เปรียบเทียบสเปค Samsung Galaxy A Series ทุกรุ่นที่ยังมีขายในปี 2022 รุ่นไหนเหมาะกับใครบ้าง
มือถือ Samsung Galaxy A Series นั้นเป็นซีรีส์ที่ได้รับความนิยมอันดับต้นๆ จากคนใช้งาน Samsung เลยก็ว่าได้ เนื่องจากมีสเปคการใช้งานที่หลากหลาย และตอบโจทย์ในหลายๆ ด้าน ซึ่งสเปคของ Samsung Galaxy A Series ส่วนใหญ่แล้วจะจะเน้นไปที่ความคุ้มค่าทั้งราคาและฟีเจอร์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ กล้องหน้าและกล้องหลัง และแบตเตอรี่ที่อึดใช้งานได้ยาวนาน โดยมีตั้งแต่มือถือระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับกลางที่เกือบจะเท่ารุ่นเรือธง แน่นอนว่าเป็นซีรีส์ที่เยอะมากที่สุดของ Samsung ที่เปิดตัวออกมาแล้ว สำหรับใครที่สนใจ Samsung Galaxy A Series และอยากรู้ว่าในปีนี้มีรุ่นไหนเปิดตัวออกมาแล้วมีสเปคแตกต่างกันอย่างไรบ้างในแต่ละรุ่น วันนี้ทาง Specphone จะมาเปรียบเทียบสเปค Samsung Galaxy A Series ทุกรุ่นที่ยังมีขายในปี 2022 ว่ารุ่นไหนมีสเปคเป็นแบบไหน และรุ่นไหนเหมาะกับใครบ้างจากรุ่นที่เปิดตัวออกมาแล้วทั้งหมด 9 รุ่นได้แก่ A73 5G, A53 5G, A33 5G, A23 | A23 5G, A13 | A13 5G และ A04 | A04s
เปรียบเทียบสเปค Samsung Galaxy A Series ทุกรุ่นที่วางขายปี 2022
- เปรียบเทียบสเปค Samsung Galaxy A Series รูปแบบดีไซน์ตัวเครื่อง
- เปรียบเทียบสเปค Samsung Galaxy A Series ที่สเปคหน้าจอ
- เปรียบเทียบสเปค Samsung Galaxy A Series ที่ชิปประมวลผล
- เปรียบเทียบสเปค Samsung Galaxy A Series กล้องหน้าและกล้องหลัง
- เปรียบเทียบสเปค Samsung Galaxy A Series แบตเตอรี่ และราคาทุกรุ่น
ตัวเครื่องที่มีความสวยกับการใช้งานที่ต่างกัน
เริ่มต้นการเปรียบเทียบสเปค Samsung Galaxy A Series ทุกรุ่นกันที่รูปแบบดีไซน์ตัวเครื่องกันก่อนเลยจากทั้งหมด 9 รุ่นที่เปิดตัวมาในตอนนี้ จะสามารถแบ่งรูปแบบการดีไซน์ตัวเครื่องได้ทั้งหมด 3 รูปแบบตามสเปคเครื่องและระดับการใช้งาน แบบแรกเลยก็คือเป็นแบบเบาบางดีไซน์เรียบหรู เหมาะกับการใช้งานของรุ่นที่มีสเปคสูง 3 รุ่นคือ Samsung Galaxy A73 5G, A53 5G และ A33 5G ที่ทั้งสามรุ่นนี้มีตัวเครื่องขอบโค้งกระชับมือและมีฝาหลังเป็นแบบสีด้าน พร้อมจุดเด่นที่เห็นได้ชัดเลยก็คือโมดูลกล้องแบบกลมกลืนด้วย Ambient Edge อีกทั้งยังสามารถกันน้ำกันฝุ่นในระดับ IP67 อีกด้วย
รูปแบบต่อมาเป็นการดีไซน์ตัวเครื่องบางแบบสมมาตรเหมือนกัน แต่ว่ายังไม่บางเท่าสามรุ่นด้านบนและมีน้ำหนักเยอะกว่าเล็กน้อยที่มีอยู่ 2 รุ่นคือ Samsung Galaxy A23 และ A23 5G ที่ทั้งสองรุ่นนี้มีความสวยงามคล้ายกับรุ่นระดับสูง ที่มีโมดูลกล้องหลังแบบ Ambient Edge กลมกลืนกับฝาหลังที่เป็นแบบไม่มันวาว แต่ว่ายังอยู่ในระดับกลางของ A Series ส่วนด้านข้างจะมีขอบโค้งมนจับกระชับมือ และทั้งสองรุ่นก็ยังไม่สามารถกันน้ำกันฝุ่นได้เท่ารุ่นระดับสูงทั้งสามรุ่นด้านบนด้วย แต่ก็มีความสวยไม่แพ้กันเลย
ส่วนดีไซน์รูปแบบสุดท้ายของซีรีส์ก็คือรุ่นที่มีตัวเครื่องแบบมินิมอลขอบโค้งเข้ากับมือ และมีขนาดและน้ำหนักเยอะกว่ารุ่นอื่นๆ มีทั้งหมด 4 รุ่นคือ Samsung Galaxy A13 | A13 5G และ A04 | A04s โดยมีจุดเด่นที่เห็นได้ชัดเลยก็คือตัวกล้องหลังแบบฝังไปกับตัวฝาหลังเลย และจะนูนขึ้นมาแค่ขอบเลนส์กล้องเท่านั้น จึงทำให้มีตัวเครื่องหนากว่ารุ่นอื่นๆ นั่นเอง แน่นอนว่าทั้งสี่รุ่นนี้เป็นรุ่นเริ่มต้นของ A Series เหมาะกับการใช้งานทั่วไปในราคาที่ประหยัดมากๆ
หน้าจอใหญ่ทุกรุ่น แต่ความคมชัดยังต่างกัน
มาดูกันที่ความแตกต่างจากการเปรียบเทียบสเปค Samsung Galaxy A Series ทุกรุ่นที่หน้าจอกันบ้าง ที่แต่ละรุ่นนั้นมีความแตกต่างในด้านการใช้งานและรายละเอียดต่างกันออกไปเยอะทีเดียว แต่ก็สามารถแบ่งได้หลักๆ ตามประเภทการใช้งานได้แบบแบบระดับสูงใช้งานได้ดีเยี่ยม และระดับทั่วไปใช้ได้งานได้ดี แต่ยังไม่เท่ารุ่นระดับสูง โดยความต่างของแต่ละรุ่นนั้นไม่ได้มีแค่ขนาดกับความคมชัดเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงตัวกล้องหน้าในรูปแบบที่ต่างกัน และมีอัตรา Refresh Rate ต่างกันออกไปอีกด้วย สามารถแบ่งได้ตามสเปคหน้าจอของแต่ละรุ่นได้แก่
หน้าจอ Super AMOLED+ มีสเปคระดับสูงพัฒนาต่อจาก Super AMOLED ที่มีซับพิกเซลสูงกว่า ทำให้ได้ทั้งความคมชัดมากกว่า สว่างได้มากกว่า และประหยัดพลังงานได้มากขึ้น อีกทั้งยังมีความหนาน้อยกว่าหน้าจอแบบอื่นๆ อีกด้วย เหมาะกับการใช้รับชมคอนเทนต์ต่างๆ เล่นเกม และที่กลางแจ้งได้ดี รุ่นที่ใช้งานคือ
- Galaxy A73 5G กว้าง 6.7 นิ้วระดับ FHD+ และมี Refresh Rate 120Hz กล้องหน้าแบบเจาะรู
หน้าจอ Super AMOLED หน้าจอสเปคระดับสูงที่มีความคมชัดแสดงรายละเอียดได้ดีเยี่ยม ได้ความสว่าง และประหยัดพลังงานได้ดีเหมือนกัน ซึ่งจริงๆ ก็มีสเปคคล้ายแบบ Plus แต่ว่าอาจจะดรอปลงมาเล็กน้อยในเรื่องของสีสันความละเอียด ถ้าไม่ได้ซีเรียสตรงนี้ก็ไม่มีผลต่อการใช้งานมากนัก เหมาะกับการใช้รับชมคอนเทนต์ เล่นเกม และใช้กลางแจ้งได้ดีเช่นกัน มีรุ่นที่ใช้งานคือ
- Galaxy A53 5G กว้าง 6.5 นิ้วระดับ FHD+ และมี Refresh Rate 120Hz กล้องหน้าแบบเจาะรู
- Galaxy A33 5G กว้าง 6.4 นิ้วระดับ FHD+ และมี Refresh Rate 90Hz กล้องหน้าแบบหยดน้ำ
หน้าจอ PLS LCD หน้าจอแบบมาตรฐานสมาร์ทโฟนที่ Samsung พัฒนาต่อยอดจาก LCD ทั่วไป สามารถแสดงสีสันได้คมและสดใสสบายตา มีความสว่าง มุมมอง การตอบสนอง ประหยัดพลังงานและใช้งานได้ดีกว่าหน้าจอแบบ LCD ทั่วไป เหมาะกับการใช้งานทั่วไป เล่นเกมได้ มีรุ่นที่ใช้งานคือ
- Galaxy A23 กว้าง 6.6 นิ้วระดับ FHD+ และมี Refresh Rate 90Hz กล้องหน้าแบบหยดน้ำ
- Galaxy A23 5G กว้าง 6.6 นิ้วระดับ FHD+ และมี Refresh Rate 120Hz กล้องหน้าแบบหยดน้ำ
- Galaxy A13 กว้าง 6.6 นิ้วระดับ FHD+ กล้องหน้าแบบหยดน้ำ
- Galaxy A13 5G กว้าง 6.5 นิ้วระดับ FHD+ และมี Refresh Rate 90Hz กล้องหน้าแบบหยดน้ำ
- Galaxy A04s กว้าง 6.5 นิ้วระดับ HD+ และมี Refresh Rate 90Hz กล้องหน้าแบบหยดน้ำ
- Galaxy A04 กว้าง 6.5 นิ้วระดับ HD+ กล้องหน้าแบบหยดน้ำ
ความแรงต่างกันตามระดับการใช้งาน
จุดที่แตกต่างกันแบบทุกจุดเลยสำหรับการเปรียบเทียบสเปค Samsung Galaxy A Series ทุกรุ่นนี้ก็คือชิปประมวลผล ที่เป็นตัวขับเคลื่อนการทำงานของแต่ละรุ่นให้มีความเร็วแรง และมีประสิทธิภาพการใช้งานที่ต่างกันออกไปด้วย โดยหลักๆ แล้วก็จะมีแบรนด์ชิปตามมาตรฐานที่มีความแรงและรูปแบบการใช้งานที่ต่างกันตามไปด้วย ที่สำคัญอีกอย่างก็คือการเชื่อมต่อและความจุที่ทำให้บางรุ่นนั้นมีข้อจำกัดในการใช้งานด้วยเช่นกัน โดยแต่ละรุ่นมีชิปและความจุดังนี้
- Galaxy A73 5G Snapdragon 778G | RAM 8/128GB
- Galaxy A53 5G Exynos 1280 | RAM 8/128GB
- Galaxy A33 5G Exynos 1200 | RAM 8/128GB
- Galaxy A23 Snapdragon 680 | RAM 6/128GB
- Galaxy A23 5G Snapdragon 695 5G | RAM 8/128GB
- Galaxy A13 Exynos 850 | RAM 4/64GB
- Galaxy A13 5G Dimensity 700 5G | RAM 4/64GB
- Galaxy A04s Exynos 850 | RAM 4/64GB
- Galaxy A04 Helio P35 | RAM 3/32GB
จะเห็นได้ว่ารุ่นระดับสูงอย่าง A33 5G, A53 5G และ A73 5G ของ A Series นั้นจะมีชิปที่เร็วแรงกว่าทุกรุ่น สามารถเล่นเกมได้ดีเยี่ยม พร้อมฟีเจอร์สำหรับเล่นเกมและลำโพงรองรับ Dolby Atmos รวมไปถึงการประมวลผลในการถ่ายรูปต่างๆ นั้นก็ทำได้ไหลลื่นไม่มีปัญหา เหมาะกับการใช้งานที่ครอบคลุมตอบโจทย์ทุกการใช้งาน และรุ่นระดับกลางอย่าง A23, A23 5G ก็ยังสามารถทำงานได้ดีในหลายๆ ด้านไม่ว่าจะเล่นเกม ถ่ายรูป หรือว่าใช้งานทั่วไป แต่ก็จะมีความต่างกันเล็กน้อยตรงที่การเชื่อมต่อ 5G นั่นเอง ส่วนรุ่นระดับเริ่มต้นจนถึงใช้งานทั่วไปอย่าง A13, A13 5G, A04s และ A04 นั้นจะมีความจุและแรมที่ถือว่ายังไม่สูงมาก จึงทำให้ยังไม่เหมาะกับการนำมาเล่นเกมหนักๆ เท่าไหร่ แต่ถ้าจะเอาไว้ดูหนัง สแกนจ่ายเงิน หรือว่าใช้งานทั่วไปในแบบเริ่มต้นก็ถือว่าทำงานได้ดี พร้อมกับสเปคที่ยังพอถ่ายรูปได้ดีอยู่ด้วยเหมือนกัน
กล้องถ่ายรูปสวยคมชัด
สำหรับตัวกล้องของการเปรียบเทียบสเปค Samsung Galaxy A Series ทุกรุ่นนั้นก็เป็นอีกจุดสำคัญในการเลือกซื้อเลยก็ว่าได้ เพราะว่าใครที่อยากใช้งานเพื่อเอามาถ่ายรูปเป็นหลัก จะได้เลือกซื้อได้ตามความต้องการมากที่สุด โดยในซีรีส์ A นั้นส่วนใหญ่แล้วจะมีกล้องหลัง 4 ตัวและกล้องหน้าในระดับกลางถึงระดับสูง ที่สามารถถ่ายรูปได้อย่างคมชัด ส่วนรุ่นระดับเริ่มต้นนั้นจะมีกล้อง 2-3 ตัวที่ถ่ายได้แบบพอประมาณ หรือสแกนจ่ายเงินได้ดี แต่ละรุ่นนั้นมีสเปคกล้องดังนี้
กล้องหลัง 4 ตัวระดับสูง สามารถใช้ถ่ายรูปเป็นหลักได้อย่างคมชัด รวมไปถึงการถ่ายเซลฟี่และถ่ายในรูปแบบอื่นๆ พร้อมฟีเจอร์จัดเต็มทุกการใช้งาน เหมาะกับคนที่ต้องการซื้อไว้ถ่ายรูปสวยๆ ทั้งถ่ายบุคคล ถ่ายวิวหรือทั่วไปได้ดีมาก รวมไปถึงการเซลฟี่ก็ดีเยี่ยม
- Galaxy A73 5G กล้องหลังตัวหลัก 108MP อัลตร้าไวด์ 12MP มาโคร 5MP ชัดลึก 5MP มี OIS, VDIS ถ่ายวิดีโอได้ UHD (4K) | กล้องหน้า 32MP
- Galaxy A53 5G กล้องหลังตัวหลัก 64MP อัลตร้าไวด์ 12MP มาโคร 5MP ชัดลึก 5MP มี OIS ถ่ายวิดีโอได้ UHD (4K) | กล้องหน้า 32MP
กล้องหลัง 4 ตัวระดับกลาง แต่ยังสามารถใช้ถ่ายรูปได้สวยคมชัดเหมือนกัน แต่ว่ายังไม่เท่ารุ่นระดับสูง ยังเหมาะกับการถ่ายทั่วไป หรือเอาไว้ถ่ายสแนปช็อต รวมไปถึงการถ่ายบุคคล และถ่ายรูปวิวได้ดีไม่แพ้กัน ส่วนกล้องหน้าจะเป็นกล้องระดับกลางถ่ายเซลฟี่ได้สวยปกติ
- Galaxy A33 5G กล้องหลังตัวหลัก 48MP อัลตร้าไวด์ 8MP มาโคร 5MP ชัดลึก 5MP มี OIS, AI Image Enhancer ถ่ายวิดีโอได้ UHD (4K) | กล้องหน้า 13MP
- Galaxy A23 กล้องหลังตัวหลัก 50MP อัลตร้าไวด์ 5MP มาโคร 2MP ชัดลึก 2MP มี OIS ถ่ายวิดีโอได้ FHD | กล้องหน้า 8MP
- Galaxy A23 5G กล้องหลังตัวหลัก 50MP อัลตร้าไวด์ 5MP มาโคร 2MP ชัดลึก 2MP มี OIS ถ่ายวิดีโอได้ FHD | กล้องหน้า 8MP
- Galaxy A13 กล้องหลังตัวหลัก 50MP อัลตร้าไวด์ 5MP มาโคร 2MP ชัดลึก 2MP ถ่ายวิดีโอได้ FHD | กล้องหน้า 8MP
กล้องหลัง 2-3 ตัวในระดับเริ่มต้นถึงระดับกลางที่สามารถถ่ายทั่วไปได้ดี หรือเอาไว้วแกนจ่าย-รับเงินได้สบายๆ เหมาะกับการถ่ายในชีวิตประจำวันที่ไม่ได้เน้นมากเท่าไหร่นัก ส่วนกล้องหน้าก็เป็นกล้องที่ถ่ายทั่วไปได้เช่นกัน
- Galaxy A13 5G กล้องหลังตัวหลัก 50MP มาโคร 2MP ชัดลึก 2MP ถ่ายวิดีโอได้ FHD | กล้องหน้า 5MP
- Galaxy A04s กล้องหลังตัวหลัก 50MP มาโคร 2MP ชัดลึก 2MP ถ่ายวิดีโอได้ FHD | กล้องหน้า 5MP
- Galaxy A04 กล้องหลังตัวหลัก 50MP ชัดลึก 2MP ถ่ายวิดีโอได้ FHD | กล้องหน้า 5MP
แบตอึดใช้งานได้ยาวนานทุกรุ่น กับราคาที่ต่างกันตามรุ่น
ปิดท้ายการเปรียบเทียบสเปค Samsung Galaxy A Series ทุกรุ่นกันด้วยเรื่องของแบตเตอรี่และราคา ที่ความจุแบตของทุกรุ่นนั้นจะเท่ากันหมดที่ 5,000 mAh มั่นใจได้เลยว่าใช้งานได้เต็มวันแน่นอน ถึงแม้ว่าจะใช้งานหนักก็ยังอยู่ไหว แต่ความต่างกันของแต่ละรุ่นนั้นจะอยู่ที่การรองรับ Fast Charging หรือชาร์จไวที่แบ่งได้สองแบบคือรองรับ Fast Charging 25W ได้แก่ Samsung Galaxy A73 5G, A53 5G, A33 5G, A23 | A23 5G และรองรับ Fast Charging 15W ได้แก่ Samsung Galaxy A13 | A13 5G, A04 | A04s ที่ถึงแม้จะเป็นรุ่นเล็กแต่ก็รองรับด้วยเหมือนกัน ส่วนราคาของแต่ละรุ่นล่าสุดในตอนนี้ก็มีบางรุ่นที่ลดราคาลงมาแล้วมีราคาดังนี้ (กดสั่งซื้อได้ตามลิงก์รุ่น)
- Galaxy A73 5G: ราคา 16,499 บาท
- Galaxy A53 5G: ราคา 12,999 บาท
- Galaxy A33 5G: ราคา 11,199 บาท
- Galaxy A23: ราคา 7,499 บาท
- Galaxy A23 5G: ราคา 9,999 บาท
- Galaxy A13: ราคา 5,499 บาท
- Galaxy A13 5G: ราคา 6,499 บาท
- Galaxy A04s: ราคา 4,999 บาท
- Galaxy A04: ราคา 3,999 บาท
แล้วทั้งหมดนี้ก็เป็นการเปรียบเทียบสเปค Samsung Galaxy A Series ทุกรุ่นที่วางขายในปี 2022 นี้ที่เปิดตัวออกมาแล้วทั้งหมด 9 รุ่นที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ ซึ่งแต่ละรุ่นนั้นก็ถือได้ว่าเป็นมือถือที่มีฟีเจอร์ครบทุกการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอที่ใหญ่คมชัดไหลลื่น ชิปประมวลผลตัวแรงใช้งานทั่วไปจนถึงเล่นเกมเทพๆ ได้เลย แน่นอนว่ากล้องของ Galaxy A Series นั้นส่วนใหญ่ก็ทำออกมาได้ดีมาก เหมาะกับการซื้อมาถ่ายรูปได้ดีเลย รวมไปถึงแบตเตอรี่ที่มีความอึดมากทุกรุ่น แต่ถ้าจะแบ่งตามความเหมาะสมในการใช้งานรุ่น A73 5G, A53 5G, A33 5G นั้นจะเหมาะกับคนที่ต้องการสเปคสูงใช้งานได้ครบทุกด้านแต่ก็มีราคาสูงตามไปด้วย ส่วนระดับกลางอย่าง A23 | A23 5G, A13 | A13 5G นั้นก็มีสเปคที่ถือว่าใช้งานได้โอเคเลยในราคาที่ไม่สูงมาก แต่ถ้าใครอยากใช้เป็นรุ่นเริ่มต้นแนะนำ A04s, A04 จะเหมาะที่สุดแถมราคาไม่แพงด้วย