นอกจาก HUAWEI จะเปิดตัวแท็บเล็ตรุ่นพรีเมียมไปแล้วอย่าง HUAWEI MatePad Air 2025 ก็ยังมีการเปิดตัวรุ่นประหยัดตามมาด้วยอีกหนึ่งรุ่น นั่นก็คือ HUAWEI MatePad 11.5 S 2025 ที่เปิดตัวมาพร้อมกันในประเทศจีน โดยวางตำแหน่งให้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับคนที่ต้องการแท็บเล็ตที่มีประสิทธิภาพสูงในราคาที่เข้าถึงได้ โดยมีจุดเด่นหลักที่คล้ายกับ MatePad Air 2025 ก็คือตัวหน้าจอที่มีทั้งรุ่นปกติและรุ่น Soft Light Edition ที่เน้นลดแสงสะท้อนเพื่อให้ใช้งานได้สบายตายิ่งขึ้น ส่วนรุ่นที่วางขายในบ้านเราตอนนี้จะเป็น HUAWEI MatePad 11.5 S 2024 มีราคาอยู่ที่ 12,990 บาทเท่านั้น สั่งซื้อได้ที่ Shopee/ Lazada
เปิดตัว HUAWEI MatePad 11.5 S 2025

สำหรับ HUAWEI MatePad 11.5 S 2025 รุ่นนี้ก็ยังมีดีไซน์ที่เน้นความบางเบา ด้วยตัวเครื่องแบบโลหะบางเพียง 6.1 มม. และมีน้ำหนัก 515 กรัม มีสีให้เลือก 4 สี ได้แก่สีเขียว Field Green, สีม่วง Feather Sand Purple, สีเงิน Frost Silver และสีเทา Deep Space Gray

HUAWEI MatePad 11.5 S 2025 มาพร้อมหน้าจอ IPS ขนาด 11.5 นิ้ว ความละเอียด 2.8K (2800 × 1840 พิกเซล, 291ppi) รองรับอัตรารีเฟรชเรท 144Hz ครอบคลุมขอบเขตสี P3 เต็มรูปแบบเพื่อการแสดงผลที่คมชัดและสมจริง มีให้เลือก 2 แบบเช่นกันคือหน้าจอแบบปกติ และหน้าจอแบบ Soft Light Edition ที่ใช้เทคโนโลยี nano-etched ลดแสงสะท้อนลงเหลือเพียง 2% พร้อมการรับรองจาก TÜV Rheinland ในด้านการลดแสงสีฟ้าและป้องกันการกระพริบ ใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานานโดยไม่ล้าสายตา
ภายในขับเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 5.0 รองรับ RAM สูงสุด 12GB และความจุสูงสุด 512GB พร้อมระบบระบายความร้อนที่ได้รับการปรับปรุงให้ประสิทธิภาพดีขึ้น 27% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า มีแบตเตอรี่ขนาด 8800mAh รองรับการชาร์จเร็วได้ 40W

นอกจากนี้ HUAWEI MatePad 11.5 S 2025 ยังมาพร้อมแอป Huawei Note ที่อัปเกรดด้วยฟีเจอร์ AI เช่น การปรับแต่งลายมือให้สวยงาม การจดจำสูตร และการซูมแคนวาสได้ 60 เท่า รวมถึงผู้ช่วย Xiaoyi ที่ช่วยแปลภาษาแบบเรียลไทม์ แก้โจทย์ปัญหา และตอบคำถามจากเอกสารได้ครบ รวมถึงโหมด “Born to Draw” ที่มาพร้อมแปรงวาดภาพแบบ 3D oil painting เครื่องมืออนิเมชัน และจานสีสำหรับสร้างสรรค์ผลงาน ด้วยปากกา M-Pencil Pro 3 (ขายแยก) ที่ช่วยเสริมในการวาดและจดบันทึกให้ดีขึ้น

ด้านกล้อง HUAWEI MatePad 11.5 S 2025 มาพร้อมกล้องหลัง 13MP และกล้องหน้า 8MP ซึ่งทั้งคู่สามารถถ่ายวิดีโอ 1080p ได้ ระบบเสียงใช้ลำโพง 4 ตัวพร้อมการปรับแต่งจาก HUAWEI Histen 9.0 ให้เสียงที่คมชัดดังรอบด้าน การเชื่อมต่อครอบคลุมทั้ง Wi-Fi 6, Bluetooth 5.2, USB-C (USB 3.1 Gen 1) และเทคโนโลยี Star Flash ของ Huawei ที่ให้การเชื่อมต่อปากกาและคีย์บอร์ดที่มีความหน่วงต่ำอีกด้วย
ราคาและการวางจำหน่าย
การวางจำหน่ายของรุ่นนี้เบื้องต้นเปิดตัวพร้อมวางขายในประเทศจีนเป็นที่แรก และอาจขยายไปยังตลาดโลกในเร็วๆ นี้ ส่วนราคาของแต่ละรุ่นความจุมีดังนี้
- รุ่นหน้าจอปกติ
- RAM 8GB/ 256GB: ราคา 2,199 หยวน หรือประมาณ 9,900 บาท
- RAM 12GB/ 256GB: ราคา 2,499 หยวน หรือประมาณ 11,300 บาท
- รุ่นหน้าจอแบบ Soft Light Edition
- RAM 12GB/ 256GB: ราคา 2,799 หยวน หรือประมาณ 12,700 บาท
- RAM 12GB/ 512GB: ราคา 3,199 หยวน หรือประมาณ 14,500 บาท
ที่มา: gizmochina