นอกจากมือถือเรือธงที่เตรียมเปิดตัวปลายปีนี้แล้ว มือถือรุ่นระดับกลางเองก็ไม่น้อยหน้าเหมือนกัน หลังจากที่ Redmi ประสบความสำเร็จกับ Turbo Series ที่เน้นประสิทธิภาพและราคาสุดคุ้ม ล่าสุดก็มีข้อมูลสเปคของ Redmi Turbo 5 รุ่นใหม่ในตระกูลนี้หลุดออกมาเพิ่มเติมจากก่อนหน้านี้แล้ว โดยมาจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถืออย่าง Digital Chat Station ที่ได้เปิดเผยรายละเอียดที่น่าสนใจหลายอย่าง โดยเฉพาะการอัปเกรดครั้งใหญ่ในส่วนของแบตเตอรี่ ที่ให้มาแบบเหลือๆ ความจุเกือบหมื่น
ทั้งนี้รุ่นที่วางขายอยู่ในปัจจุบันก็คือรุ่นรีแบรนด์ตัวก่อนหน้าคือ POCO X7 Pro ในราคาเริ่มต้น 10,490 บาท (ซื้อร้านค้าออนไลน์มีโค้ดลดเพิ่มเหลือไม่เกินหมื่นได้ที่ Shopee/ Lazada) | ส่วนรุ่นรองลงมาคือ POCO X7 มีราคา 7,999 บาท (Shopee/ Lazada)
หลุดสเปค Redmi Turbo 5
Redmi Turbo 5 อาจมาพร้อมกับแบตเตอรี่ชนิดซิลิคอนคาร์บอน ที่มีความจุสูงถึง 9,000mAh มาพร้อมชาร์จเร็ว 100W ซึ่งถือเป็นความจุที่สูงมากสำหรับสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน และอาจทำให้ Redmi Turbo 5 กลายเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่แบตเตอรี่อึดที่สุดในตลาดระดับกลางได้เลย โดยแบตแบบซิลิคอนคาร์บอนมีข้อดีที่เก็บความจุได้เยอะกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบดั้งเดิมในขนาดที่เท่ากัน ทำให้แม้จะมีความจุสูงแต่ก็ยังสามารถคงดีไซน์ตัวเครื่องให้บางเบาได้
ส่วนหน้าจอ Redmi Turbo 5 คาดว่าจะใช้จอแบบ OLED ความละเอียดระดับ 1.5K พร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบอัลตราโซนิกใต้จอ ที่ทำได้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้าที่เป็นแบบออปติคัล
ด้านดีไซน์ตัวเครื่องยังคงเป็นรูปแบบคล้ายๆ กับรุ่นก่อนหน้า แต่จะได้รับการออกแบบให้กันน้ำได้อย่างเต็มรูปแบบ โดยสามารถดันน้ำกันฝุ่นได้ถึงระดับ IP68/69
สำหรับชิปเซ็ตประมวลผลนั้น แม้ในข้อมูลครั้งล่าสุดจะยังไม่มีการยืนยันออกมา แต่จากข้อมูลก่อนหน้านี้คาดว่า Redmi Turbo 5 จะขับเคลื่อนด้วยชิป MediaTek Dimensity 8500 Ultra ซึ่งเป็นชิปเซ็ตระดับกลางรุ่นใหม่ ที่คาดว่าจะเปิดตัวใช้เป็นรุ่นแรกกับ OPPO Reno 15 Pro ในเดือนพฤศจิกายนนี้
ส่วนกำหนดการเปิดตัว Redmi Turbo 5 รุ่นนี้ทาง Digital Chat Station ได้ให้ข้อมูลว่าเราอาจจะได้เห็นตัวอย่างเป็นทางการในช่วงไตรมาสแรกของปี 2026 ซึ่งสอดคล้องกับไทม์ไลน์การเปิดตัวของ Redmi Turbo 4 ที่เปิดตัวไปเมื่อช่วงต้นปี 2025 ที่ผ่านมาเช่นกัน และเช่นเคยว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ Redmi Turbo 5 จะถูกนำไปรีแบรนด์เป็น POCO X8 Pro สำหรับวางจำหน่ายในตลาดโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย ซึ่งต้องรอติดตามข้อมูลอย่างเป็นทางการจาก Xiaomi อีกครั้ง
ที่มา: gizmochina
