OPPO เปิดตัวมือถือระดับกลางรุ่นใหม่ล่าสุดในจีนอย่างเงียบๆ กับ OPPO A6 Max ที่มาพร้อมจุดเด่นทั้งในด้านแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ความทนทานระดับสูง มีดีไซน์บางเพียง 7.7 มม. แต่ก็มีแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 7,000mAh แบบเต็มพิกัด รวมถึงยังคงมีน้ำหนักเบาเพียง 198 กรัม เรียกได้ว่าเป็นการผสมผสานได้ทั้งความบาง และความจุแตขนาดใหญ่ได้อย่างลงตัว มีสเปคเต็มๆ เป็นยังไงบ้างไปดูกัน
ทั้งนี้รุ่นที่วางขายในไทยรุ่นล่าสุด และเป็นตัวท็อปของซีรีส์ OPPO A5 Series ตอนนี้ก็คือ OPPO A5 Pro 5G ความจุ 6+128GB ราคา 7,499 บาท (Shopee/ Lazada) และรุ่นความจุ 8+256GB ราคา 8,999 บาท (Shopee/ Lazada)
เปิดตัว OPPO A6 Max

สำหรับ OPPO A6 Max รุ่นนี้มีหน้าจอเป็น OLED ขนาด 6.8 นิ้ว ความละเอียด 2800 x 1280 พิกเซล รองรับรีเฟรชเรท 120Hz และมีความสว่างสูงสุดถึง 1,600 nits สามารถใช้งานได้แม้มือเปียก และตัวจอก็ปกป้องด้วย Crystal Shield Glass ที่พัฒนาโดย OPPO เอง เพื่อเพิ่มความทนทานต่อรอยขีดข่วนและการตกกระแทก กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP66, IP68 และ IP69 รวมถึง SGS ด้วย

ด้านประสิทธิภาพ OPPO A6 Max ขับเคลื่อนด้วยชิป Qualcomm Snapdragon 7 Gen 3 พร้อมด้วย RAM 8GB และความจุภายใน 256GB เพื่อให้การใช้งานลื่นไหลทั้งการเล่นเกม และการทำงานหลายแอปพร้อมกัน นอกจากนี้ยังมีระบบระบายความร้อนด้วย vapor chamber ขนาด 5,200 มม² ที่ช่วยควบคุมอุณหภูมิของเครื่องในระหว่างการใช้งานหนัก ทำงานพร้อมกับชิป Shanhai Communication เพื่อการเชื่อมต่อที่เสถียรยิ่งขึ้น พร้อมรองรับ dual-band GPS, triple-band Beidou, NFC และฟีเจอร์การสื่อสารแบบออฟไลน์

ตัวแบตเตอรี่นั้นมีความจุ 7,000mAh รองรับการชาร์จเร็ว 80W สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0% ถึง 50% ได้ในเวลาเพียง 24 นาทีเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีลำโพงที่ให้เสียงดังสูงสุดถึง 300% อีกด้วย
ตัวกล้องของรุ่นนี้มาพร้อมกล้องหน้า 32MP สำหรับการถ่ายเซลฟี่ที่คมชัด และกล้องหลังคู่ที่มีกล้องหลัก 50MP พร้อมกล้องเสริม 2MP แบบโมโนโครม ตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สีสัน ได้แก่ สีขาว Streamer White ที่มีฝาหลังเป็นกระจก และสีน้ำเงิน Rock Mist Blue ที่มีฝาหลังเป็นแบบไฟเบอร์กลาส ซึ่งมีทั้งความสวยงามและความทนทานไปพร้อมๆ กัน

ราคาและการวางจำหน่าย
OPPO A6 Max เปิดตัวพร้อมวางขายแล้วในจีน โดยมีรุ่น 8GB + 256GB ราคา 1,599 หยวน หรือประมาณ 7,300 บาทเท่านั้น ถือว่าเป็นรุ่นสเปคคุ้มมากๆ ในราคานี้ แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่มีการยืนยันว่ารุ่นนี้จะวางขายนอกประเทศจีนหรือไม่ ถ้ามีการวางขายแบบ Global อาจเปลี่ยนชื่อเป็น OPPO F31 Pro+ แทนก็ได้ พร้อมปรับสเปคบางอย่างแทน
ที่มา: gizmochina