REDMAGIC แบรนด์สมาร์ทโฟนเกมมิ่งเปิดตัวเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง REDMAGIC 11 Pro และ REDMAGIC 11 Pro+ อย่างเป็นทางการแล้วในประเทศจีน โดยมาพร้อมกับการอัปเกรดสเปคแบบจัดเต็มสมการรอคอย โดยเฉพาะความแรงที่มาพร้อมกับชิปเซ็ตประมวลผลเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Snapdragon 8 Elite Gen 5 และการระบายความร้อนที่เหนือกว่ารุ่นอื่นๆ ด้วยน้ำและลมเป็นรุ่นแรก
เปิดตัว REDMAGIC 11 Pro และ REDMAGIC 11 Pro+

จุดเด่นที่ต้องพูดถึงก่อนเลยก็คือระบบระบายความร้อน ที่ครั้งนี้ใช้แบบ Dual liquid-and-air cooling system ซึ่งเป็นการผสานพลังกันระหว่างของเหลวและอากาศเพื่อจัดการความร้อนอย่างดีเยี่ยม ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวใช้สารฟลูออริเนตเกรดเดียวกับที่ใช้ใน AI Server ซึ่งทำงานได้ในอุณหภูมิตั้งแต่ -60°C ถึง 108°C และไม่นำไฟฟ้า พร้อมความทนทานที่ป้องกันรั่วซึมจากการตกกระแทกด้วย

ในส่วนของระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ ก็ได้อัปเกรดพัดลม Turbo Fan 4.0 หมุนด้วยความเร็วสูงสุด 24,000 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับระบบ 4D Cooler VC และ Liquid Metal 3.0 สร้างเป็นระบบจัดการความร้อน 4 ชั้น ที่ทาง REDMAGIC เคลมว่าช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อนโดยรวมได้ถึง 50%

ดีไซน์ตัวเครื่องยังคงเอกลักษณ์ความเท่สไตล์เกมมิ่ง มีการโชว์ให้เห็นกลไกระบายความร้อนด้วยของเหลวผ่านวงแหวนสีฟ้าโปร่งแสงด้านหลังที่จะหมุนเมื่อระบบทำงาน ตัวเครื่องมีขอบแบบแบน และไม่มีโมดูลกล้องที่นูนออกมา มีสีให้เลือกทั้ง Transparent Black, Transparent Silver, Black, และ Silver ตัวเครื่องกันน้ำระดับ IPX8
REDMAGIC 11 Pro Series มาพร้อมหน้าจอ OLED จาก BOE ในรหัส X10 ขนาดใหญ่ 6.85 นิ้ว ความละเอียด 1.5K (2688×1216 พิกเซล) รองรับอัตรารีเฟรชเรท 144Hz เพื่อความลื่นไหลในการเล่นเกมและการใช้งานทั่วไป โดยมีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องสูงถึง 95.3% ให้ความสว่างสูงสุด 2000 nits และยังถนอมสายตาด้วยเทคโนโลยีลดแสงกระพริบ 2592Hz high-frequency PWM dimming และ DC dimming
สำหรับการควบคุม REDMAGIC 11 Pro Series ใช้ชิปใหม่จาก Synaptics ที่ตอบสนองต่อการสัมผัสฉับไวสูงถึง 3,000Hz พร้อมปุ่ม L/R Trigger ที่ด้านข้างเครื่องรองรับการสัมผัส 520Hz และใช้เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ 3D ultrasonic ใต้หน้าจอ ทำงานบนระบบ REDMAGIC OS 11 พื้นฐาน Android 16 ซึ่งมาพร้อมกับผู้ช่วย AI ที่ชื่อว่า MORA
ด้านประสิทธิภาพได้ใช้ชิป Snapdragon 8 Elite Gen 5 ทำงานร่วมกับ RAM แบบ LPDDR5T สูงสุดถึง 24GB และความจุภายในแบบ UFS 4.1 PRO ความจุสูงสุดที่ 1TB พร้อมเทคโนโลยี Ultra Graphics Engine 3.0 และชิปที่พัฒนาขึ้นเองอย่าง RedCore R4 ช่วยอัปสเกลเกมบางเกมให้สามารถรันที่ความละเอียด 2K บนเฟรมเรท 144Hz ได้ และยังมีฟีเจอร์ PC emulator ติดตั้งมาให้ในเครื่องด้วยสำหรับรุ่นในจีน
ความแตกต่างที่สำคัญของทั้งสองรุ่นคือแบตเตอรี่ โดย REDMAGIC 11 Pro รุ่นมาตรฐานจะมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 8,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 80W ในขณะที่ REDMAGIC 11 Pro+ จะมีแบตเตอรี่ซิลิคอน-คาร์บอนขนาด 7,500mAh แต่รองรับการชาร์จเร็วสูงถึง 120W และที่พิเศษคือ รองรับการชาร์จแบบไร้สาย 80W ได้ด้วย

ด้านการถ่ายภาพมีกล้องหลังคู่คือกล้องหลัก 50MP (เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.55″, f/1.88, มี OIS) และกล้อง Ultra-wide ความละเอียด 50MP (f/2.2) กว้าง 120 องศา ส่วนกล้องหน้าเป็นกล้องใต้จอจาก OmniVision ความละเอียด 16MP นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ AI ช่วยในการถ่ายภาพอย่าง Object Removal และ Image Expansion อีกด้วย
สรุปสเปค REDMAGIC 11 Pro และ 11 Pro+
- หน้าจอ: 6.85 นิ้ว 1.5K OLED BOE X10, 144Hz, 2000 nits, 2592Hz PWM
- ชิปเซ็ต: Snapdragon 8 Elite Gen 5 (3nm) พร้อม GPU: Adreno 840
- RAM/ROM: LPDDR5T สูงสุด 24GB / UFS 4.1 สูงสุด 1TB
- กล้องหลัง: 50MP (หลัก, OIS) + 50MP (Ultra-wide 120°)
- กล้องหน้า: 16MP (ใต้หน้าจอ)
- ระบบเสียง: ลำโพงคู่ 1115K, DTS:X ULTRA, ช่องหูฟัง 3.5 มม., ไมโครโฟน 3 ตัว
- การเชื่อมต่อ: 5G, Wi-Fi 7, Bluetooth 6.0, NFC
- แบตเตอรี่:
- Pro: 8000mAh, ชาร์จเร็ว 80W
- Pro+: 7500mAh, ชาร์จเร็ว 120W, ชาร์จไร้สาย 80W
- อื่นๆ: กันน้ำ IPX8, ระบบระบายความร้อน 4 ชั้น (Liquid + Air Fan), ปุ่ม Shoulder Triggers 520Hz, สแกนนิ้วใต้จอ 3D Ultrasonic
ราคาและการวางจำหน่าย
REDMAGIC 11 Pro ซีรีส์ เริ่มวางจำหน่ายในประเทศจีนแล้ววันนี้ โดยมีราคาดังนี้:
- REDMAGIC 11 Pro
- RAM 12GB/ 256GB: ราคา 4,999 หยวน (ประมาณ 22,900 บาท)
- RAM 16GB/ 512GB: ราคา 5,699 หยวน (ประมาณ 26,100 บาท)
- REDMAGIC 11 Pro+
- RAM 12GB/ 256GB: ราคา 5,699 หยวน (ประมาณ 26,100 บาท)
- RAM 16GB/ 512GB: ราคา 6,499 หยวน (ประมาณ 29,800 บาท)
- RAM 16GB/ 1TB: ราคา 6,999 หยวน (ประมาณ 32,100 บาท)
- RAM 24GB/ 1TB: ราคา 7,999 หยวน (ประมาณ 36,700 บาท)
- รุ่นพิเศษ Golden Saga Edition RAM 24GB/ 1TB: ราคา 9,899 หยวน (ประมาณ 45,400 บาท)
สำหรับแฟนๆ ทั่วโลก ทาง REDMAGIC ได้ประกาศว่าจะมีการเปิดตัว REDMAGIC 11 Pro เวอร์ชันทั่วโลกในวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้ ก็ต้องมารอลุ้นกันว่าสเปคและราคาสำหรับตลาดโลกจะเป็นอย่างไรกันบ้าง รวมถึงที่ไทยว่าจะเข้ามาตอนไหนด้วย
ที่มา: fonearena