
จบกันไปแล้วนะครับกับงานเปิดตัว OPPO Find X5 Pro 5G Launch Event Live Streaming ซึ่งในงานมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ทั้งหมด 2 อย่างก็คือ OPPO Find X5 Pro 5G ที่เป็นมือถือเรือธงรุ่นใหม่ และหูฟังไร้สายระดับพรีเมี่ยมรุ่นใหม่อย่าง OPPO Enco X2 โดยทั้ง OPPO Find X5 Pro 5G และ OPPO Enco X2 ต่างก็ได้รับความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญมาช่วยยกระดับความสามารถขึ้นไปอีกระดับ ซึ่งรายละเอียดจะมีอะไรบ้างเราไปชมกันได้เลย

เปิดตัว OPPO Find X5 Pro 5G มือถือกล้องเทพจาก Hasselblad

OPPO Find X5 Pro มือถือระดับเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดจากทาง OPPO ในที่สุดก็มาถึงเมื่องไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจุดเด่นของ Find X5 Pro ก็คือกล้องถ่ายรูประดับเทพที่ได้ Hasselblad มาช่วยพัฒนา รวมไปถึงยังมีการใส่ชิปประมวลผลภาพ MariSilicon ที่ OPPO พัฒนาขึ้นมาเพิ่มเข้าไปด้วย ช่วยให้การถ่ายภาพและวิดีโอในทุกสภาพแสงพัฒนาขึ้นไปอีกระดับ
กล้องหลังระดับเทพ Hasselblad x MariSilicon

กล้องของ OPPO Find X5 Pro 5G นั้นในครั้งนี้เรียกว่าจัดเต็มมาก ด้วยการไปจับมือกับ Hasselblad ที่เป็นผู้พัฒนากล้องชื่อดังให้มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของกล้องถ่ายรูปบน OPPO Find X5 Pro 5G ให้ออกมาถึงขีดสุด โดยนำ Natural Color Calibration ที่ทาง Hasselblad พัฒนาขึ้นมาใส่ใน OPPO Find X5 Pro 5G ซึ่ง Natural Color Calibration ที่ทาง Hasselblad จะช่วยปรับจูนกล้องให้สามารถเก็บสีสันของภาพได้อย่างเป็นธรรมชาติและสมบูรณ์แบบราวกับตาเห็นมากที่สุดเพื่อสร้างสรรค์ภาพถ่ายระดับมืออาชีพ นอกจากนี้ใน OPPO Find X5 Pro 5G ยังได้มีการใส่ชิปเซ็ต MariSilicon X ซึ่งเป็น Imaging NPU ขนาด 6nm ที่ทาง OPPO พัฒนราขึ้นมาเอง ซึ่งจะช่วยมอบพลังการถ่ายวิดีโอในที่แสงน้อย (4K Ultra Night Video) ให้ออกมาดีที่สุดแบบไม่เคยมีมาก่อน อีกทั้งยังมาพร้อมระบบกันสั่นระดับโปร SLR-Level 5-Axis Image Stabilization ครั้งแรกด้วยการรวม OIS 5 แกนขั้นสูง เข้ากับอัลกอริธึม AI ทำให้สามารถบันทึกภาพวิดีโอที่มีความเสถียรได้ดียิ่งขึ้น

สำหรับชุดกล้องของ OPPO Find X5 Pro 5G นั้นก็เรียกได้ว่าเป็นชุดกล้องระดับเรือธงด้วยเช่นกันด้วยเซ็นเซอร์ Sony IMX766 ที่มีควาทมละเอียด 50 MP ทั้งกล้อง Wide และ กล้อง Ultrawide ส่วนกล้องตัวที่ 3 คือกล้อง Telephoto ความละเอียด 13 MP ที่รองรับการซูมแบบ Hybrid ได้สูงสุด 5 เท่าและซูมแบบ Digital ได้สูงสุดถึง 20 เท่า ซึ่งตัวกล้องชุดนี้สามารถบันทึกสีได้ถึงหนึ่งพันล้านสีเลยทีเดียว
หน้าจอที่ลื่นไหล สวยสด และแข็งแรงทนทาน

หน้าจอของ OPPO Find X5 Pro 5G เป็นหน้าจอแบบ LTPO AMOLED รุ่นใหม่ที่รองรับการปรับเปลี่ยนอัตรารีเฟรชได้ตั้งแต่ 1Hz – 120Hz เลยทีเดียว แถมยังมาพร้อมอัตราตอบสนองต่อการสัมผัสที่สูงถึง 240Hz สำหรับตัวหน้าจอนั้นจะมีขนาดใหญ่ 6.7 นิ้ว ที่มีความละเอียดระดับ QHD+ ซึ่งสามารถแสดงผลสีได้ถึง 1.07 พันล้านสีและรองรับการแสดงผลแบบ HDR10+ อีกด้วย แถมตัวหน้าจอยังสามารถทำความสว่างได้สูงสุดถึง 1,300 nits และใช้กระจก Gorilla Glass Victus มาครอบเพื่อเพิ่มความคงทนด้วย
สเปคแรงสมคำว่าเรือธง

ในส่วนของความแรงนั้นด้วยการที่เป็นเรือธงก็ต้องได้ชิปประมวลผลระดับเรือธงด้วยเช่นกัน โดย OPPO Find X5 Pro 5G นั้นได้ชิปประมวลผลเป็น Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 ที่เป็นชิปประมวลผลระดับเรือธงในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมาพร้อมแรมแบบ LPDDR5 ขนาด 12GB และมีพื้นที่เก็บข้อมูลความเร็วสูงอย่าง UFS 3.1 ขนาด 256GB มาด้วย (ไม่สามารถเพิ่มความจุด้วย MicroSD Card ได้นะ)
แบตเตอรี่จัดเต็มพร้อมชาร์จเร็วตามสไตล์ OPPO

สำหรับแบตเตอรี่นั้น OPPO Find X5 Pro 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh ซึ่งภายในแบตเตอรี่จะมีการแบ่งออกเป็น 2 ก้อนเพื่อความรวดเร็วในการชาร์จและช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ให้ยืนยาวยิ่งขึ้นด้วย โดยแบตเตอรี่ของ OPPO Find X5 Pro 5G นั้นสามารถชาร์จได้มากถึง 1,600 Cycle เลยทีเดียว (โดยทั่วไปจะได้เพียง 800 Cycle เท่านั้น) นอกจากนี้ยังรองรับระบบชาร์จเร็ว 80W SUPERVOOC ที่ทาง OPPO เคลมว่าสามารถชาร์จจาก 0% – 50% ได้ภายในเวลาเพียง 12 นาทีเท่านั้น อีกทั้งยังรองรับระบบชาร์จเร็วแบบไร้สายอย่าง 50W AIRVOOC อีกด้วย ซึ่งทาง OPPO เคลมว่าสามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0% – 100% ได้ภายในเวลาเพียง 47 นาทีเท่านั้น
สรุปสเปคของ OPPO Find X5 Pro 5G

- หน้าจอ : LTPO AMOLED (Gen 2), ขนาด 6.7 นิ้ว, ความละเอียด 3216 x 1440 พิกเซล (QHD+), Dynamic Refresh Rate 10 – 120Hz, Touch Sampling Rate 240Hz, รองรับการแสดงผลสี 1.07 พันล้านสี, รองรับการแสดงผลแบบ HDR10+, มีความสว่างสูงสุด 1,300 nits, กระจก Gorilla Glass Victus
- ชิปประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 (4nm)
- GPU : Adreno 730
- NPU : MariSilicon X Imaging
- แรม / ความจุ : 12GB / 256GB (LPDDR5 / UFS 3.1)
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1: 50 MP, f/1.7, AF, dual-OIS (wide)
- ตัวที่ 2: 13 MP, f/2.4, 2x optical zoom, AF, (telephoto)
- ตัวที่ 3: 50 MP, f/2.2, 110˚, AF (ultrawide)
- กล้องหน้า : 32 MP, f/2.4, fixed focus
- แบตเตอรี่ : 5,000 mAh (2,500 mAh จำนวน 2 ก้อน)
- รองรับระบบชาร์จเร็ว :
- 80W SUPERVOOC
- 50W AIRVOOC
- 10W Reverse Wireless Charging
- ระบบปฏิบัติการ : Android 12 ครอบทับด้วย ColorOS 12.1
- กันน้ำ-กันฝุ่น : IP68
- การเชื่อมต่อ :
- 5G SA/NSA
- Wi-Fi 6 (2 x 2 MIMO)
- Bluetooth 5.2 รองรับ Codec SBC, AAC, APTX HD, LDAC, APTX, LHDC
- NFC
- GPS, A-GPS, BeiDou, GLONASS, Galileo, QZSS
- USB Type-C 3.1
- USB OTG
- เซ็นเซอร์ :
- Fingerprint (Optical, ซ่อนใต้จอ)
- Facial Recognition
- Geomagnetic sensor
- Proximity sensor
- Ambient light sensor
- Color temperature sensor
- Accelerometer
- Gravity sensor
- Multi-Spectral sensor
- Gyroscope
- Pedometer
- ขนาด : 163.7 x 73.9 x 8.5 มม.
- น้ำหนัก : 218 กรัม
- สี : Glaze Black, Ceramic White
ราคาและโปรโมชั่น

OPPO Find X5 Pro 5G เปิดราคามาที่ 39,990 บาท ซึ่งเริ่มเปิดให้ทำการสั่งจองล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 29 เมษายน 2565 ซึ่งหากสั่งจองภายในเวลาที่กำหนดจะได้รับของสมนาคุณเป็น Premium Service VIP Card, AIRVOOC 45W Wireless Charger และ OPPO Kevlar Protective Case รวมมูลค่าทั้งสิ้น 13,498 บาทไปด้วยเลย นอกจากนี้ถ้าสั่งจองผ่านผู้ให้บริการเครือข่ายอย่าง AIS, DTAC และ Truemove H แล้วจะได้รับส่วนลดค่าเครื่องสูงสุดถึง 20,000 บาทด้วยนะ
เปิดตัว OPPO Enco X2 หูฟังไร้สายระดับพรีเมี่ยม เสียงระดับ Hi-Res และตัดเสียง ANC

นอกจากกจะเปิดตัวมือถือระดับเรือธงแล้วทาง OPPO ยังได้เปิดตัวหูฟังไร้สายระดับเรือธงอย่าง OPPO Enco X2 เพิ่มด้วย โดยหูฟังไร้สายรุ่นนี้มีจุดเด่นคือได้ Dynaudio ที่เป็นผู้ผลิตเครื่องเสียงชั้นนำมาช่วยปรับแต่งเสียงให้ ซึ่งตัวหูฟังรองรับเสียงความละเอียดสูงสุดถึง 96 kHz และตอบสนองต่อคลื่นความถี่ที่คลอบคลุมตั้งแต่ 20kHz – 40,000 kHz บนมาตราฐาน Hi-Res ซึ่งทาง OPPO เคลบมว่าจะให้รายละเอียดเสียงที่ดีกว่ารุ่นก่อนอย่างมาก

ตัวหูฟังมาพร้อมกับไดรเวอร์ไดนามิกขนาด 11 มม. ซึ่งมีความบางเป็นพิเศษเพียง 0.0095 มม. เท่านั้น และมีทวีตเตอร์แม่เหล็กจำนวน 5 ชิ้น ช่วยให้สามรรถขับเสียงในย่านสูง, กลาง และต่ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับการเชื่อมต่อนั้นตัว OPPO Enco X2 รองรับ Bluetooth 5.2 และเพื่อให้สามารถรับส่งสัญญาณคุณภาพสูงได้ ทาง OPPO จึงได้ใส่โปรโตคอล LHDC 4.0 เพื่อเข้ามา ช่วยให้ตัวหูฟังรองรับ Bitrate สูงถึง 900kbps

สำหรับระบบตัดเสียงนั้น OPPO Enco X2 มาพร้อมระบบตัดเสียงแบบ ANC หรือ Active Noise Cancellation ที่ทาง OPPO เคลมว่าสามารถลดเสียงรบกวนได้ถึง 45dB ซึ่งเหนือล้ำยิ่งกว่า ANC ใน Enco X ที่ลดเสียงรบกวนได้เพียง 35dB

คุณสมบัติอื่นๆ ของ OPPO Enco X2 ได้แก่ความสามารถกันน้ำ-กันฝุ่นระดับ IPX4, มีการคลือบแว็กซ์กับสารเคมีต้านแบคทีเรียที่ตัวหูฟังทำให้ขี้หูไม่ไปอุดตันที่จุกยางและทำความสะอาดได้ง่าย และแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง 5.5 ชั่วโมง และสูงสุด 40 ชั่วโมงเมื่อใช้ร่วมกับเคสชาร์จ

OPPO Enco X2 สนนราคาอยู่ที่ 5,990 บาท ซึ่งจะเริ่มเปิดให้ทำการสั่งจองล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 10 พฤษภาคม 2565 และจะเริ่มวางจำหน่ายทั่วไปในวันที่ 11 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป