วันนี้ LG ก็ได้ทำการเปิดตัว Optimus Vu (อ่านว่า ?วิว?) ไปอย่างเป็นทางการ เเถมพร้อมขายทันในงาน Thailand Mobile Expo ที่จะจัดในวันที่ 4-7 ตุลาคม ศูนย์ประชุมเเห่งชาติสิริกิตย์นี้ ในราคา 18,900 บาท โดยถ้าซื้อในงาน Thailand Mobile Expo จะมีโปรโมชันเเถม Power Bank ขนาด 2200 mAh เเละเคสใส่ตัว Optimus Vu ที่ที่ผิวเเละวัสดุคล้ายกับตัวเคส ภาพตามด้านล่างครับ
ซึ่งการเปิดตัวของ Optimus Vu นี้ ทาง LG ก็ได้ทำการลดราคาของ Optimus 4X ไปอีก 2000 บาท ทำให้เหลือ 16900 บาท ส่วน Optimus Vu นี้ก็เเน่นอนว่าเป็นตัวที่ทาง LG นำมาชนกับ Galaxy Note II นั่นเอง
ตัว Optimus Vu ที่ขายในไทยนี้ ถูกปรับสเปคจากเกาหลีมาเล็กน้อย โดยข้างในใส่ Nvidia Tegra 3 เเทน Qualcomm Snapdragon S4 ทำให้ประสิทธิภาพการใช้งานของ Optimus Vu ไม่ต่างกับ LG Optimus 4X เลย คือเร็ว เเละตอบสนองการใช้งานต่างๆ ค่อนข้างดี เเต่เเรมตัวนี้ยังเป็นขนาด 1 GB ซึ่งต่างจากเกาหลีที่เป็น 2 GB ซึ่งด้านการใช้งานจะต่างกันไหมเดี๋ยวตามอ่านกันต่อไปครับ
จุดที่เด่นชัดสุดของ LG Optimus Vu ที่ทุกคนน่าจะเห็นอย่างเเรกคืออัตราส่วนเเละขนาดหน้าจอที่ต่างไปจากมือถือทั่วไปปกติ คืออัตราส่วนอยู่ที่ 4:3 ซึงทำให้หน้าจอจะดูออกบานๆ ซึ่งการถือนั้นส่วนตัวเเล้วก็ไม่ถึงขั้นว่าถือลำบาก เพราะจับสบายกว่า Galaxy Note (ผมยังไม่เคยจับ Galaxy Note II เลยยังไม่สามารถเทียบได้นะครับ) เพราะหน้าจอมีขนาด 5 นิ้ว เเต่จะมีปัญหาเเน่ถ้าผู้ใช้พยายามไปกดที่มุมซ้ายบนของจอ ซึ่งนิ้วโป้งนั่นเอื้อมไม่ถึงเเน่นอน
เเต่ไม่รู้ว่าเป็นโชคดี (หรือจงใจออกเเบบ) ของ LG ที่เมนูต่างๆ ของเครื่องนั้นสามารถใช้วิธีการลาก ซ้าย ? ขวา เพื่อเปลื่ยนหน้าได้ นั้นคือสมมุติว่าถ้าเราอยู่ที่หน้า Dial เราสามารถลากจอไปทางซ้าย เพื่อเลื่อนมายังเมนู Call Logs, Contacts เเละอื่นๆ ได้ ทำให้ไม่ต้องเอื้อมนิ้วไปกดบริเวณซ้ายบนนัก ซึ่งจริงๆ Gesture เเบบนี้ก็เห็นกันตั้งเเต่ Optimus 4X เเล้วซึ่งเป็นจุดที่ออกเเบบมาได้ดีทีเดียว ตามไกด์ไลน์ออกเเบบเเอพลิเคชันของ Android ที่ Google วางเอาไว้ ซึ่งบางเเบรนด์นั้นยังต้องเอื้อมมือไปกดบริเวณด้านบนอยู่ อย่าง Samsung เป็นต้น
อีกจุดหนึ่งที่โดดเด่นสำหรับ LG Optimus Vu คือปุ่ม Quick Memo ที่กดเเล้วจะเป็นการจับภาพหน้าจอเเละเรียกเเอพ Quick Memo มาเเต่งภาพ จะเซฟลงเครื่องหรือเเชร์เข้า Facebook, Twitter, Line หรือ Whatsapp ก็ตามสะดวกครับ
ตัวเเอพของ Quick Memo กับ Notebook นั้นมีการทำงานที่เหมือนกัน จุดต่างคือ Quick Memo ต้องกดปุ่มเครื่องถึงจะเรียก เเต่ Notebook นั้นเราเรียกได้จากใน Launcher โดยตรง ถ้าว่ากันตามฟีเจอร์ปากกาเเล้วก็ถือว่าทำออกมาได้ดีไม่เเพ้ Galaxy Note ทีเดียว มีปรับหัวปากกา เลือกสี เปลี่ยนความหนา ทำได้ทุกอย่าง
เเน่นอนว่าตัวนี้ยังไม่มี Palm rejection ทำให้เราวางฝ่ามือเขียนไม่ได้ ต้องถือจดเเบบที่เห็น เเต่เท่าที่มีข้อมูลก็ยังไม่มีเจ้าไหนที่มี Palm rejection เหมือนกัน ทั้งๆ ที่ผมว่ามันจำเป็นมากสำหรับเครื่องที่เน้นใช้ปากกานะ หวังว่าจะมีออกมาในเร็ววันนี้
หัวปากกาเฉพาะของ LG เห็นเป็นปุ่มดำๆ เเต่จริงๆ เเล้วเป็นยางที่มีความเเข็ง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ LG พัฒนาขึ้นมาเอง ใช้เเล้วก็โอเคนะครับ ดีกว่าสไตลัสที่หัวเป็นยางหลายๆ เจ้าที่เขียนเเล้วรู้สึกเเปลกๆ เพราะมันจะหยุ่นๆ ไม่เหมือนเราเขียนด้วยปากกาซักเท่าไร
จากฟีเจอร์หลักที่พูดไปก็มาดูถึงตัวเครื่อง ซึ่งการดีไซน์ของ Optimus Vu นี้ก็ใช้คอนเซ็ปที่เราเห็นมาตั้งเเต่ LG Prada ที่ออกบาง เรียบ เเละดูหรู เเต่ทาง LG เรียกว่า L-Style คงเป็นเพราะว่าน่าจะเป็นไลน์หลักของ LG ที่ดีไซน์ประเภทนี้ออกมาชัดเจนที่สุด (LG Optimus L3, L5, L7) ส่วนตัวเเล้วก็พอใจนะครับ กับวัสดุเเละดีไซน์ประมาณนี้ เเต่กับผู้ชายถือเเล้วจะดูหวานไปหน่อยหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ เพราะผมรู้สึกว่ามันมีกลิ่นอายของ Prada มาพอสมควรเลยทีเดียว
อีกจุดหนึ่งที่เปลี่ยนไปบริเวณด้านหน้าคือ ปุ่ม Navigagation ปุ่มที่ 3 จากทางซ้าย (ขออภัยรูปเบลอ) ถูกเปลี่ยนเป็น Recent Apps เเล้วที่เอาไว้สลับโปรเเกรม (เเทนปุ่ม Search) ส่วนปุ่มสุดท้ายเป็นปุ่ม Menu เหมือนเดิม
ในส่วนของรอม บริเวณ Tooggle ด้านบนนั้นมีให้เปิดปิดฟีเจอร์ต่างๆ เเต่ที่เจ๋งคือมันปรับเพิ่มเเละเอาออกได้ด้วย เช่นจะนำ NFC ออกไป หรือเอา Airplane Mode เพิ่มเข้ามา ซึ่งทำให้เราสามารถเลือกเเต่ส่วนที่เราใช้งานบ่อยๆ เท่านั้น
ตัวนี้มากับ Android 4.0.4 ครับ
หน้าตาคีย์บอร์ดไทย
ตัวเครื่องมากับพื้นที่เก็บข้อมูลขนาด 32 GB ซึ่งถือว่าเยอะสำหรับเครื่องในระดับหมื่นปลาย ใส่ของกันได้เต็มที่เเน่นอน
เเรม 1 GB เเต่เหลือเยอะนะครับ รอมทำมาค่อนข้างดีทีเดียว เเรมมันเหลืออยู่เเล้ว ซึ่งดูเเล้วอาจจะไม่ต้องใช้ถึง 2 GB ก็ได้ อาการหน่วงจากระบบยังไม่เห็น
โดยรวมเเล้วก็ถือว่าเป็นมือถือที่น่าประทับใจตัวหนึ่งนะครับ อะไรๆ ค่อนข้างจะลงตัวทั้งหมด เป็นเครื่องที่เล่นเเล้วค่อนข้างพอใจนะ ส่วนที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล อย่างเรื่องดีไซน์หรือความสวยงามมากกว่า
ในส่วนสุดท้ายที่อยากจะพูดถึงก็คือ ว่าทำไมตัว Optimus Vu ถึงทำออกมาเป็นหน้าจออัตราส่วนขนาด 4:3 ซึ่งจากที่ฟังมาก็คิดว่าพอมีสาเหตุพอสมควรที่ดีไซน์ออกมาเช่นนี้ ซึ่งจุดประสงค์หลักนั้นคือซอร์สที่เป็นออฟไลน์นั้น ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพจากกล้องถ่ายรูป ไฟล์เอกสารอย่าง Powerpoint หรือ PDF นั้นมีอัตราส่วนขนาด 4:3 ทั้งนั้น ซึ่งการที่หน้าจอมีขนาด 4:3 นี้ทำให้สามารถเเสดงผลได้เต็มจอโดยไม่เห็นขอบดำ ซึ่งเท่าที่ดูเเล้วก็เล่นเว็บหรือไฟล์เอกสารถือว่าทำได้ดีโดยไม่ต้องซูมเข้าออกบ่อยๆ ซึ่งถ้าใครอ่าน PDF หรือต้องทำงานกับไฟล์ขนาด 4:3 บ่อยๆ นั้นถือว่าเป็นข้อได้เปรียบของรุ่นนี้มากทีเดียว ขนาดนั้นอาจจะดูเเปลกประหลาดไปซักหน่อย เเต่ถ้าใช้มือถือที่หน้าจอใหญ่มาเเล้ว จะกลับไปใช้มือถือหน้าจอเล็กๆ ได้ยาก ซึ่งสำหรับ Optimus Vu นี้ก็ถือเป็นมือถือจอ 5 นิ้่วที่ประสิทธิภาพสูงเเละราคาไม่เเรงเกินไปครับ