สรุปเงื่อนไขเงินดิจิตอล 10,000 บาท ใครได้-ไม่ได้ ซื้ออะไรได้บ้าง และจะได้เงินตอนไหนช่วงไหนในปีหน้า

สรุปเงื่อนไขเงินดิจิตอล 10,000 บาท ใครได้-ไม่ได้ ซื้ออะไรได้บ้าง และจะได้เงินตอนไหนช่วงไหนในปีหน้า

เป็นประเด็นที่ยังคงร้อนแรงกันมาต่อเนื่องเลยสำหรับ โครงการ Digital Wallet 10,000 บาท ที่เป็นหนึ่งในนโยบายของพรรคเพื่อไทยหรือทางรัฐบาล ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน ผู้เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ยังเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบสิทธิการใช้จ่ายให้กับประชาชน โดยหลังจากเมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2566 ที่ผ่านมาได้มีการแถลงผลสรุปการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่าน Digital Wallet เป็นครั้งที่ 2/2566 ว่าสรุปแล้วจะเป็นอย่างไร พร้อมข้อสรุปเงื่อนไข กับแหล่งที่มาของเงิน 500,000 ล้านบาทที่จะมาช่วยขับเคลื่อนโครงการนี้ให้เป็นจริงได้ อีกทั้งยังมีการระบุช่วงเวลาของการรับเงินและอื่นๆ อีกด้วย เดี๋ยววันนี้ทาง Specphone จะมาสรุปเงื่อนไขเงินดิจิตอล 10,000 บาท ให้ว่ามีใครได้-ไม่ได้เงินจากโครงการนี้ เมื่อได้แล้วซื้ออะไรได้บ้าง และจะได้เงินตอนไหนช่วงไหนในปีหน้า


เงิน Digital Wallet 10,000 บาท ใครได้ – ไม่ได้บ้าง ลงทะเบียนรับสิทธิได้ตอนไหน

สำหรับเงื่อนไขแรกของเงินดิจิตอล 10,000 บาทเลยก็คือคำถามที่หลายคนสงสัยกันมากที่สุด นั่นก็คือใครมีสิทธิ์ที่จะได้ และใครที่จะไม่ได้บ้าง โดยหลักๆ แล้วจะมีอยู่ 3 เกณฑ์การได้รับสิทธิ์ที่เบื้องต้นคาดกันว่าจะมีประชาชนคนไทยที่ได้รับประมาณ 50 ล้านคน ที่สำคัญก็คือจำเป็นต้องลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิด้วย โดยรายละเอียดการลงทะเบียนเพื่อยืนยันตัวตนพร้อมข้อมูลต่างๆ จะมีความชัดเจนในช่วงก่อนให้มีการลงทะเบียน ตามไทม์ไลน์ที่ได้กำนหดเอาไว้ก็คือ จะเปิดให้ประชาชนคนไทยลงทะเบียนและยืนยันการใช้สิทธิเป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.-พ.ค. 2567 โดยมีเงื่อนไขได้สิทธิได้รับเงิน Digital คือ

  1. เป็นคนไทยที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป
  2. มีรายได้ต่ำกว่า 70,000 บาท/เดือน
  3. มีเงินฝากไม่เกิน 500,000 บาท (รวมทุกบัญชีที่มี)
เงินดิจิตอล 10000 เงินดิจิทัลลงทะเบียน ได้วันไหนเมื่อไหร่ ซื้ออะไรได้บ้าง ใครได้บ้าง 2023 1
jcomp Freepik

ทั้งนี้ถ้าหากใครมีเงินฝากรวมจากทุกบัญชีแล้วไม่เกิน 500,000 บาท แต่ว่ามีรายได้มากกว่า 70,000 บาท/เดือน ก็จะไม่ได้รับเงิน Digital Wallet 10,000 บาท หรือถ้าหากใครมีรายได้ต่ำกว่า 70,000 บาท/เดือน แต่มีเงินฝากรวมจากทุกบัญชีแล้วเกิน 500,000 บาทก็จะไม่ได้รับเงินในส่วนนี้เช่นกัน และสำหรับคนที่ไม่ได้สิทธิรับเงิน Digital Wallet 10,000 บาท ทางรัฐบาลก็มีนโยบายเครียมรับมือเอาไว้คือ e-Refund ที่ให้คนไม่เข้าเกณฑ์หรือไม่ได้รับเงิน Digital Wallet สามารถลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลจากการซื้อสินค้าและบริการมูลค่าไม่เกิน 50,000 บาท โดยใช้ใบกำกับภาษี เพื่อมาประกอบการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และทางรัฐบาลจะมีการคืนเงินให้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกด้วย


เงิน Digital Wallet 10,000 บาท ใช้ยังไง ซื้ออะไรได้บ้าง

มาดูที่การใช้งานของเงิน Digital Wallet กันบ้าง ลงไปจากเดิมค่อนข้างเยอะทีเดียว อย่างแรกก็คือทั้งหมดนี้จะมีการใช้งานผ่านแอพ “เป๋าตัง” ที่หากใครเคยใช้งานกับรัฐบาลก่อนหน้า ก็ยังจะได้ต่อยาวๆ ผ่านโครงการนี้ด้วยเช่นกัน โดยจะนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้เป็นโครงสร้างพื้นฐานและระบบต่างๆ เพื่อป้องกันการทุจริตกับการตรวจสอบจากระบบที่แม่นยำ ส่วนการใช้งานนั้นสามารถนำไปใช้จ่ายได้ในพื้นที่อำเภอ ตามที่อยู่ในทะเบียนบ้านเท่านั้น และยังสามารถใช้ได้กับทุกร้านค้า ไม่ว่าจะเป็นร้านที่อยู่ในระบบภาษีหรือไม่ได้อยู่ก็ตาม และไม่จำเป็นต้องจด VAT ด้วย เช่นร้านค้าทั่วไป ร้านโชห่วยต่างๆ รวมไปถึงร้านค้าที่อยู่บนแอปพลิเคชันเป๋าตังทั้งหมดด้วย ทั้งนี้ก็มีเงื่อนไขการซื้อกำกับเอาไว้ได้แก่

  • สิ่งที่ไม่สามารถใช้เงินดิจิตอลจ่ายหรือซื้อได้
    • ไม่สามารถใช้กับบริการ
    • ไม่สามารถซื้อของออนไลน์ได้
    • ไม่สามารถนำไปชำระหนี้ได้
    • แลกเป็นเงินสดไม่ได้ แลกเปลี่ยนในตลาดต่างๆ ไม่ได้
    • ไม่สามารถจ่ายค่าเรียน ค่าเทอมได้
    • ไม่สามารถนำไปจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ หรือซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติได้
    • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
    • ผลิตภัณฑ์ยาสูบ กัญชา กระท่อม พืชกระท่อม
    • ผลิตภัณฑ์จากกัญชาและพืชกระท่อม
    • บัตรกำนัล บัตรเงินสด
    • ทองคำ เพชร พลอย อัญมณี
  • สิ่งที่สามารถใช้เงินดิจิตอลซื้อได้
    • สินค้า
    • อาหาร เครื่องดื่ม
    • สินค้าอุปโภค บริโภค

เงิน Digital Wallet 10,000 บาท ได้เงินตอนไหน

ปิดท้ายด้วยเรื่องการรับเงินดิจิตอลวอลเล็ต 10,000 บาทว่าจะได้รับในตอนไหนกันแน่ ในตอนนี้ก็มีคำตอบออกมาจากแถลงการแล้ว ว่าหลังจากที่ลงทะเบียนเพื่อยืนยันรับสิทธิในวันที่ 1 มี.ค. – พ.ค. 2567 แล้ว จะได้รับเงิน Digital ในช่วงเดือน พ.ค. – มิ.ย. 2567 และจำเป็นต้องใช้ภายในช่วงเดือนนั้นด้วย หลังจากนั้นเมื่อได้รับเงินแล้วจะสามารถใช้จ่ายได้ภายใน 6 เดือน นับจากวันที่ใช้วันแรก จะใช้ทีเดียวหมดเลยหรือว่าจะค่ายๆ ทยอยใช้ก็ได้เหมือนกัน แต่ทั้งหมดนั้นจะมีระยะสิ้นสุดการใช้งานในช่วงเดือน ต.ค. – พ.ย. 2567

หรือถ้าให้พูดง่ายๆ ก็คือสมมติว่าได้รับเงินมาในช่วงเดือนพ.ค. 2567 และเริ่มใช้งานครั้งแรกในช่วงเดือนนี้ ก็จะใช้ต่อได้อีกเป็นระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือน ต.ค. 2567 หรือถ้าใครเริ่มใช้ในเดือน มิ.ย. 2567 ก็จะสิ้นสุดระยะในเดือน พ.ย. 2567 นั่นเอง ทั้งนี้ถ้าหากใครที่ลงทะเบียนยืนยันรับสิทธิไปแล้ว ก็ต้องใช้เงินภายในช่วง พ.ค. – มิ.ย. 2567 นั้นด้วย ถ้าไม่ได้ใช้จ่ายตามระยะเวลาที่กำหนดจะถือว่า สละสิทธิ ส่วนระยะเวลาสิ้นสุดการใช้เงินของร้านค้าจะอยู่ในช่วงเดือน เม.ย. 2570


ทั้งหมดนี้ก็เป็นการสรุปเงื่อนไขเงินดิจิตอล 10,000 บาท ที่เราได้นำมาสรุปให้เข้าใจได้ง่ายๆ ว่าจากการแถลงการณ์ออกมาล่าสุดเมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2566 ที่ผ่านมาของนายกรัฐมนตรี ที่เผยถึงเรื่องงบประมาณต่างๆ และแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ส่งผลอย่างไรกับประเทศบ้าง รวมไปถึงเงื่อนไขของการรับเงิน ว่าจะมีใครบ้างที่ได้รับเงินและไม่ได้รับเงิน ถ้าได้แล้วต้องใช้ช่วงไหนตอนไหน และนำไปซื้ออะไรได้บ้าง และยังรวมไปถึงว่าถ้าหากคนที่ไม่ได้รับเงินจะมีมาตรการช่วยอย่างไรอีกด้วย ก็ต้องมาดูกันต่อไปว่าจะมีการปรับเปลี่ยนอะไรเพิ่มเติม หรือจะมีอะไรอัพเดทใหม่อีกบ้าง เดี๋ยวเราจะมาอัพเดทให้เพิ่มเติมอีกครั้งหากมีอะไรเปลี่ยนแปลง

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก พรรคเพื่อไทย


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก