ปัจจุบัน microSD การ์ดมีให้เราเลือกใช้อย่างหลากหลายรุ่น แต่ไม่ใช่ว่าทั้งหมดนั้นจะสามารถใช้ได้กับสมาร์ทโฟนทั้งหมด เป็นเรื่องปกติที่เราต้องเลือก microSD การ์ดที่ดีที่สุดให้กับสมาร์ทโฟนของเรา โดยมีให้เลือกระหว่าง SDHC และ SDXC หรือ Class 10 และ UHS-I Class 1 บทความนี้จะช่วยให้คุณผู้อ่านได้มีความมั่นใจในการเลือกซื้อ microSD การ์ดให้ถูกใจในการใช้งานและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานให้กับสมาร์ทโฟนของเราเอง
ความจุ
ในปัจจุบันเราจะได้เห็นประเภทของการ์ด microSD ที่นิยมใช้งานอยู่ 2 ประเภท นั่นก็คือ SDHC และ SDXC ( SD ไม่ค่อยมีคนใช้แล้ว ) ความแตกต่างของ microSD 2 ประเภทนี้ที่เห็นได้ชัดก็คือขนาดความจุที่รองรับซึ่ง SDHC จะมีความจุอยู่ระหว่าง 4 GB ถึง 32 GB และ SDXC จะมีความจุอยู่ระหว่าง 32 GB และ 2 TB หลายคนอาจจะบอกว่าความจุแค่ 32 GB ก็เพียงพอแล้ว แต่ปัจจุบันทั้งแอปพลิเคชันและเทคโนโลยีเรื่องกล้องนั้นพัฒนาขึ้นไปมาก ทำให้มีความจุของแอปพลิเคชันหรือความจุของไฟล์รูปภาพนั้นมีขนาดของไฟล์ที่ใหญ่ขึ้นมาก ยกตัวอย่างขนาดของไฟล์ภาพที่ถ่ายจากกล้องขนาด 16 ล้านพิกเซลนั้นมีขนาดของไฟล์ภาพประมาณ 7 MB ซึ่งถ้าหากสมาร์ทโฟนที่เราใช้งานนั้นมีความจุของข้อมูล 32 GB จะทำให้เก็บรูปถ่ายได้ประมาณ 4,500 รูปหรือมากกว่า แต่ถ้าหากสมาร์ทโฟนเครื่องในมีความสามารถในการถ่ายภาพแบบไฟล์ RAW ได้ ไฟล์ภาพก็จะมีขนาดใหญ่มากกว่านี้ซึ่งจะอยู่ที่ประมาณรูปละ 23-24 MB เลยทีเดียว สำหรับสมาร์ทโฟนที่สามารถถ่ายภาพแบบไฟล์ RAW ได้นั้น ยกตัวอย่างเช่น Samsung Galaxy S7
สมาร์ทโฟนในแต่ละรุ่นนั้นมีช่องเสียบการ์ด microSD ที่รองรับความจุสูงสุดไม่เท่ากัน เพราะฉะนั้นเราต้องตรวจสอบสมาร์ทโฟนของเราให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ยกตัวอย่างสมาร์ทโฟนที่รองรับ microSD สูงสุดในแต่ละรุ่นที่รูปด้านล่าง
ความเร็ว
ในการจะเลือกใช้ microSD อีกปัจจัยที่สำคัญก็คือความเร็วในการอ่านหรือเขียนข้อมูลของ microSD ที่จะทำให้เราโอนข้อมูลหรือรับข้อมูลได้รวดเร็วมากขึ้น โดยส่วนใหญ่สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จะสนับสนุนความเร็วของ microSD อยู่ 3 ระดับนั่นก็คือ Class 10 , UHS-1 Class 1 และ UHS-1 Class 3 ซึ่งได้สรุปความเร็วในการเขียนข้อมูลให้เป็นกราฟตามรูปภาพด้านล่างนี้
โดยสรุปแล้วความแตกต่างของ microSD Class 10 , UHS-1 Class 1 และ UHS-1 Class 3 มีดังนี้
- Class 10: ความเร็วในการเขียนข้อมูล 10MB/s สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องและถ่ายวิดีโอความละเอียด 1080p ได้
- UHS-1 Class 1: ความเร็วในการเขียนข้อมูล 10MB/s สามารถถ่ายทอดสดวิดีโอความละเอียด1080p ได้
- UHS-1 Class 3: ความเร็วในการเขียนข้อมูล 30MB/s สามารถถ่ายทอดสดวิดีโอความละเอียด 4K ได้
สำหรับใครยังที่ไม่นึกภาพไม่ออกว่าความเร็วของ UHS-1 Class 1 และ UHS-1 Class 3 บน Full SD จะแตกต่างกันขนาดไหนไปดูวิดีโอด้านล่างที่ทดสอบด้วยการถ่ายภาพไฟล์ RAW เปรียบเทียบกันได้เลยครับ
ที่มา cnet ขอบคุณรูปภาพประกอบจาก IGN itp-project legitreviews