การเผลอทำมือถือตกน้ำเป็นหนึ่งในเหตุการที่มักเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะเวลาไปท่องเที่ยวแถบทะเลหรือน้ำตก ซึ่งถึงแม้มือถือในปัจจุบันจะมาพร้อมกับฟีเจอร์กันน้ำกันฝุ่น แต่ทว่าก็ไม่ได้มีกันทุกรุ่น ยิ่งเป็นกลุ่มมือถือราคาต่ำกว่า 10,000 บาทยิ่งไม่ต้องพูดถึง ไม่สามารถกันน้ำเข้าเครื่องได้แน่ ซึ่งเรามีทางแก้เบื้องต้นแบบง่าย ๆ มาบอกเพื่อน ๆ แล้ว
1. มือถือตกน้ำ ให้รีบเอาขึ้นทันที
สิ่งแรกที่ต้องทำคือให้ตั้งสติแล้วรีบเอามือถือขึ้นจากน้ำให้เร็วที่สุด เพราะยิ่งแช่นานเท่าไร ความเสียหายก็จะยิ่งกระจายมากขึ้นเท่านั้น
2. รีบปิดเครื่องซะ
หลังจากที่เก็บมือถือขึ้นมาแล้วหากเครื่องยังไม่ดับให้รีบทำการปิดเครื่องทันที เพราะการเปิดเครื่องคือการปล่อยให้ไฟฟ้าไหลผ่านแผงวงจร ซึ่งเมื่อโดนน้ำจะทำให้ตัวเครื่องอาจช๊อตได้ และอย่างเลวร้ายคืออาจจะช๊อตจนระเบิดใส่เลยก็ได้
3. แยกชิ้นส่วนให้ไว
หลังจากปิดเครื่องแล้วให้ทำการแยกชิ้นส่วนให้เร็วที่สุด ซึ่งชิ้นส่วนที่ว่าหมายถึงเคสและถาดซิม แล้วนำไปเช้ดกับผ้าขนหนูหรือทิชชู่ที่แห้งสนิทเพื่อซับน้ำออกมาให้ได้มากที่สุด
4. ซิลิก้าเจลช่วยคุณได้
หลังจากที่เช็ดมือถือจนแห้งแล้วสิ่งต่อไปที่ต้องทำก็คือให้นำมือถือใส่ลงไปในถุงพลาสติกที่มีซิลิก้าเจลหรือสารกันความชื้น ซึ่งสามารถหาได้ตามถุงขนมต่าง ๆ เพราะซิลิก้าเจลหรือสารกันความชื้นนั้นจะช่วยดูดความชื้นที่ยังคงหลงเหลืออยู่ภายในมือถือของเราออกไปได้ ซึ่งถ้าจะให้ชัวร์ก็ควรจะทิ้งมือถือเอาไว้ในถุงนั้นอย่างน้อยสัก 1 คืนหรืออาจจะมากกว่านั้นก็ได้
สำหรับคนที่ใช้ iPhone นั้นจะมีคำสั่งที่ช่วยไล่น้ำออกจากลำโพงคล้าย ๆ Apple Watch อยู่ด้วย โดยคำสั่งลัดนี้จะมีชื่อว่า Water Eject (ให้โหลดด้วย Safari) ซึ่งเมื่อรับคำสั่งลัดนี้มาแล้วก็ให้เพิ่มไปยังคลังคำสั่งลัดได้เลย เมื่อรับคำสั่งลัดมาแล้ว ก็เริ่มใช้งานด้วยการแตะคำสั่งลัด iPhone > Begin Water Ejection > จะมีเสียงออกจากลำโพงด้านล่างของ iPhone ประมาณ 10 วินาที ก็จะมีข้อความแจ้งเตือนว่าการไล่น้ำทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว
5. เปิดเครื่องเช็คชีพ
หลังจากที่แน่ใจแล้วว่าแห้งสนิทดี ให้ลองทำการเปิดเครื่องดู หากเปิดตัดก็ให้ลองเช็คสภาพเครื่องต่าง ๆ เช่นหน้าจอปกติไหม โทรเข้า-ออกได้ไหม ลำโพงดังหรือเปล่า ปุ่มใช้งานได้ทุกปุ่มไหม กล้องเปิดได้หรือเปล่า เครื่องมองเห็น MicroSD ไหม รวมถึงให้ลองเช็คฟีเจอร์ต่าง ๆ ว่ายังใเป็นปกติอยู่ไหม และถึงแม้จะไม่เจออะไรผิดปกติก็ควรจะหาเวลาว่าเอามือถือไปเจ้าศูนย์บริการเพื่อให้ช่วงเช็คแบบละเอียดอีกครั้ง
ซึ่งตรงนี้ขอให้ทำการสำรองข้อมูลในมือถือเอาไว้ให้เรียบร้อย เพราะไม่ว่ายังไงช่างก็จะขอทำการล้างเครื่องใหม่แน่ ๆ อีกทั้งหากอยู่ ๆ เครื่องดับไปแล้วเปิดไม่ติดอีกเลย เพื่อน ๆ คงจะเสียดายข้อมูลในเครื่องแน่ ๆ ฉะนั้นในขณะที่เครื่องยังติดอยู่ขอให้ทำการสำรองข้อมูลเอาไว้ก่อนจะดีที่สุด
นอกจากนี้หากไม่ได้ใช้มือถือที่มาพร้อมกับฟีเจอร์กันน้ำ ให้ทำใจไว้เลยว่าอาจจะต้องซื้อมือถือใหม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับว่าจะช้าหรือเร็วแค่ไหน
Tips
- ห้ามเสียบสายชาร์จแบต : อาจทำให้ไฟช็อต ระเบิด และไฟลุกไหม้ได้
- อย่าพึ่งไปกดปุ่มต่าง ๆ โดยไม่จำเป็น
- ห้ามเขย่าโทรศัพท์ เพราะอาจจะทำให้น้ำกระจายเป็นวงกว้างมากขึ้น
- ห้ามเป่าลม เพราะอาจจะทำให้น้ำไหลเข้าลึกไปอีกได้
- ห้ามใช้ความร้อนกับโทรศัพท์ เช่น ใช้ไดร์ป่าผม เอาเข้าไมโครเวฟ วางตากแดด ฯลฯ เด็ดขาด