OPPO เปิดตัว 2 มือถือเกมมิ่งอย่างเป็นทางการในประเทศจีนกับ OPPO K13 Turbo และ OPPO K13 Turbo Pro เป็นรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อเกมเมอร์โดยเฉพาะ หรือคนที่ต้องการประสิทธิภาพสูงที่เน้นเล่นเกมเป็นหลัก โดยทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับจุดเด่นอย่างหน้าจอใหญ่ OLED อัตราการรีเฟรชสูง ระบบระบายความร้อนด้วยพัดลมในตัว และไฟ RGB ที่เพิ่มความสวยงาม รวมถึงแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่รองรับการชาร์จเร็ว ด้วยสเปคที่ทรงพลัง และการออกแบบที่เน้นการเล่นเกม ทำให้ทั้งสองรุ่นนี้เป็นอีกซีรีส์ที่น่าสนใจมากๆ ในวงการมือถือเกมมิ่งเลย
สเปค OPPO K13 Turbo และ OPPO K13 Turbo Pro
สำหรับทั้ง OPPO K13 Turbo และ OPPO K13 Turbo Pro ทั้งสองรุ่นมีดีไซน์และสเปคที่ที่คล้ายๆ กัน ต่างกันอยู่เล็กน้อยตรงด้านหลังของแฟลชที่รุ่นโปรจะมีแถบสีดำ และมีฝาหลังที่ต่างออกไปจากรุ่นปกติเล็กน้อย ส่วนทางด้านหน้าจอทั้งสองรุ่นมีจอเป็น LTPS OLED ขนาด 6.8 นิ้ว ความละเอียด 1.5K (2800 x 1280 พิกเซล) รองรับอัตราการรีเฟรช 120Hz และอัตราการตอบสนองการสัมผัส 240Hz เท่ากัน พร้อมด้วย OPPO Crystal Shield Glass ที่เพิ่มความทนทาน กันน้ำและฝุ่นที่ระดับ IPX9/IPX8/IPX6
ที่น่าสนใจก็คือระบายความร้อนที่เป็นหนึ่งในจุดเด่นของทั้งสองรุ่น โดยมาพร้อมพัดลมในตัวที่หมุนด้วยความเร็วสูงถึง 18,000 รอบต่อนาที พร้อมไฟ RGB ที่เพิ่มความสวยงาม นอกจากนี้ยังมีแผ่นระบายความร้อนด้วยของเหลวขนาด 7,000 ตารางมิลลิเมตร และเจลระบายความร้อนแบบกราไฟต์ ซึ่งช่วยควบคุมอุณหภูมิได้อย่างมีประสิทธิภาพในระหว่างการเล่นเกม หรือใช้งานหนักเป็นเวลานาน
รวมถึง Super Cooling Combo Kit ซึ่งประกอบด้วยเคสระบายความร้อนด้วยของเหลวแบบไมโครปั๊ม และพัดลมระบายความร้อน IceWing 27W ที่ยึดติดด้วยแม่เหล็ก ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อนยิ่งขึ้น (อันนี้เป็นอุปกรณ์เสริมขายแยกอีกที)
ด้านประสิทธิภาพ OPPO K13 Turbo Pro ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 8s Gen 4 ซึ่งให้ประสิทธิภาพระดับสูง รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 7 และใช้พื้นที่จัดเก็บแบบ UFS 4.0 ที่รวดเร็วกว่า ส่วนรุ่น OPPO K13 Turbo ใช้ชิป MediaTek Dimensity 8450 พร้อมพื้นที่จัดเก็บแบบ UFS 3.1 และการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 ก็ยังคงมีประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมสำหรับการใช้งานหนักๆ ทั้งสองรุ่นมีตัวเลือก RAM ที่หลากหลายด้วยแรมสูงสุด 16GB ความจุสูงสุด 512GB
ทั้ง OPPO K13 Turbo และ OPPO K13 Turbo Pro มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 7,000mAh รองรับการชาร์จเร็ว 80W ซึ่งสามารถชาร์จเต็มได้ในเวลาเพียง 54 นาที มีฟีเจอร์ bypass charging ที่ช่วยลดความร้อนขณะเล่นเกมขณะชาร์จ แต่ว่ารุ่น Pro จะรองรับเพิ่มเติมทั้ง Quick Charge (QC), UFCS, PPS และ PD ตัวเครื่องทำงานบนระบบปฏิบัติการ ColorOS 15 พื้นฐาน Android 15 มาพร้อมฟีเจอร์เพิ่มเติม เช่น มอเตอร์สั่นแบบ X-axis, ลำโพงคู่, NFC, Bluetooth 5.4 และ IR blaster
ทั้งสองรุ่นมีกล้องหน้าความละเอียด 16MP เซ็นเซอร์ Sony IMX480 และกล้องหลังคู่ที่มีกล้องหลักความละเอียด 50MP เซ็นเซอร์ OmniVision OV50D40 พร้อมระบบกันสั่น OIS (ในรุ่นโปร) และกล้องชัดลึกความละเอียด 2MP และรุ่น Pro ก็ยังรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ 4K time-lapse ซึ่งรุ่นปกติจะไม่มีด้วย
ราคาและการวางจำหน่าย OPPO K13 Turbo Series
OPPO K13 Turbo Series ทั้ง OPPO K13 Turbo และ OPPO K13 Turbo Pro เปิดตัวพร้อมวางขายที่ประเทศจีน โดยมีตัวเลือกสีคล้ายๆ กันรุ่นละ 3 สีได้แก่สีม่วง และสีดำ ที่เหมือนกัน แต่รุ่นปกติจะมีสีขาว ต่างจากรุ่นโปรที่มีสีเงินเพิ่มเข้ามาแทน มีราคาแต่ละรุ่นดังนี้
- OPPO K13 Turbo
- รุ่น RAM 12GB/ 256GB: ราคา 1,799 หยวน หรือประมาณ 8,100 บาท
- รุ่น RAM 16GB/ 256GB: ราคา 1,999 หยวน หรือประมาณ 9,000 บาท
- รุ่น RAM 12GB/ 512GB: ราคา 2,299 หยวน หรือประมาณ 10,400 บาท
- OPPO K13 Turbo Pro
- รุ่น RAM 12GB/ 256GB: ราคา 1,999 หยวน หรือประมาณ 9,000 บาท
- รุ่น RAM 16GB/ 256GB: ราคา 2,199 หยวน หรือประมาณ 9,900 บาท
- รุ่น RAM 12GB/ 512GB: ราคา 2,399 หยวน หรือประมาณ 10,900 บาท
- รุ่น RAM 16GB/ 512GB: ราคา 2,699 หยวน หรือประมาณ 12,200 บาท
ที่มา: opposhop
