ในบทความนี้ก็จะเป็นการลงภาพเปรียบเทียบระหว่างภาพถ่ายจากกล้องหลังของ iPhone 6 Plus กับ LG G3 ที่จัดเป็นมือถือ Android กล้องเทพตัวหนึ่งในขณะนี้นะครับ ก่อนอื่น เรามาชมสเปคกล้องแบบคร่าวๆ ของทั้งสองเครื่องกันก่อน
กล้องหลัง iPhone 6 Plus
- ความละเอียดสูงสุด 8 ล้านพิกเซล อัตราส่วนภาพ 4:3
- ความกว้างรูรับแสง f/2.2 (เลขหลัง ยิ่งน้อย ยิ่งถ่ายภาพได้สว่างมากขึ้น ถ่ายวัตถุหลังเบลอได้ดีขึ้น)
- เท่าที่ทดสอบมา ดูเหมือนจะเร่งค่า ISO ได้สูงสุดแค่ 500 ทำให้ noise ในภาพน้อยกว่ารุ่นก่อนหน้า
- เม็ดพิกเซลขนาด 1.5 ไมครอน (ยิ่งเยอะ เม็ดพิกเซลยิ่งมีขนาดใหญ่ สามารถเก็บแสง เก็บรายละเอียดสีได้ดีขึ้น)
- มาพร้อมระบบเซ็นเซอร์แบบใหม่ Focus Pixels ที่ช่วยให้โฟกัสภาพได้ไวขึ้น เก็บแสงสีได้ดีกว่าเดิม
- แฟลช Dual LED (True Tone Flash)
- สามารถถ่ายวิดีโอได้ความละเอียดสูงสุด Full HD ถ่ายวิดีโอสโลว์โมชันได้ 240fps ที่ความละเอียด 720p
- มีระบบกันสั่นระดับซอฟต์แวร์ และมี OIS ในระดับฮาร์ดแวร์ด้วย (OIS มีเฉพาะใน iPhone 6 Plus เท่านั้น)
- สเปค iPhone 6 Plus
กล้องหลัง LG G3
- ความละเอียดสูงสุด 13 ล้านพิกเซล อัตราส่วนภาพ 4:3
- ความกว้างรูรับแสง f/2.4
- เม็ดพิกเซลขนาด 1.12 ไมครอน ขนาดเซ็นเซอร์ 1/3.06″
- มาพร้อมระบบใช้แสงเลเซอร์ช่วยในการโฟกัส ทำให้โฟกัสได้เร็วและแม่นยำ
- แฟลช Dual LED สองโทนสีคล้ายกับใน iPhone
- สามารถถ่ายวิดีโอได้ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K ถ่ายวิดีโอสโลว์โมชันได้
- มี OIS+ ระดับฮาร์ดแวร์
- สเปค LG G3
ทีนี้เรามาชมตัวอย่างภาพถ่ายกันเลยครับ โดยการตั้งค่าสำหรับการถ่ายภาพนั้น ทุกอย่างอัตโนมัติ ปล่อยให้ระบบตัดสินใจทั้งหมด เลือกโฟกัสไปที่จุดเดียวกัน ปิดแฟลช ส่วนภาพที่นำมาลงเทียบคู่กันในนี้ ภาพของ LG G3 จะถูกย่อขนาดลงมาเหลือ 79% เพื่อให้เทียบกับภาพจาก iPhone 6 Plus ได้ขนาดเท่าๆ กันพอดี
ด้านการใช้งาน
กล้องของ LG G3 หลายท่านอาจจะได้เคยลองใช้งานกันแล้ว ไม่ว่าจะจากเครื่องตนเอง เครื่องคนรู้จัก หรือจะเป็นเครื่องที่มีให้ลองเล่นหน้าร้านตัวแทนจำหน่าย ก็น่าจะพอทราบเรื่องกล้องไปพอสมควร ว่ามันสามารถโฟกัสได้เร็วและแม่นยำ ด้วยการใช้แสงเลเซอร์ในการโฟกัส กระบวนการถ่ายภาพก็ไม่ยากนัก มีตัวเลือกให้ปรับน้อยหน่อย ระบบอัตโนมัติทำงานได้ค่อนข้างดี รวมๆ แล้วเป็นมือถือ Android รุ่นท็อปที่ทำส่วนของกล้องออกมาได้ดีทีเดียว
ส่วนด้านของ iPhone 6 Plus นั้น พบว่าถึงจะไม่มีแสงเลเซอร์ช่วยโฟกัสเหมือนใน G3 แต่ก็สามารถโฟกัสได้ไวไม่แพ้กันครับ ทั้งกลางวันและกลางคืน เผลอๆ บางทีจะโฟกัสไวกว่า G3 ด้วยซ้ำไป กระบวนการถ่ายก็ทำได้ง่ายเหมือนๆ กับที่แล้วมา แต่ใน iOS 8 ได้มีฟีเจอร์เสริมเข้ามา คือเวลากดเลือกจุดโฟกัสไปแล้ว สามารถยกนิ้วออก แล้วใช้นิ้วแตะหน้าจอค้างไว้เพื่อเลื่อนขึ้นลงสำหรับปรับความสว่างของภาพตามที่ต้องการได้ทันที ไม่ต้องมานั่งปรับค่าความสว่างก่อนถ่าย ไม่ต้องสับสนกับพวก exposure อะไรมากมาย นับว่าช่วยอำนวยความสะดวกได้ดีทีเดียว รวมๆ แล้ว กล้อง iPhone 6 Plus ยังคงใช้งานง่าย ให้ผลออกมาโอเคเหมือนกับ iPhone รุ่นที่ผ่านๆ มา
คราวนี้เรามาชมภาพถ่ายเทียบกันเลย
ซ้าย – ภาพจาก iPhone 6 Plus
ขวา – ภาพจาก LG G3
จากภาพชุดบนนี้ จะเห็นชัดว่าภาพจาก iPhone 6 Plus จะดูมืดกว่าพอสมควร แต่ในเรื่องโทนสีของภาพคู่แรกนั้น ภาพจาก iPhone 6 Plus จะถูกต้องตามสีวัตถุจริงมากกว่าครับ การเก็บรายละเอียดภาพ LG G3 ทำได้ดีกว่า โดยเฉพาะในส่วนมืดของภาพที่ของ iPhone จะดูสีจมไปหน่อย ทั้งๆ ที่ถ่ายด้วยโหมด HDR แล้ว
ซ้าย – ภาพจาก iPhone 6 Plus
ขวา – ภาพจาก LG G3
แต่พอมาภาพชุดนี้ จะเห็นว่ามีบางภาพ iPhone สามารถถ่ายออกมาได้สว่างกว่าเช่นภาพคู่แรก (แต่อันที่จริง สีของ G3 ตรงกับของจริงกว่า)
ซ้าย – ภาพจาก iPhone 6 Plus
ขวา – ภาพจาก LG G3
พอมาเจอชุดนี้ ในภาพคู่ที่ 1 และ 3 สีสันจากกล้องของ iPhone 6 Plus ดูซีดผิดปกติพอสมควร ซึ่งสีที่ถูกต้องจะเป็นไปตามกล้องของ LG G3 ครับ ซองใส่ธูปของจริงสีสดขนาดนั้นเลย ส่วนภาพที่สองเป็นการประชันโหมด HDR กัน จุดนี้ iPhone 6 Plus ทำได้ดีกว่าเมื่อมองถึงความเป็น HDR จริงๆ เพราะสามารถขับความสว่างให้ส่วนมืดได้ดี และลงไฮไลท์ที่ก้อนเมฆ ทำให้เห็นเมฆเป็นชั้นๆ ได้ดีกว่า LG G3 เสียก็แต่เรื่องโทนภาพที่อมเขียวไปหน่อยเท่านั้นเอง
ส่วนภาพข้าวหน้าเนื้อ ทั้งสองมีการแสดงออกที่แตกต่างกัน คือกล้องของ iPhone 6 Plus แสดงสีที่ออกมาจริงๆ ผสมกับแสงไฟในร้านที่เป็นสีส้ม ส่วนกล้องของ LG G3 จะโชว์การแก้โทนสีภาพ แก้ white balance ให้ภาพออกมาดูดีที่สุด อันนี้ก็แล้วแต่คนชอบเลยครับ
คราวนี้มาชมภาพถ่ายจากกล้อง iPhone 6 Plus เทียบกับ LG G3 ในช่วงกลางคืนดูบ้างครับ
ซ้าย – ภาพจาก iPhone 6 Plus
ขวา – ภาพจาก LG G3
มาต่อกันด้วยภาพชุดกลางคืนครับ ทั้ง iPhone 6 Plus และ LG G3 เองก็ได้รับการเคลมจากแต่ละฝ่ายว่าถ่ายภาพกลางคืนได้ดี ผลก็ออกมาอย่างที่เห็น นั่นคือภาพจากกล้อง LG G3 สว่างกว่า iPhone 6 Plus มากๆ อย่างในภาพคู่แรกนั้น ภาพจาก iPhone 6 Plus จะใช้สปีดชัตเตอร์ที่ 1/4 วินาที ISO 160 รูรับแสง f/2.2 ภาพโดยรวมจะดูมืดๆ หน่อย แต่วัตถุออกมาคมชัด ส่วนภาพจาก LG G3 ไม่บอกค่าอะไรเลยนอกจาก f/2.4 ที่ตายตัว ซึ่งภาพก็ออกมาสว่างดีครับ แต่ดูแสงฟุ้งๆ และวัตถุดูไม่ค่อยคมชัดเท่าไร
ส่วนสาเหตุที่ G3 ถ่ายออกมาได้สว่างทั้งๆ ที่ f แคบกว่า ก็เป็นเพราะระบบจะใช้เวลาในการเปิดชัตเตอร์กล้องนานกว่า และ ISO น่าจะสูงกว่า iPhone ด้วย สังเกตได้จากภาพของ G3 จะมี noise ในภาพค่อนข้างเยอะเมื่อเทียบกับภาพจาก iPhone ส่วนภาพคู่ที่สอง ภาพจาก iPhone 6 Plus ให้โทนสีที่ตรงกับแสงจริงๆ มากกว่า
ภาพคู่ที่สาม กลับกลายเป็นว่ากล้อง iPhone 6 Plus สามารถเก็บรายละเอียดพื้นที่ต่างๆ ในภาพได้ดีกว่า G3 ซะอีก แถมยังดูคมชัดกว่าด้วย สำหรับภาพคู่ที่สี่ อันนี้ภาพจาก iPhone 6 Plus จะมีความสว่างที่ใกล้เคียงกับสถานที่จริงที่สุด ส่วนภาพจาก G3 จะได้เรื่องของความสว่างที่ทำได้ดี ก็แล้วแต่คนชอบเลยครับ
ซ้าย – ภาพจาก iPhone 6 Plus
ขวา – ภาพจาก LG G3
ภาพชุดสุดท้ายแล้วสำหรับการเทียบกล้อง iPhone 6 Plus กับ LG G3 จากชุดนี้จะเห็นถึงความแตกต่างด้านแสงสว่างในภาพอย่างเห็นได้ชัด นั่นคือภาพจากกล้อง LG G3 ออกมาสว่างกว่า iPhone 6 Plus ในทุกๆ ภาพ จนในบางจุดดูสว่างฟุ้งเกินจนเสียรายละเอียดในภาพไป เช่นภาพหอคอย Tokyo SkyTree ในภาพคู่ที่สาม ซึ่ง noise ในภาพเยอะมากจนมองขอบของหอคอยไม่ค่อยชัด ตึกข้างๆ กันก็ดูเลือนๆ ไปอันเป็นผลมาจากการพยายามเกลี่ยเม็ดสีเพื่อลบ noise ของระบบประมวลผลภาพ ส่วนภาพที่ได้จากกล้อง iPhone แม้จะดูมืด แต่ก็ดูคมชัดกว่าพอสมควร สามารถเห็นตึกได้อย่างชัดเจน
แต่ถ้าใครที่ต้องการถ่ายภาพกลางคืนแล้วยังเก็บวัตถุต่างๆ ในภาพมาได้ครบ (นับที่เรื่องจำนวน ไม่ได้นับที่คุณภาพ) จุดนี้ LG G3 จะได้เปรียบมากๆ เช่นในภาพคู่ที่ 1 และ 2 ที่สามารถเห็นรายละเอียดต่างๆ ได้มากกว่าภาพจาก iPhone แต่ถ้าเทียบด้านของคุณภาพ เรื่องนี้ iPhone 6 Plus ยังเหนือกว่าอยู่ครับ
สำหรับใครที่ต้องการชมภาพถ่ายเต็มๆ ของทั้งสองเครื่อง สามารถดาวน์โหลดไฟล์ไปชมกันได้เลย