นอกจาก HUAWEI จะเปิดตัว HUAWEI Mate 80 Series ซีรีส์ล่าสุดออกมาแล้ว ก็ยังปล่อยรุ่นจอพับมาอีกรุ่นด้วยคือ HUAWEI Mate X7 มือถือจอพับเรือธงรุ่นใหม่ในประเทศจีน ที่เป็นการสานต่อความสำเร็จจากรุ่นพี่อย่าง Mate X6 และการกลับมาครั้งนี้ HUAWEI ก็ได้อัปเกรดสเปกภายใน และยงคงจุดเด่นในเรื่องของความบาง ความแข็งแกร่ง และกล้องที่ถ่ายได้ดีงามไม่แพ้รุ่นปกติเลยทีเดียว
สเปค HUAWEI Mate X7

HUAWEI Mate X7 มาพร้อมกับดีไซน์ที่บางสุดเพียง 4.5 มม. เมื่อกางออก และตอนพับจะบางเพียง 9.5 มม. พร้อมน้ำหนักเบาสุด 235 กรัม ตัวเครื่องใช้วัสดุคุณภาพสูงและมีสีให้เลือกถึง 5 สี และมีจุดสำคัญคือความทนทาน ด้วยบานพับแบบหยดน้ำ (water drop hinge) รุ่นใหม่ และกระจก Basalt Tempered Kunlun Glass รุ่นที่ 2 ที่แข็งแกร่งขึ้น ตัวเครื่องสามารถกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP58 และ IP59 ที่ถือว่าแกร่งในระดับดีเลย

ตัวหน้าจอของ HUAWEI Mate X7 มีจอหลักด้านในเมื่อกางออกเป็นแบบ OLED ขนาดใหญ่ 8 นิ้ว รองรับ Refresh Rate แบบ LTPO 120Hz พร้อมความสว่างสูงสุด 2,500 nits ส่วนจอด้านนอกมีขนาด 6.49 นิ้ว แบบขอบโค้ง 4 ด้าน ที่สว่างสูงสุดถึง 3,000 nits ทั้งสองหน้าจอรองรับเทคโนโลยี PWM Dimming ที่ความถี่สูง 1440Hz เพื่อถนอมสายตา

ด้านประสิทธิภาพรุ่นนี้ขับเคลื่อนด้วยชิป Kirin 9030 Pro ทำงานบนระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 6.0 รุ่นใหม่ โดยมี RAM ให้เลือกสูงสุด 16GB และความจุสูงสุด 1TB นอกจากนี้ในรุ่น Collector’s Edition จะมีฟีเจอร์รองรับการสื่อสารผ่านดาวเทียม ทั้งการส่งข้อความผ่านดาวเทียม Beidou และการโทรผ่านดาวเทียม Tiantong ได้ด้วย
นอกจากนี้ HUAWEI Mate X7 ยังมาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 5,600 mAh (ในรุ่น Collector’s Edition) และ 5,525 mAh (ในรุ่นปกติ) รองรับการชาร์จไว 66W และไร้สาย 50W


ตัวกล้องของ HUAWEI Mate X7 จะมีกล้องที่ใช้เทคโนโลยี Red Maple Imaging System รุ่นที่ 2 แบบเดียวกับ HUAWEI Mate 80 Series รุ่นเรือธงตัวท็อปเช่นกัน โดยมีกล้อง 3 ตัวได้แก่
- กล้องหลัก 50MP ที่สามารถปรับรูรับแสงได้ตั้งแต่ f/1.49 ถึง f/4.0 พร้อมกันสั่น OIS
- กล้อง Periscope Telephoto 50MP รองรับการซูม Optical 3.5 เท่า และ Digital Zoom สูงสุด 100 เท่า
- กล้อง Ultra-wide 40MP สำหรับถ่ายภาพมุมกว้าง
- กล้อง Red Maple Primary Color รุ่นที่ 2
- กล้องหน้า 8MP ทั้งจอในและจอด้านนอก
ราคาและการวางจำหน่าย

HUAWEI Mate X7 เปิดให้สั่งจองแล้วในจีนและจะเริ่มวางขายจริงวันที่ 5 ธันวาคมนี้ มีให้เลือกทั้งหมด ได้แก่สีดำ (Obsidian Black), สีน้ำเงิน (Cloud Brocade Blue), สีขาว (Cloud Brocade White), สีแดง (Cosmic Red) และสีม่วง (Phantom Purple) และมีราคาที่เปิดตัวดังนี้
- รุ่น 12GB/ 256GB: ราคา 12,999 หยวน หรือประมาณ 59,100 บาท
- รุ่น 12GB/ 512GB: ราคา 13,999 หยวน หรือประมาณ 63,700 บาท
- รุ่น Collector’s Edition 16GB/ 512GB: ราคา 14,999 หยวน หรือประมาณ 68,200 บาท
- รุ่น Collector’s Edition 16GB/ 1TB: ราคา 15,999 หยวน หรือประมาณ 72,800 บาท
- รุ่น Collector’s Edition 20GB/ 1TB พร้อมชุดปากกา: ราคา 17,599 หยวน หรือประมาณ 80,000 บาท
ที่มา: fonearena
