ในระยะหลัง BlackBerry ในภาพรวมจะมีข่าวไม่สู้ดีนัก นับตั้งเเต่จดหมายเปิดผนึกส่งถึงซีอีโอของ RIM ที่วิจารณโครงสร้างภายในขององค์กรว่าไม่ได้วัดจากประสิทธิภาพเป็นหลัก ไม่มีการวัดผลที่ดี ถึงเเม้ว่าจะมีค่านิยมในการทำงานหนัก เเต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรนักเพราะเหมือนกับยุทธศาสตร์ของบริษัทนั้นยังคลุมเครืออยู่ เหมือนกับว่ายังไม่เเน่ใจว่าตัวเองจะไปทางไหนกันเเน่ ท่ามกลางกระเเสการเปลี่ยนเเปลงที่รวดเร็วจนทำให้เวลาที่ช้าไปเพียงสองสามปีก็เพียงพอที่จะทำให้สภาพบริษัทจากที่รุ่งโรจน์มาเป็นรุ่งริ่งได้อย่างรวดเร็ว
ถึงเเม้ว่ายอดขายจำนวนเครื่อง BlackBerry จะมียอดขายมากขึ้น เเต่เหมือนกับว่านักลงทุนจะไม่พอใจกับการเติบโตเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะทั้ง Android หรือ iPhone ต่างพากันเเย่งส่วนเเบ่งในตลาดของ BlackBerry ไปเรื่อยๆ จนกระทั่ง BalckBerry เสียตำเเหน่งอันดับหนึ่งของสมาร์ทโฟนในสหรัฐไปให้กับ Android เเละ iOS ไปเรียบร้อยเเล้ว เเละมาอยู่เป็นอันดับสามเเทน
ในปี 2009 ส่วนเเบ่งในตลาดสมาร์ทโฟนรอง RIM สูงถึง 54% เเละลดลงอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปี 2011 ไตรมาสสองของปี 2011 ที่เหลือเพียง 13% เท่านั้น
ในสายตาของนักวิเคราะห์การลงทุนนั้น การสูญเสียส่วนเเบ่งทางตลาดอย่างต่อเนื่องไม่ใช่สัญญาณธรรมดาๆ เพราะนั่นหมายถึงว่าบริษัทสูญเสียความสามารถในการเเข่งขันระยะยาวเเละไม่สามารถปรับตัวได้เข้ากับตลาด เเต่นั่นก็หมายถึงเพียงภาพรวมในสหรัฐเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าส่วนเเบ่งทางการตลาดของ BlackBerry จะลดลงทั้งหมด สิ่งหนึ่งที่น่าเเปลกใจคือประเทศในภูมิภาคเอเซีย กลับมีการเติบโตที่มากขึ้น โดยทวีปเอเซียนั้นในไตรมาสเเรก RIM มียอดขายสูงขึ้นเป็นส่วนเเบ่งถึง 11% จากปีที่เเล้วคิดเป็นเพียง 8% เท่านั้น โดยเฉพาะอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เเละประเทศไทย ที่มีผู้ใช้งาน BlackBerry Messenger เป็นจำนวนมาก ซึ่งขัดกับสภาวะตลาดทั่วโลกที่ BlackBerry กำลังมีส่วนเเบ่งลดลง
เป็นเพราะอะไร? สุดท้ายเเล้วเราก็ต้องอย่าลืมว่า ไม่ใช่ทุกคนที่จะต้องคิดว่าซื้อโทรศัพท์จะต้องมานั่งดูที่ซีพียู ความละเอียดของกล้อง หรือดีไซน์ ซึ่งผู้ใช้เหล่านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มของผู้ตามเทคโนโลยีเป็นกลุ่มเเรกๆ ที่เราเรียกว่า Early Adopter อย่าง Android ก็อาจจะเป็นผู้ที่ใช้ Android มาตั้งเเต่ปี 2009 อย่าง HTC Magic ในขณะเดียวกัน กลุ่มคนที่ไม่มีคิดว่าเรื่องดังกล่าวเป็นปัจจัยเลือกซื้อ ก็มีอยู่เป็นจำนวนมาก โดยคนกลุ่มนี้ต้องการของที่เพียงเเค่ตอบสนองการใช้งานในชีวิตประจำวันของเค้าได้ โดยไม่ต้องการความหวือหวาในการใช้งานอย่าง Android หรือ iPhone เเต่อย่างใด
กลุ่มเหล่านี้นี่เอง ที่กลายเป็นฐานผู้ใช้ของ BlackBerry ในประเทศไทยซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะจากการทำการตลาดอย่างมีชั้นเชิงโดยการให้กลุ่มคนที่มีอิทธิพลในการชี้นำของคนในสังคม (Trendsetter) อย่างเช่น ดารา นักร้อง มาเล่าถึงเเรงบันดาลใจเเละการใช้ BlackBerry ในชีวิตประจำวัน เเละมี BlackBerry Messenger (BBM) เป็นตัวกำเเพงกั้นระหว่าง ?มือถือทั่วไป? เเละ ?BlackBerry? เนื่องจาก BBM จะสามารถติดต่อกับ BlackBerry เครื่องอื่นได้โดยใช้ PIN ถ้าเราดูจากการโฆษณาหรือโปรโมท BlackBerry ไม่เคยนำจุดเด่นในเรื่องประสิทธิภาพ หรือราคาเข้ามาเป็นจุดขายของตนเลย เเต่ก็ยังใช้เเนวคิดเดิม คือให้ผู้ที่มีอิทธิพลทางสังคมมาใช้ ทำให้การเชื่อมโยงสินค้าเข้ากับภาพลักษณ์ที่ดูดีของดารา เเละเหมือนกับว่าสินค้านั้นดูมีระดับไปโดยปริยาย โดยกลุ่มเป้าหมายหลักๆ ของ BlackBerry ในประเทศไทยคือ
- กลุ่มคนทั่วไปที่ไม่สนใจเทคโนโลยีใหม่ๆ เเละพร้อมจะเปลี่ยนถ้าสินค้าตัวไหนกำลังเป็นที่นิยม
- ผู้หญิง ซึ่งโดยทั่วไปจะมีธรรมชาติในการติดต่อสื่อสารกันมากอยู่เเล้ว เเละทำได้สะดวกมากขึ้นด้วย BlackBerry Messenger
- ผู้ชายที่อยากจีบผู้หญิงที่ใช้ BlackBerry
อนาคตต่อไป?
เเม้ว่า BBM จะเป็นจุดเเข็งนอกจากคีย์บอร์ด เเละ Push Notification ที่รวดเร็วเเล้ว สิ่งทีดูน่าเป็นห่วงของ BlackBerry คือคู่เเข่งจำนวนมากพยายามออกฟีเจอร์ที่เหมือน BBM ไปใช้ เช่น Whatapps ที่เป็นโปรเเกรมเเชทเเบบ BBM เเต่สามารถข้ามเเพลทฟอร์มได้? การ Push Notification Android เองก็เริ่มสามารถทำได้เเล้วเช่นกัน ถึงเเม้จะไม่รวดเร็วเท่ากับ BBM เเต่สำหรับฟีเจอร์อื่นๆ เเล้วนับว่า Android หรือ iOS ก็สามารถให้การใช้งานที่ทดเเทนกันได้
หรือเราจะเริ่มเห็น Android ที่เป็นเเบบ Keyboard มากขึ้น โดยเฉพาะ HTC Chacha ที่สนับสนุนการเเชทอย่างเต็มตัว เเละเน้นด้านสังคมออนไลน์โดยเน้นฟีเจอร์ที่เกี่ยวกับ Facebook? มีตัวอักษรภาษาไทยบนเเป้นพิมพ์ได้ เรียกได้ว่าเหมือน BlackBerry เลย วัสดุเเละความเร็วต่างๆ ในการใช้งานก็ถือว่าดูดีเลยทีเดียว เเละสามารถเเชทได้หลายเเอพมากทั้ง Ebuddy, Whatsapp เเละอื่นๆ ยกเว้นเพียงเเต่ iMessage เเละ BBM เท่านั้นเอง
จากที่กล่าวมาคงเห็นว่า ตอนนี้จุดเเข็งของ RIM ยังคงอยู่เพียงเเค่ 3 อย่างข้างต้นเท่านั้น เเละคู่เเข่งเองก็กำลังจะลอกเลียนเเบบฟีเจอร์ที่เป็นจุดเเข็งของ RIM ทั้งสามเรื่องดังกล่าว ทำให้อนาคตของ BlackBerry ดูไม่สดใสนัก เเต่ตราบใดก็ตามที่ BlackBerry ยังคงเป็นที่นิยมในหมู่สาวๆ ในไทยก็เป็นสาเหตุหลักได้ว่าทำไม BlackBerry ในประเทศไทยถึงไม่กระทบเหมือนในอเมริกา ซึ่งมีจุดเด่นในด้านการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างคนหนุ่มสาว ซึ่งไม่มีอะไรมาทดเเทนได้ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์รุ่นไหนก็ตาม