การขอสเตทเม้น หรือ e-Statement ถือว่าเป็นอีกสิ่งหนึ่ง ที่สำคัญมาก ในการทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้การเคลื่อนไหว ของบัญชีการเงินของตัวเราเอง ซึ่งการขอ Statement ในตอนนี้ก็สามารถขอผ่านแอพบนมือถือได้เลย ซึ่งปกติแล้ว มักจะเป็นเรื่องน่าปวดหัว และดูยุ่งยากมากสำหรับบางคน ที่จะต้องไปธนาคาร ขอนู่นนี่นั่น กว่าจะได้มาแต่ละครั้ง ก็ต้องเสียเวลาไปเป็นวัน
ถึงแม้ว่าแต่ก่อนจะยากสักแค่ไหน แต่ในปัจจุบันนี้ ที่สิ่งออนไลน์ได้เข้ามาช่วย เป็นส่วนหนึ่งให้ชีวิตเราง่ายขึ้น ยิ่งปีใหม่แล้วด้วย ก็ยิ่งต้องใช้ไปทำธุรกรรมทางการเงินกันมากขึ้นอีก การขอ Statement ธนาคารผ่านแอพบนมือถือ จึงเป็นเรื่องที่ง่ายมากๆ เพียงแค่ไม่กี่ขั้นตอน ก็สามารถปริ้นออกมา แล้วนำไปใช้งานได้ในทันที ซึ่งการขอแบบปกตินั้น จะเริ่มตั้งแต่ 3 เดือน 5 เดือน ไปถึงรายปี หรือมากกว่านี้ก็ยังได้ แต่บางธนาคารก็สามารถขอได้ฟรีๆ บางธนาคารนั้นก็จำเป็นต้องเสียเงิน เพื่อขอดูรายการ Statement ด้วย ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละที่ ว่าต้องมีค่าใช้จ่ายหรือไม่ วันนี้เราเลยจะมาแนะนำ วิธีขอสเตทเม้น จากธนาคารต่างๆ ผ่านแอพบนมือถือแบบง่ายๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน ก็สามารถขอมาใช้ได้แล้ว วันนี้ทาง Specphone เลยจะมาแนะนำวิธีการขอ Statement ผ่านแอพต่างๆ มาให้ใช้งานกัน มาดูกันเลยว่าแต่ละธนาคาร จะมีวิธีทำอย่างไรบ้าง
สเตทเม้น หรือ e-Statement คืออะไร?
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับเจ้าตัว Statement หรือ e-Statement กันก่อน ซึ่งมันก็คือข้อมูลทางการเงิน และการเคลื่อนไหวต่างๆ ในบัญชีของธนาคารที่เราใช้อยู่ จะมีตั้งแต่การแจ้งจำนวนเงินที่ฝากเข้ามา และการถอนออกไป ซึ่งการใช้จ่ายต่างๆ พวกนี้ จะถูกแยกออกมาเป็นเดือน ในแต่ละเดือน แน่นอนว่ารวมไปถึงเงินเดือน ที่ได้รับในแต่ละเดือนด้วย และการขอสเตทเม้นนั้น จะสามารถขอดูได้ทั้งหมด ทั้งรายรับรายจ่าย โดยปกติแล้วจะสามารถขอดูย้อนหลังได้ เริ่มต้นคือ 3 เดือน ไปจนถึงเป็นปี หรือจะมากกว่านั้นก็ขอได้เหมือนกัน
Statement หรือ e-Statement ใช้ทำอะไรได้บ้าง?
สำหรับคนที่จำเป็นต้องใช้ เพื่อทำธุรกรรมทางการเงิน ก็จะรู้เลยว่าสเตทเม้นนั้นสำคัญมาก ในการขอทำเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการทำวีซ่าเพื่อทำงานต่างประเทศ ทำวีซ่าเรียนต่อต่างประเทศ ทำวีซ่าเพื่อไปเที่ยวต่างประเทศ การกู้เงินซื้อรถ ซื้อบ้าน และอีกอย่างที่คนมักจะต้องใช้กันเป็นประจำ นั่นก็คือการสมัครบัตรเครดิต ที่สเตทเม้นพวกนี้ จะเป็นตัวยืนยัน และเป็นหลักฐาน ว่าเรานั้นมีเงินหมุนเวียนอยู่ในบัญชีจริง และเพียงพอต่อการรับรองว่า เราจะมีเงินมารับผิดชอบกับค่าใช้จ่าย ในการขอไปใช้ในเรื่องต่างๆ นั่นเอง ซึ่งการขอนั้นจะสามารถไปทำที่ธนาคาร หรือจะทำผ่านแอพในมือถือ ช่องทางออนไลน์ก็ได้
วิธีขอสเตทเม้น หรือ e-Statement ผ่านแอพในมือถือ
สำหรับการขอสเตทเม้น หรือ e-Statement ของแอพธนาคารต่างๆ ที่เราจะนำมาแนะนำนั้น จะมีอยู่ด้วยกัน 5 ธนาคารหลักๆ ที่คนส่วนใหญ่ใช้กัน นั่นก็คือ กรุงไทย, กสิกรไทย, ไทยพาณิชย์, ออมสิน, กรุงศรีฯ และธนาคารทหารไทย ซึ่งความจริงก็ยังมีอีกหลายธนาคาร ที่สามารถขอได้เหมือนกัน แต่ต้องขอผ่านเว็บไซต์แทน อย่างเช่นธนาคารกรุงเทพ ฯลฯ แต่ถ้าธนาคารไหนที่ไม่ได้รองรับการขอผ่านเว็บ หรือผ่านแอพ ยังไงก็ต้องไปที่ธนาคารเพื่อขออยู่ดี แต่ธนาคารเท่าที่เรานำมาฝาก ก็ถือว่าค่อนข้างเป็นที่นิยม และครบอยู่พอสมควรแล้ว ไปดูกันเลยดีกว่าว่าแต่ละธนาคาร มีวิธีขออย่างไรบ้าง
วิธีขอสเตทเม้น หรือ e-Statement ธนาคารกรุงไทย
สำหรับธนาคารกรุงไทยนั้น จะสามารถขอ e-Statement ได้ผ่านทางแอพ Krungthai NEXT ซึ่งเป็นของกรุงไทยเองเลย ใครที่ยังไม่มีก็ต้องไปสมัครก่อนนะ ส่วนขั้นตอนการดู และขอ e-Statement สามารถทำได้ดังนี้
- Android : ดาวน์โหลดแอพ Krungthai NEXT
- iOS : ดาวน์โหลดแอพ Krungthai NEXT
1. เข้าไปยังแอพ Krungthai Next จากนั้นเลือกที่เมนู บัญชี และเข้าสู่ระบบให้เรียบร้อย เมื่อเข้าสู่ระบบให้เลือกบัญชี ที่ต้องการขอสเตทเม้นของตัวเอง
2. เมื่อเลือกบัญชีได้แล้ว ก็ให้เลือกที่เมนูอื่นๆ (ปุ่มไอคอน จุดสามจุด) และเลือก statement
3. เมื่อเข้ามายังหน้าของการขอ statement ทางแอพจะให้เราเชื่อมต่อ email ก่อน ถ้าใครยังไม่ได้เชื่อมต่อ ก็กดตั้งค่าเพื่อขอรับสเตทเม้นผ่าน email ซึ่งจำเป็นต้องเชื่อมต่อ ไม่งั้นจะขอไม่ได้
4. เลือกเดือนที่ต้องการขอ statement ตั้งแต่เดือนแรกที่อยากขอ ถึงเดือนสุดท้าย โดยสามารถดูย้อนหลังได้ถึง 5 เดือน เมื่อเลือกได้แล้ว ก็ให้กดปุ่ม ส่ง statement
5. รายการของ e-Statement จะถูกส่งมายัง email ทันทีโดยเป็นไฟล์ PDF ส่วนการเปิดไฟล์ PDF นั้นจะให้ใส่เลขบัตรประจำตัวประชาชนก่อนด้วย เพื่อความปลอดภัยในการเข้าถึง
เพียงเท่านี้ก็จะสามารถ Save ไฟล์ PDF เพื่อนำมาใช้ได้แล้ว โดยไฟล์ที่บันทึกนั้น สามารถนำไปพิมพ์เพื่อใช้งานต่อได้เลย
วิธีขอสเตทเม้น หรือ e-Statement ธนาคารไทยพาณิชย์
การขอ e-Statement ของธนาคารไทยพาณิชย์นั้น สามารถขอได้ผ่านทางแอพ SCB EASY ซึ่งต้องโหลด และทำการสมัครก่อนการใช้งานด้วยเช่นกัน ส่วนขั้นตอนการขอ e-Statement ทำได้ดังนี้
- Android : ดาวน์โหลดแอพ SCB EASY
- iOS : ดาวน์โหลดแอพ SCB EASY
1. เข้าไปยังแอพ SCB EASY จากนั้นเข้าสู่ระบบ และเลือกไปยังหน้าเมนู More Options ตรงด้านล่างขวาก่อน เพื่อเข้าไปตั้งค่า email ก่อนการใช้งาน
2. เลือกเมนู Settings และเลือก Manage email เพื่อ Verified email จากนั้นจึงกดกลับออกมาเพื่อเข้าหน้าบัญชี
3. เลือกที่บัญชีของตัวเอง (รูปสมุดบัญชี) และเลือกบัญชีที่ต้องการขอ e-Statement และกดเข้าไปยังบัญชีนั้นเพื่อทำรายการต่อไป
4. เมื่อเข้ามายังหน้าบัญชีเรียบร้อยแล้ว ก็ให้กดที่เมนู More service (บริการอื่นๆ) เมื่อกดแล้วจะมี Pop Up ขึ้นมาด้านล่าง โดยเป็นเมนู Request statement ให้กดเข้าไปได้เลย
5. เลือกช่วงเดือนที่ต้องการขอ e-Statement โดยสามารถเลือกย้อนกลับไปได้มากถึง 1 ปี เมื่อเลือกแล้วให้กด Submit ด้านล่าง
6. ธนาคารจะส่งไฟล์ PDF มาให้ โดยการแยกเป็นรายเดือน กับปีมาให้เลย ซึ่งในการเข้าไปดูไฟล์ PDF นั้น ต้องใส่รหัสที่ทางธนาคารกำหนดก่อน ถึงจะเข้าดู และโหลดเพื่อนำมาใช้งานได้
เพียงเท่านี้ก็จะสามารถโหลดไฟล์ และนำมาใช้งานต่อไปได้แล้ว หากใครที่กดขอแล้วไม่เจอหน้าเลือกช่วงเดือน ก็ให้ย้อนกลับไปตั้งค่า email ก่อนเท่านั้น ไม่งั้นจะไม่สามารถขอมาดูได้
วิธีขอสเตทเม้น หรือ e-Statement ธนาคารกสิกรไทย
สำหรับธนาคารกสิกรไทยนั้นจะสามารถขอ e-Statement ได้โดยใช้แอพ K Plus ซึ่งต้องโหลด และสมัครก่อนการใช้งานเหมือนกัน มีวิธีขอ e-Statement ดังนี้
- Android : ดาวน์โหลดแอพ K Plus
- iOS : ดาวน์โหลดแอพ K Plus
1. เข้าไปยังแอพ K Plus แล้วเลือกเมนูธุรกรรม และใส่รหัสเพื่อเข้าใช้งาน และเลือกบัญชีที่ต้องการขอ e-Statement
2. เลือกที่เมนู Statement ที่หน้าแรกได้เลย เมื่อเข้ามาแล้วจะมีหน้ารายการล่าสุด และหน้าขอ Statement ซึ่งในหน้านี้จะขอ Statement เป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษก็ได้ และเลือกช่วงเดือนได้มากสุด 1 ปี เมื่อเลือกได้แล้ว ก็กดส่งคำขอได้เลย
3. เมื่อกดแล้วแอพจะขึ้นมาบอกว่าการขอสำเร็จ และรอ email ของธนาคารภายใน 3 ชั่วโมง เมื่อได้รับ email เรียบร้อยแล้ว ทางธนาคารจะบอกวิธีเปิดไฟล์ PDF เมื่อใส่รหัสแล้วก็สามารถโหลดมาใช้งานได้ทันที
เพียงเท่านี้ก็จะสามารถเปิด และโหลด Statement ของทางธนาคารได้แล้ว ซึ่งของธนาคารกสิกรไทยนี้จะง่ายหน่อย เนื่องจากมีวิธีการใช้งานเพียงไม่กี่ขั้นตอน และมีการรองรับที่ครบมาอยู่แล้ว จึงสามารถขอได้ง่ายมากๆ
วิธีขอสเตทเม้น หรือ e-Statement ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
สำหรับธนาคารกรุงศรีอยุธยานั้น สามารถขอ e-Statement ได้ผ่านแอพ KMA ที่ต้องโหลดและสมัครการใช้งานก่อนด้วย มีขั้นตอนการขอ e-Statement ดังนี้
- Android : ดาวน์โหลดแอพ KMA
- iOS : ดาวน์โหลดแอพ KMA
1. เข้าไปยังแอพ KMA จากนั้นใส่รหัสเพื่อเข้าไปยังหน้าบัญชี และเลือกบัญชีของตัวเองที่ต้องการขอ e-Statement
2. เมื่อเข้ามายังหน้าบัญชีส่วนตัว จะสามารถเลือกเมนูขอ Statement ได้จากหน้านี้เลย
3. หลังจากกดเข้าไปยังหน้าขอ Statement จะมีให้เลือกช่วงเวลาคือ 1-3 เดือนล่าสุด และเลือกช่วงวันที่ กับภาษาและตั้งค่า email ได้ด้วย เมื่อเลือกเรียบร้อยแล้วให้กด ส่งคำขอจากนั้นแอพจะขึ้นมาว่าการขอ Statement สำเร็จแล้ว ให้เข้าไปดูที่ email ได้เลย
4. เมื่อเข้าไปยัง email ธนาคารจะส่ง Statement พร้อมกับวิธีการใส่รหัสเพื่อเปิดไฟล์ PDF เมื่อเปิดแล้วสามารถใช้นำมาใช้งานได้ทันที
เพียงเท่านี้ก็จะสามารถขอ e-Statement ของธนาคารกรุงศรีอยุธยาได้แล้ว ซึ่งของทางธนาคารก็ได้ออกแบบมา เพื่อให้ใช้งานได้ง่ายเช่นกัน จึงสามารถขอได้เพียงไม่กี่ขั้นตอนเท่านั้น
วิธีขอสเตทเม้น หรือ e-Statement ธนาคารทหารไทย (TMB)
สำหรับธนาคารทหารไทยหรือ TMB นั้นจะสามารถขอ e-Statement ได้โดยผ่านแอพ TMB TOUCH ซึ่งสามารถทำได้ง่ายมากๆ ไม่จำเป็นต้องใช้ email ในการขอ e-Statement เลยด้วย สามารถทำได้ดังนี้
- Android : ดาวน์โหลดแอพ TMB TOUCH
- iOS : ดาวน์โหลดแอพ TMB TOUCH
1. เข้าไปยังแอพ TMB TOUCH และเข้าสู่ระบบด้วยการสแกนนิ้ว หรือใส่รหัส
2. เมื่อเข้ามายังหน้าแรกแล้ว หน้านี้จะมีสรุปทุกอย่างแบบทันใจไว้ให้กดเลย ให้เราเลือกเมนู รายการเดินบัญชี
3. เมื่อเข้ามาหน้านี้ จะสามารถเลือกเดือนที่ต้องการ e-Statement และสามารถโหลดเป็นไฟล์ PDF ได้ทันที เลือกย้อนหลังได้มากสุด 1 ปี ด้วยการกดปุ่มขวาล่าง โดยการสรุปจะบันทึกได้เป็นรายเดือน และสามารถนำไปใช้งานต่อได้ทันที
4. รายการสรุปทั้งหมดจะเป็นไฟล์ PDF มาให้ใช้งานได้เลย โดยการบันทึกไว้บนมือถือ
จะเห็นได้ว่าการขอ e-Statement ของธนาคารทหารไทยนั้น จะสามารถขอได้ง่ายมาก เพียงแค่เข้าแอพก็กดขอได้เลย ไม่จำเป็นต้องใช้ email เพียงแต่ต้องเปิดไฟล์ผ่านมือถือเท่านั้น แต่ก็สามารถส่งไฟล์จากมือถือ เพื่อนำไปใช้งานต่อได้อยู่ดี
gsbวิธีขอสเตทเม้น หรือ e-Statement ธนาคารออมสิน
สำหรับธนาคารสุดท้ายที่เราจะมาแนะนำกันนี้ก็คือธนาคารออมสิน ที่สามารถขอ e-Statement ได้โดยผ่านแอพ MyMo by GSB และมีวิธีการขอที่ง่ายเหมือนกัน แต่ก็ต้องใช้ email ในการดูด้วยเช่นกัน สามารถทำได้ดังนี้
- Android : ดาวน์โหลดแอพ MyMo by GSB
- iOS : ดาวน์โหลดแอพ MyMo by GSB
1. เข้าไปยังแอพ MyMo by GSB และเข้าสู่ระบบด้วยการสแกนลายนิ้วมือ หรือใส่รหัส และเลือกบัญชีที่ต้องการขอ e-Statement จากนั้นกดเลือกเข้าไปได้เลย
2. เมื่อเข้ามายังหน้าบัญชีแล้ว ให้กดเลือกรูปไอคอน Statement ตรงมุมขวาล่าง เพื่อเข้าไปเลือกระยะเวลา
3. เมื่อกดเข้ามาแล้ว เราสามารถเลือกช่วงเวลาได้ย้อนไป 6 เดือน และจำเป็นต้องเลือกภาษาด้วย เมื่อเลือกได้เรียบร้อยแล้วก็กดปุ่มส่งคำขอ
4. เมื่อกดแล้วธนาคารจะขึ้นว่าขอรายการเดินบัญชีให้แล้ว โดยส่งไปที่ email ก็กดเสร็จสิ้นและไปที่ email ที่เลือกเอาไว้ตอนต้น เมื่อเข้ามายัง email แล้วธนาคารจะแนะนำวิธีโหลดไฟล์ PDF ให้ และเมื่อใส่รหัสแล้ว ก็จะสามารถโหลดมาใช้งานได้แล้ว
เพียงเท่านี้ก็จะสามารถขอ e-Statement จากธนาคารออมสินได้แล้ว ถึงแม้ว่าจะมีขั้นตอนนิดหน่อย แต่ก็ถือว่ามีชั้นตอนที่ง่ายอยู่พอสมควร ซึ่งการใช้ email เข้ามาช่วยก็เพื่อความปลอดภัยนั่นเอง
ส่วนธนาคารกรุงเทพ หรือ Bualuang i-Banking นั้นสามารถขอสเตทเม้นได้ โดยต้องขอผ่านทางเว็บเท่านั้น ยังไม่สามารถขอกับแอพได้ โดยการขอให้เข้าไปยังเว็บของธนาคารกรุงเทพ ที่นี่ โดยจะมีวิธีการขอที่คล้ายกับในแอพทั่วไป ที่ต้องเข้าสู่ระบบก่อน แล้วจึงเลือกเมนูขอ Statement กำหนดวัน เดือน หรือปี ที่ต้องการขอ จากนั้นก็โหลดและนำมาใช้งานได้ทันที
แล้วทั้งหมดนี้ก็เป็นการขอสเตทเม้นจากแอพธนาคารทั้ง 6 ธนาคารคือ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงศรีฯ ธนาคารทหารไทย (TMB) และธนาคารออมสิน รวมไปถึงธนาคารกรุงเทพ ที่ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถทำผ่านแอพได้ แต่ก็ทำผ่านเว็บได้อยู่ดี ที่สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน และสามารถขอได้อย่างฟรีๆ ก็สามารถขอมาใช้งานได้แล้ว ช่วยให้สะดวกสบายมากขึ้น และยังช่วยประหยัดเวลาที่ต้องไปธนาคารอีก ใครที่ต้องการนำไปใช้เพื่อธุรกรรมทางการเงิน ก็เข้ามาดูวิธีการจากธนาคารต่างๆ ที่เราได้นำมาบอกได้เลย แล้วถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราก็จะนำมาฝากกันเรื่อยๆ เลยนะครับ