักจะมาหลังจากปล่อยให้ใช้งานก่อนในรุ่นท็อปนี่ล่ะ แต่พอมายุคนี้ กลายเป็นว่าพวกมือถือรุ่นกลางต่างก็ต้องมีจุดเด่นของตัวเอง ซึ่งจุดเด่นที่ว่านี่ บางทีเรียกว่ากลายเป็นจุดขายให้กับตัวเครื่องเลยด้วยซ้ำไป เช่น กล้องหมุนได้ กล้องหน้าความละเอียดสูงมากๆ ระบบเสียงขั้นเทพ และเจ้าฟีเจอร์เหล่านี้ เผลอๆ จะใช้งานได้ดีแซงหน้ามือถือรุ่นท็อปเลยด้วยซ้ำ
ซึ่งถ้ามองมือถือในตลาดตอนนี้ จะกลายเป็นว่าพวกมือถือราคาหมื่นกลางๆ ถึงสองหมื่นกลับมีจุดเด่นน่าซื้อซะมากกว่ามือถือราคาสองหมื่นขึ้นไปซะอีก และบางตัวก็สามารถตอบโจทย์การใช้งานจริงได้ดีกว่าด้วย อันนี้ก็คงน่าจะถูกใจคนที่ชอบฟีเจอร์เฉพาะทางของแต่ละตัวกันไปล่ะนะครับ
บอดี้ งานประกอบ
มือถือรุ่นท็อปตัวเก่าลดราคา – คงไม่ต้องบรรยายมากเลยครับ สำหรับวัสดุ บอดี้และงานประกอบของมือถือรุ่นท็อป แม้ว่าจะเป็นรุ่นเก่า แต่งานก็จัดว่าอยู่ในระดับคุณภาพสูงของกลุ่มมือถือด้วยกันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นบอดี้โลหะ งานเชื่อม งานเกลาผิวที่ดี สัมผัสที่เข้ารูปมือ ทั้งหมดนี้เราก็มักจะได้เห็นกันอยู่แล้วในมือถือรุ่นท็อป แม้ว่าจะเป็นรุ่นเก่าก็ตาม
มือถือรุ่นกลางตัวล่าสุด – ตอนนี้เหล่ามือถือรุ่นกลางๆ ต่างก็ได้รับการพัฒนาในส่วนนี้ขึ้นมากทีเดียว หลายรายเริ่มนำโลหะเข้ามาเป็นหนึ่งในส่วนประกอบตัวเครื่อง เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและความพรีเมียมให้ดีขึ้นกว่าเดิม ตัวงานก็ดีขึ้นมาก ยิ่งถ้าเป็นรุ่นใหม่ๆ ด้วย ยิ่งน่าสนใจใหญ่เลยครับ บางรุ่นนี่ถึงกับใช้วัสดุเกรดเดียวกับของอื่นๆ เลย เช่นปีกเครื่องบินบ้าง เกรดเดียวกับที่ใช้ในกองทัพบ้าง ตัวเนื้องานประกอบก็ดูได้รับการใส่ใจเพิ่มขึ้นเหมือนกัน เรื่องนี้คงต้องลองสัมผัสเองล่ะนะครับ เผลอๆ เดี๋ยวนี้จะแยกไม่ออกด้วยซ้ำว่าเครื่องไหนคือรุ่นท็อปกันแน่
การอัพเดตต่อไปในอนาคต
มือถือรุ่นท็อปตัวเก่าลดราคา – ตามปกติแล้ว มือถือรุ่นท็อปก็จะได้รับการอัพเดตจากผู้ผลิตไปไม่ต่ำกว่า 1 ปีครึ่ง – 2 ปีอยู่แล้ว เรื่องนี้จึงค่อนข้างวางใจได้ หรือถ้าไม่ชอบใจ ก็สามารถหารอมโมจากเว็บบอร์ดอื่นๆ มาแฟลชใส่เครื่องได้เช่นกัน แถมยังได้ไปอีกหลายปีเลยด้วย อย่าง Samsung Galaxy S II ตอนนี้ยังมีรอมโม Android 5.1 ให้เล่นกันแล้วเลย
มือถือรุ่นกลางตัวล่าสุด – ถ้าเป็นเมื่อก่อน ได้รับอัพเดตในช่วง 1 ปีก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้วครับ ส่วนในปัจจุบันเราก็ได้เห็นผู้ผลิตหลายรายพยายามออกอัพเดตให้มากขึ้น บ่อยขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการแก้บั๊ก หรือเป็นการอัพเดตเวอร์ชันใหม่ๆ ก็ตาม ส่วนรอมโมก็พอมีให้ใช้งานกันบ้างเหมือนกัน แต่อาจจะไม่เท่าพวกรุ่นท็อป
สำหรับข้อนี้ ถ้าใครที่ซีเรียสเรื่องการอัพเดตรอม อยากมีอะไรใหม่ๆ เล่นไปตลอด ก็หาซื้อมือถือรุ่นท็อปตัวเก่ามาใช้งานกันได้อยู่ครับ แต่ถ้าไม่เครียดกับเรื่องนี้มากก็หามือถือรุ่นกลางๆ มาใช้งานได้เหมือนกัน แต่อาจจะเลือกรุ่นที่ค่อนข้างอินเตอร์ซักหน่อย ก็ค่อนข้างมั่นใจได้เรื่องว่าจะมีอัพเดตเพิ่มเติมให้ในอนาคต
อุปกรณ์เสริม
มือถือรุ่นท็อปตัวเก่าลดราคา – เป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วที่อุปกรณ์เสริมของพวกมือถือรุ่นท็อปจะหาซื้อได้ค่อนข้างง่าย แถมมีขายอยู่นานด้วย เพราะตอนนี้เรายังสามารถหาซื้อเคส iPhone 4 ได้แบบไม่ยากเย็นนัก รวมถึงมือถือ Samsung ตัวท็อปๆ ทั้งจากซีรี่ส์ S และ Note ก็ยังมีให้เราเดินหาซื้อได้อยู่ แม้ว่าจะเห็นตามกระบะลดราคาซะเยอะก็ตาม (แต่ก็ถือเป็นเรื่องดีครับ เพราะแปลว่าเราสามารถหาเคสคุณภาพดีราคาถูกๆ กันได้ไง)
มือถือรุ่นกลางตัวล่าสุด – นับเป็นปัญหามาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว กับการหาซื้อเคสและอุปกรณ์เสริมมือถือรุ่นกลางๆ ได้ยากซักหน่อย ยิ่งถ้าเป็นรุ่นที่ไม่ได้ท็อปฮิตจริงๆ บอกเลยว่ามีเดินขาลากกันไปข้าง ยังดีที่เดี๋ยวนี้เริ่มมีคนสั่งเคสมือถือรุ่นกลางๆ มาเปิดขายแบบออนไลน์กันเยอะขึ้น รวมถึงการซื้อของผ่านเน็ตบนเว็บไซต์ต่างประเทศ เช่นพวก Ebay ทำได้ง่ายขึ้นมาก เลยทำให้ปัญหานี้ค่อยๆ ลดลงไป แต่ก็ยังถือว่าหายากกว่าพวกรุ่นท็อปตัวเก่าอยู่ดี
การหาซื้อและราคา
มือถือรุ่นท็อปตัวเก่าลดราคา – ตอนนี้เราสามารถหาซื้อมือถือรุ่นท็อปตัวเก่าๆ ได้ง่ายมากครับ ทั้งจากหน้าร้านทั่วไปที่มักมีของสต็อกไว้พร้อมขายอยู่แล้ว หรือจะสั่งซื้อทางเว็บไซต์ออนไลน์อย่างพวก iTruemart หรือเว็บไซต์ของเครือข่ายมือถือเองก็ทำได้เช่นกัน แถมหลังๆ มานี้มันมักมาพร้อมโปรโมชันพิเศษ เช่น ส่วนลด (ที่บางครั้งก็ลดหลายพันจนน่าตกใจ) การผ่อน 0% พร้อมของแถม โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงที่ตัวท็อปรุ่นใหม่ใกล้เปิดตัว ก็ยิ่งจัดโปรหนักขึ้นไปอีก นับเป็นสวรรค์ของคนรอมือถือลดราคาของจริงเลยทีนี้
รวมถึงในตลาดมือสองก็สามารถหาซื้อได้ง่าย บางคนซื้อเครื่องมาลองเล่น ไม่ถูกใจก็ขายออกแบบยอมเข้าเนื้อนิดหน่อย สภาพดีแทบจะ 100% ถ้าใครที่เฝ้าเว็บบอร์ดขายของมือสองอยู่คงได้เห็นกันอยู่เรื่อยๆ ล่ะครับกับเคสแบบนี้ เผลอๆ จะได้มือถือสภาพนางฟ้ามาใช้ในราคาคุ้มๆ ก็เป็นได้
มือถือรุ่นกลางตัวล่าสุด – การหาซื้อก็ไม่จัดว่ายากมากนัก แต่ถ้าตามต่างจังหวัดอาจจะต้องเสียเวลาหาซักหน่อย โดยเฉพาะพวกรุ่นที่ไม่ใช่ท็อปฮิตมากนัก เพราะตามร้านไม่ค่อยสั่งไปสต็อกเท่าไหร่ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความนิยมของแต่ละที่ด้วย สำหรับเรื่องส่วนลด โปรโมชัน ก็มีอยู่บ้างเหมือนกันครับ แต่ดูแล้วจะว้าวน้อยกว่ารุ่นท็อปซักหน่อยนึง
ก็จะเห็นได้ว่าทั้งมือถือรุ่นท็อปตัวเก่าลดราคา กับมือถือรุ่นกลางตัวล่าสุดต่างก็มีข้อดีข้อด้อยแตกต่างกันไปครับ ก็เหลือแต่ความชอบส่วนบุคคล หรือความต้องการว่าอยากจะได้มือถือที่มีจุดเด่นอะไรบ้างแล้วล่ะ