Dimensity 9000 Vs. Snapdragon 8 Gen 1 ศึกสุดยอดชิปเซ็ทสำหรับสมาร์ทโฟนระบบปฎิบัติการณ์ Android จาก 2 ค่ายชื่อดังที่กำลังได้รับการจับตามองเป็นอย่างมาก มาดูกันว่าใครจะแน่กว่ากัน
Dimensity 9000 Vs. Snapdragon 8 Gen 1 ชิปเซ็ทเรือธงจาก 2 ค่ายชื่อดังที่ในช่วงนี้นั้นทางผู้ผลิตสมาร์ทโฟนเริ่มที่จะมีการเปิดตัวและวางจำหน่ายสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับชิปเซ็ทระดับบนรุ่นใหม่ล่าสุดจาก 2 ค่ายดังทั้ง MediaTek และ Qualcomm ซึ่งเชื่อเหลือเกินว่าหลายๆ ท่านนั้นจะมีคำถามว่าระหว่างสมาร์ทโฟนที่ใช้ชิปเซ็ททั้ง 2 รุ่นนั้นจะเสียเงินซื้อสมาร์ทโฟนรุ่นที่ใช้ชิปเซ็ทใดมาใช้กันดี สิ่งหนึ่งที่หลายๆ ท่านน่าจะอยากทราบก็คือเรื่องของประสิทธิภาพของตัวชิป เรื่องของการระบายความร้อน ความสามารถในการเล่นเกม รวมไปถึงการรองรับเทคโนโลยีต่างๆ วันนี้เราได้นำเอาการทดสอบเปรียบเทียบแบบหมัดต่อหมัดมาให้ทุกท่านได้ชมกัน จะน่าสนใจมากแค่ไหนนั้นไปติดตามกัน
DIMENSITY 9000 VS. SNAPDRAGON 8 GEN 1
สเปคของตัวชิปเซ็ทโดยสังเขป
Snapdragon 8 Gen 1 | Dimensity 9000 | |
Architecture | 1x 3 GHz – Cortex-X2 3x 2.5 GHz – Cortex-A710 4x 1.8 GHz – Cortex-A510 | 1x 3.05 GHz – Cortex-X2 3x 2.85 GHz – Cortex-A710 4x 1.8 GHz – Cortex-A510 |
Cores | 8 | 8 |
Frequency | 3000 MHz | 3050 MHz |
Instruction set | ARMv9-A | ARMv9-A |
L1 cache | – | 1024 KB |
L2 cache | 1 MB | 3.5 MB |
L3 cache | 4 MB | 8 MB |
Process | 4 nanometers | 4 nanometers |
GPU name | Adreno 730 | Mali-G710 |
GPU frequency | 818 MHz | 850 MHz |
Execution units | 3 | 10 |
Shading units | 768 | – |
Max display resolution | 3840 x 2160 | 2960 x 1440 |
Memory type | 3200 MHz LPDDR5 | 3750 MHz LPDDR5X |
Max bandwidth | 51.2 Gbit/s | 60 Gbit/s |
Video codecs | H.264, H.265, VP8, VP9 | H.264, H.265, AV1, VP9 |
4G & 5G | Yes | Yes |
Wi-Fi | 6 | 6 |
Bluetooth | 5.2 | 5.3 |
Max camera resolution | 1x 200MP | 1x 320MP, 3x 32MP |
หากมองจากสเปคของชิปเซ็ททั้ง 2 รุ่นแล้วนั้นจะพบว่าทั้ง Snapdragon 8 Gen 1 และ Dimensity 9000 มีสเปคในหลายๆ ส่วนที่คล้ายคลึงกันมากเลยทีเดียว ส่วนที่แตกต่างที่สุดอย่างชัดเจนเลยนั้นคงหนีไม่พ้นเรื่องของชิปกราฟิกภายในที่ถูกติดตั้งบนตัวชิปซึ่ง Snapdragon 8 Gen 1 นั้นจะยังคงใช้ Adreno 730 ที่ทาง Qualcomm พัฒนาเองทำให้ในจุดนี้นั้นทาง Qualcomm ถือว่าได้เปรียบไป 1 ก้าวเพราะนั่นทำให้ผู้พัฒนาเกมต่างๆ นั้นจะยังคงสามารถที่จะใช้หลักการพัฒนกราฟิกเกมของตัวเองออกมาให้รองรับกับชิปรุ่นใหม่นี้ได้อย่างต่อเนื่อง
ส่วน Dimensity 9000 นั้นยังคงใช้ชิปกราฟิกของทาง ARM ซึ่งเป็นรุ่นใหม่อย่าง Mali-G710 ที่เป็นชิปกราฟิกระดับบนสุดมาพร้อมกับประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากหากเทียบกับชิปกราฟิก Mali ในรุ่นก่อนๆ ของทาง ARM ข้อดีของชิปกราฟิก Mali-G710 นั้นก็คือการรองรับ AV1 CODEC ที่จะเข้ามาเป็นมาตราฐานการเข้ารหัสไฟล?วีดีโอแบบใหม่ที่ให้คุณภาพของภาพที่คมชัดในขณะที่ใช้เนื้อที่ในการเก็บข้อมูลน้อยลง
ในส่วนของสเปคอื่นๆ นั้นก็จะแตกต่างกันไม่มากเท่าไรนักไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการรองรับการเชื่อมต่อเครือข่ายที่รองรับเครือข่าย 4G, 5G ได้ทั่วทั้งโลก นอกไปจากนั้นแล้วตัวชิปโมเด็มภายในยังมาพร้อมกับ Wi-Fi 6 ส่วนที่ Dimensity 9000 จะเหนืออยู่กว่าหน่อยตรงที่รองรับ Bluetooth 5.3 ที่เป็นเวอร์ชันใหม่ล่าสุดด้วย(ทว่าอุปกรณ์ที่จะนำเอามาใช้ร่วมกันได้ประสิทธิภาพสูงสุดนั้นก็ต้องเป็นอุปกรณ์ที่รองรับ Bluetooth 5.3 ด้วยเหมือนกันเท่านั้น)
ประสิทธิภาพจากแอปทดสอบประสิทธิภาพ
การทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน Geekbench
สำหรับการทดสอบด้วย Geekbench นั้นจะเป็นการทดสอบในส่วนของประสิทธิภาพการทำงานของ CPU แบบเพียวๆ ซึ่งจากการทดสอบนั้นผลปรากฎว่า MediaTek Dimensity 9000 สามารถทำคะแนนนำไปได้ทั้งในส่วนของ single-core และ multi-core ซึ่งถือว่าเป็นจุดที่น่าสนใจมากเพราะจริงๆ แล้วนั้นทั้ง MediaTek Dimensity 9000 และ Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 นั้นต่างก็ใช้สถาปัตยกรรมของแกนการประมวลผลเหมือนกัน
ทว่าสิ่งที่ทำให้ Dimensity 9000 ได้คะแนนสูงกว่า(และสูงกว่าอย่างชัดเจนในส่วนของ multi-core test) นั้นคงจะหนีไม่พ้นการใช้งาน L1 -L3 cache ขนาดใหญ่กว่าของทาง Snapdragon 8 Gen 1 ซึ่งทำให้ตัว CPU นั้นมีพื้นที่ในการเก็บข้อมูลสำหรับการประมวลผลมากกว่า Snapdragon 8 Gen 1 อันส่งผลให้ในการประมวลผลการทำงานตามชุดคำสั่งต่างๆ นั้นเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและมากกว่า Snapdragon 8 Gen 1 นั่นเอง
ยังไม่เพียงเท่านั้น จากการทดสอบประสิทธิภาพต่อการใช้พลังงานของชิปเซ็ททั้ง 2 รุ่นก็ยังคงพบว่า Dimensity 9000 นั้นสามารถที่จะทำออกมาได้ดีกว่าถึงแม้ว่าชิปเซ็ททั้ง 2 รุ่นจะใช้กระบวนการผลิตที่ระดับ 4nm เหมือนๆ กันก็ตาม งานนี้นั้นทำให้เราสามารถที่จะคากเดาผลการทดสอบในส่วนของเรื่องการใช้พลังงานของชิปเซ็ททั้ง 2 รุ่นนี้ได้กลายๆ ว่า Dimensity 9000 นั้นน่าจะประหยัดพลังงานมากกว่า Snapdragon 8 Gen 1 อย่างแน่นอนหากให้ทำงานที่เหมือนๆ กันไปพร้อมๆ กัน(จากกราฟทางด้านบนนั้นพบว่า Dimensity 9000 มีอัตราประสิทธิภาพต่อการใช้พลังงานดีกว่า Smnapdragon 8 Gen 1 อยู่ที่ราวๆ 10% – 20%)
การทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu
อีกหนึ่งแอปพลิเคชันการทดสอบประสิทธิภาพที่จะเป็นการทดสอบโดยรวมทั้งหมดอย่าง AnTuTu นั้นพบว่าคะแนนรวมของ Dimensity 9000 ยังคงทำคะแนนออกมาได้ดีกว่าโดยได้ทะลุ 7 หลักไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากภาพนั้นจะเห็นได้ว่าส่วนที่ Dimensity 9000 ทำคะแนนออกมาได้ดีนั้นยังคงเป็นส่วนของประสิทธิภาพในส่วนของ CPU ทว่าหากมองมาที่ส่วนของ GPU แล้วนั้นพบว่า Dimensity 9000 ที่มาพร้อมกับ Mali-G710 นั้นจะได้คะแนนน้อยกว่า Adreno 730 ของ Snapdragon 8 Gen 1 ซึ่งในจุดนี้นั้นคงต้องบอกว่าค่อนข้างที่จะเป็นเรื่องปกติเนื่องจากว่า Adreno ของทาง Qualcomm นั้นผ่านการพัฒนาในด้านการรองรับกราฟิกต่างๆ มาเป็นอย่างดีและยาวนานมากกว่า
การทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน GFXBench
มาดูผลการทดสอบทางด้านกราฟิกแบบเพียวๆ กันบ้างกับ GFXBench ซึ่งจากกราฟทางด้านบนนั้นจะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า Mali-G710 บน Dimensity 9000 ทำการขับเฟรมเรทออกมาได้ต่ำกว่า Adreno 730 บน Snapdragon 8 Gen 1 ในทุกๆ การทดสอบ เป็นการตกย้ำว่าในส่วนของ GPU นั้น Adreno ของทาง Qualcomm ยังคงมีประสิทธิภาพสูงสุดหากเทียบกับชิปเซ็ทสำหรับสมาร์ทโฟน Android ด้วยกันเอง
การทดสอบเล่นเกม
GENSHIN IMPACT
แน่นอนว่าสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับชิปเซ็ทระดับเรือธงนั้นคงหนีไม่พ้นการใช้งานเพื่อการเล่นเกมเป็นหลักอย่างแน่นอน และในปัจจุบันนี้นั้นสำหรับเกมที่ได้ชื่อว่ากินสเปคโหดเป็นอย่างมากคงหนีไม่พ้น GENSHIN IMPACT ซึ่งจากการทดสอบนั้นพบว่าทั้ง Snapdragon 8 Gen 1 และ Dimensity 9000 แรงมากพอที่จะเล่นเกมนี้มี่โหมดความละเอียดสูงสุด(หรือ 720p) พร้อมทั้งกับเปิดคุณภาพของภาพไปที่สูงสุดแล้วยังคงเล่นเกมที่ FPS มากกว่า 60 เฟรมได้แบบสบายๆ
อย่างไรก็ตามแต่แล้วนั้นในการเล่นเกม GENSHIN IMPACT นี้พบว่าภาพที่ได้จาก Snapdragon 8 Gen 1 นั้นจะมีความสวยงามของภาพมากกว่า Dimensity 9000 ถึงแม้ว่าจะเปิดคุณภาพกราฟิกไปที่สูงสุดเหมือนกัน อีกจุดหนึ่งที่ต้องจับตามองก็คือเรื่องของความนิ่งของเฟรมเรทที่พบว่า Snapdragon 8 Gen 1 นั้นสามารถที่จะทำออกมาได้ดีกว่าในขณะที่ Dimensity 9000 นั้นจะมีช่วงเฟรมเรทไม่ค่อยนิ่งมากเท่าไรนัก
ทั้งนี้ถึงแม้ว่าจะมีปัญหาเรื่องเฟรมเรทตกกันบ้างก็ตามแต่ทั้ง Snapdragon 8 Gen 1 และ Dimensity 9000 ต่างก็สามารถที่จะทำเฟรมเรทเฉลี่ยตลอดการเล่นเกมไปได้ที่ราวๆ 57 FPS พอๆ กัน งานนี้เรียกได้ว่าลื่นไหลพอๆ กันเลยทีเดียว
Honor of Kings
เปลี่ยนมาดูอีกหนึ่งเกมดังอย่าง Honor of Kings นั้นพบว่าทั้ง Snapdragon 8 Gen 1 และ Dimensity 9000 สามารถที่จะขับเฟรมเรทออกมาได้เกือบ 120 FPS ทั้งคู่ แถมในเกมนี้นั้นยังพบว่าคุณภาพของกราฟิกที่แสดงผลออกมานั้นไม่มีข้อแตกต่างใดๆ เกิดขึ้นเหมือนกับที่เคยเกิดกับเกม Genshin Impact ดังนั้นแล้วในจุดๆ นี้นั้นจึงพบว่าการที่จะให้ภาพแสดงผลออกมาได้อย่างถูกต้องเหมาะสมนั้นทางผู้พัฒนาเกมจะต้องมีการพัฒนาในส่วนของตัวเกมให้รองรับกับชิปกราฟิกที่แตกต่างกันด้วย
อุณหภูมิของตัวเครื่องขณะเล่นเกม
และแล้วก็มาถึงจุดที่นักเล่นเกมน่าจะให้ความสนใจมากที่สุดนั่นก็คือความร้อนที่เกิดขึ้นระหว่างการเล่นเกม โดยจากการทดสอบนั้นพบว่า Dimensity 9000 นั้นจะมีอุณหภูมิต่ำกว่า Snapdragon 8 Gen 1 อยู่ที่ราวๆ 3 องศา ซึ่งจากตรงนั้นทำให้เราพบว่า Dimensity 9000 นั้นได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดีจนทำให้ประสิทธิภาพในการเล่นเกมนั้นไม่ส่งผลให้การใช้พลังงานของตัวเครื่องเสียไปโดยเปล่าประโยชน์อันเป็นผลให้หากสมาร์ทโฟนทั้ง 2 เครื่องมีแบตเตอรี่ความจุมี่เท่ากันแล้วนำมาใช้เล่นเกมที่แตกต่างกันแล้วนั้น เครื่องที่ใช้ Dimensity 9000 จะมีอายุการใช้งานในการเล่นเกมได้ยาวนานกว่า Snapdragon 8 Gen 1 อยู่พอสมควรเลยทีเดียว
สรุป
จากการทดสอบทั้งหมดนั้นคงไม่ต้องบอกว่าศึกในครั้งนี้นั้นคงต้องยกให้ทาง MediaTek กับ Dimensity 9000 สามารถที่จะแสดงประสิทธิภาพต่ออัตราการใช้พลังงานได้ดีกว่า Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 เป็นอย่างมาก จุดสำคัญเลยนั้นก็คือเรื่องของอุณหภูมิที่เกิดขึ้นขณะที่ทำการเล่นเกมที่พบว่า Snapdragon 8 Gen 1 นั้นสูงกว่า Dimensity 9000 ถึง 3 องศา
หากจะต้องเสียดายก็คือเรื่องของการรองรับชิป Dimensity 9000 ของทาง MediaTek จากนักพัฒนาแอปพลิเคชันที่อาจจะมีน้อยกว่าฝั่งของ Qualcomm ซึ่งยืนหนึ่งในเรื่องของการเป็นชิปอันดับหนึ่งของสมาร์ทโฟน Android มาหลายสมัย เรื่องนี้นั้นคงต้องให้เวลานักพัฒนาได้ทำการบ้านในการพัฒนาแออปพลิเคชันของตัวเองให้ดีมากขึ้นหากใช้งานกับชิป MediaTek อย่างไรก็ตามแต่แล้วนั้นหากพูดถึงการใช้งานทั่วไปที่ไม่เน้นการเล่นเกมแล้วล่ะก็สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับชิป MediaTek ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเป็นอย่างมากในปัจจุบันเพราะมีราคาต่ำกว่าสมาร์ทโฟนที่ใช้ชิปของทาง Qualcomm อยู่พอสมควรนั่นเอง
ที่มา : gizchina