
ลองเทียบ iPad Air M3 รุ่นใหม่ในงบเริ่มต้น 21,900 บาท ราคานี้ซื้อแท็บเล็ต Android รุ่นไหนได้บ้าง?
หลังจากที่ iPad Air M3 เปิดตัวพร้อมวางขายแล้ววันนี้ ด้วยสเปคที่น่าสนใจและราคาเริ่มต้นที่ 21,900 บาท หลายคนอาจกำลังคิดว่าแท็บเล็ต Android ในราคาใกล้เคียงกันนี้มีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง ซึ่งรุ่นใหม่นี้ก็มาพร้อมกับชิป M3 ที่เร็วแรงกว่าเดิม สามารถใช้งานร่วมกับ Apple Intelligence ได้ และมีขนาดจอ 2 ขนาดคือ 11 และ 13 นิ้ว ซึ่งแท็บเล็ตที่มีราคาประมาณ 19,xxx – 40,xxx บาท และมีจอ 11 นิ้วขึ้นไปนั้นก็มีรุ่นที่น่าสนใจอยู่หลายรุ่น แต่รุ่นไหนจะตอบโจทย์การใช้งานกับใคร และจะเทียบกันได้แค่ไหน วันนี้ทาง Specphone จะลองมาเปรียบเทียบพร้อมแนะนำสเปคและราคาของ iPad Air M3 กับแท็บเล็ต Android ที่มีราคาใกล้เคียงกัน เผื่อใครที่อยากลองดูรุ่นอื่นๆ ในงบเท่ากันนี้ จะได้เลือกรุ่นที่เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณของตัวเองได้
- แท็บเล็ต Android ที่งบใกล้เคียงกับ iPad Air M3 รุ่นจอ 11 นิ้วราคาเริ่มต้น 21,900 บาท (WiFi)
- แท็บเล็ต Android ที่งบใกล้เคียงกับ iPad Air M3 รุ่นจอ 13 นิ้ว (WiFi/ WiFi + Cellular)

สเปคและราคาของ iPad Air M3
iPad Air M3 มีสเปคที่น่าสนใจดังนี้:
- ชิป M3: ให้ประสิทธิภาพสูงถึงสองเท่าของ iPad Air M1 และเร็วขึ้นถึง 3.5 เท่าของ A14 Bionic ตอบโจทย์การทำงานทั้งด้านกราฟิก ตัดต่อ หรือเล่นเกมได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังรองรับปากกา และคีย์บอร์ดใหม่ด้วย
- RAM/ROM: รุ่นนี้ได้แรม 8GB และความจุ 4 รุ่นคือ 128/256/512GB/ 1TB
- Apple Intelligence: สร้างรูปด้วย Image Playground, พิสูจน์อักษร, สรุปเนื้อหา หรือลบวัตถุออกจากภาพ
- จอแสดงผล: มีให้เลือกสองขนาด คือ 11 นิ้วและ 13 นิ้ว ทั้งสองขนาดเป็นจอแบบ Liquid Retina แบบ LED ที่ให้ภาพคมชัดสมจริง สว่างได้ถึง 500-600nits ตามขนาดหน้าจอ
- กล้อง: กล้องหลังและหน้า 12MP ที่สามารถถ่ายภาพและวิดีโอคุณภาพสูงได้ โดยกล้องหน้ามีฟีเจอร์ Center Stage
- แบตเตอรี่: มีอายุการใช้งานได้ถึง 10 ชั่วโมงสำหรับการใช้งาน Wi-Fi และใช้งานได้ 9 ชั่วโมงสำหรับการใช้ Cellular
- ราคา: (สั่งซื้อ)
- รุ่นจอ 11 นิ้ว เริ่มต้นที่ 21,900 บาทในรุ่น WiFi และราคา 27,900 บาทในรุ่น WiFi+Cellular
- รุ่นจอ 13 นิ้ว เริ่มต้นที่ 28,900 บาทในรุ่น WiFi และราคา 34,900 บาทในรุ่น WiFi+Cellular
ด้วยสเปคเหล่านี้ iPad Air M3 เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการแท็บเล็ตที่มีประสิทธิภาพสูง เหมาะสำหรับการใช้งานได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการตัดต่อ ทำกราฟิก วาดรูป เขียนหรือจดบันทึก และงานที่ต้องใช้ความเร็วแรงของชิปประมวลผล นอกจากนี้ยังใช้งานร่วมกับ Apple Intelligence ที่มีฟีเจอร์การใช้งานได้หลากหลายอีกด้วย
แท็บเล็ต Android ที่งบใกล้เคียงกับ iPad Air M3 รุ่นจอ 11 นิ้วราคาเริ่มต้น 21,900 บาท (WiFi)
1. HUAWEI MatePad 12X
HUAWEI MatePad 12X เป็นแท็บเล็ตที่มีสเปคน่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการแท็บเล็ตที่มีประสิทธิภาพสูง และฟีเจอร์สำหรับการทำงาน หรือสร้างสรรค์งานต่างๆ อีกทั้งยังมีความใกล้เคียงกันในเรื่องของความเบาบางอีกด้วย โดยมีจุดเด่นหลักๆ ที่น่าสนใจดังนี้
- ชิป: Kirin T90A เป็นชิปที่ให้ประสิทธิภาพสูงสำหรับการใช้งานทั่วไป งานออกแบบ และงานกราฟิกได้ รวมถึงงานที่ต้องการพลังประมวลผลมากขึ้น
- RAM/ROM: รุ่นนี้มีแรม 12GB และความจุ 256GB เพียงรุ่นความจุเดียว
- หน้าจอ: TFT LCD (IPS) จอแบบ PaperMatte ขนาด 12 นิ้ว ความละเอียด 2.8K ความสว่างสูงสุดถึง 1000 nits และอัตราการรีเฟรชสูงสุด 144 Hz รองรับปากกาได้เหมือนกัน ซึ่งจุดนี้ทำได้ดีกว่าในเรื่องของฟีเจอร์การใช้งาน
- กล้อง: กล้องหลังคู่ 13MP + 8MP มุมกว้าง และกล้องหน้า 8MP
- แบตเตอรี่: มีแบตเตอรี่ความจุ 10,100 mAh ดูวิดีโอได้ต่อเนื่อง 14 ชั่วโมง พร้อมการชาร์จเร็ว 66W
- ราคา: 19,990 บาท (สั่งซื้อ)
โดยรวมแล้ว HUAWEI MatePad 12X เป็นแท็บเล็ตที่สเปคถือว่าทำได้ดี มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่หลากหลาย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการแท็บเล็ตที่เอาไว้ทำงาน หรือว่าจด วาดเขียนเป็นหลัก เพราะว่ารุ่นนี้มีฟีเจอร์ที่รองรับการทำงานด้านเอกสารได้จากแอพเอกสารระดับ PC สามารถทำงานสองแอพพร้อมกันได้ รองรับปากกา HUAWEI M-Pencil ที่เอาไว้วาดเขียนออกแบบผ่านแอพ GoPaint หรือจดบันทึกก็ทำได้ง่ายๆ แต่น่าเสียดายที่รุ่นนี้ใช้ได้แค่ WiFi เท่านั้น แต่ก็มีราคาเริ่มต้นที่ใกล้เคียงกันถ้าดูตามรุ่น WiFi เหมือนกัน

2. Xiaomi Pad 7 Pro
Xiaomi Pad 7 Pro เป็นแท็บเล็ตอีกหนึ่งรุ่น ที่มีทั้งสเปคและประสิทธิภาพการทำงานในระดับโปร แต่ราคาไม่ได้ถือว่าสูงมากอยู่ในระดับใกล้เคียงกับ iPad Air M3 ได้เหมือนกัน โดยรุ่นที่มีราคาพอๆ กันก็คือตัวแรม 12/512GB เลย นอกจากนี้ยังมีขนาด ความบาง และเบาที่ใกล้เคียงกันอีกด้วย มีสเปคหลักโดยรวมที่น่าสนใจดังนี้
- ชิป: Snapdragon 8s Gen 3 ประสิทธิภาพสูงและใช้กระบวนการผลิต 4nm ทำให้มีประสิทธิภาพทั้งการสร้างสรรค์ผลงานต่าง อย่างการตัดต่อวิดีโอ หรือเล่นเกมที่ใช้กราฟิกหนักๆ รวมถึงรองรับโหมด Workstation อีกด้วย
- RAM/ROM: สำหรับรุ่นที่มีราคาใกล้เคียงกันจะเป็นรุ่นแรม 12GB และความจุมากถึง 512GB (LPDDR5X + UFS 4.0)
- AI: Xiaomi HyperAI ที่ทำงานร่วมกับ AI ของ Google มีฟีเจอร์ทั้งการค้นหา การสร้างข้อความตัวอักษรและรูปภาพจากสเก็ตช์ จัดการประชุม Gemini Live และอื่นๆ
- หน้าจอ: IPS LCD ระดับเรือธงขนาด 11.2 นิ้ว ความละเอียด 3.2K มีความสว่างสูงสุด 800 nits และอัตรารีเฟรชสูงสุด 144Hz โดยมีหน้าจอแบบผิวด้านเป็นตัวเลือกให้ด้วย ซึ่งรุ่นนี้ก็เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มีฟีเจอร์รองรับเยอะและหลายโหมดมาก
- กล้อง: กล้องหลัง 50MP และกล้องหน้า 32MP พร้อม Always-on อัจฉริยะที่ปลดล็อคค้างไว้ได้เมื่ออยู่ใกล้ และเมื่อห่างจากตัวเครื่องจะทำการล็อคให้อัตโนมัติ
- แบตเตอรี่: แบตเตอรี่มีความจุ 8850mAh ใช้ดูวิดีโอได้สูงสุด 19 ชั่วโมง พร้อมการชาร์จเร็ว 67W สามารถชาร์จเต็มได้ภายใน 79 นาทีเท่านั้น
- ราคา: 18,990 บาท (สั่งซื้อ)
สำหรับ Xiaomi Pad 7 Pro รุ่นนี้เป็นแท็บเล็ตที่ถือว่ามีสเปคโดดเด่นในเรื่องของความแรง และฟีเจอร์การใช้งานที่หลากหลาย มี AI ให้ใช้แล้ว หน้าจอคมชัดสูง สามารถใช้งานร่วมกับปากกา Xiaomi Focus Pen เพื่อจดบันทึกหรือขีดเขียนได้ โดยรุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่รองรับเฉพาะ WiFi7 ที่เชื่อมต่อได้เร็วแรงและมีประสิทธิภาพสูง เหมาะสำหรับคนที่อยากได้แท็บเล็ตไว้ใช้งานทั่วไป อย่างการทำงาน เล่นเกม ดูหนังฟังเพลง หรือต้องการใช้ AI ร่วมด้วย นอกจากนี้งานทางด้านออกแบบก็ทำได้เหมือนกัน

3. Samsung Galaxy Tab S9 FE+
แท็บเล็ต Samsung Galaxy Tab S9 FE+ ที่มีทั้งราคาสำหรับรุ่น WiFi ที่ใกล้เคียงกับ iPad Air M3 และมีรุ่นที่รองรับ 5G ได้ในราคาที่ต่างกันกว่า 5,000 บาท ซึ่งรุ่นนี้ก็มีทั้งหน้าจอที่ใหญ่ และมีสเปคที่น่าสนใจสำหรับการใช้งานทั่วไป ใช้ปากกาออกแบบหรือวาดขีดเขียนได้เช่นกัน ที่สำคัญคือรุ่นนี้สามารถกันน้ำกันฝุ่นที่ระดับ IP68 ได้ด้วย ส่วนสเปคหลักที่น่าสนใจมีดังนี้
- ชิป: Samsung Exynos 1380 สามารถทำงานหลายๆ อย่างพร้อมกันได้หลายแอพ หรือจะเล่นเกมก็เล่นได้ลื่น และยังใช้งานร่วมกับปากกาได้ด้วย
- RAM/ROM: สำหรับรุ่นนี้จะมีแรม 8GB และความจุรุ่นที่วางขายรุ่นเดียวคือ 128GB ก็จะพอๆ กับรุ่นเริ่มต้นของ iPad Air M3 เลย แต่ว่ารุ่นนี้สามารถเพิ่มความจุได้ด้วย microSD สูงสุด 1TB ด้วย
- AI: Galaxy AI สามารถใช้งานได้ทั้ง Circle to Search ด้วย Google ได้
- หน้าจอ: TFT LCD ขนาด 12.4 นิ้ว ความละเอียด WQXGA พร้อมอัตรารีเฟรช 90Hz และมีฟีเจอร์ Vision Booster ที่ช่วยให้หน้าจอสว่างมากขึ้นเมื่อใช้งานกลางแจ้ง และสว่างได้สูงสุด 720 nits
- กล้อง: กล้องหลังคู่ 8MP + 8MP (อัลตร้าไวด์) และกล้องหน้า 12MP วางในแนวนอน
- แบตเตอรี่: รุ่นนี้มีแบตความจุ 10,090 mAh ดูวิดีโอได้สูงสุด 20 ชั่วโมง พร้อมการชาร์จเร็ว 45W
- ราคา: เริ่มต้นที่ 19,900 บาทในรุ่น WiFi และราคา 23,900 บาทในรุ่น 5G (สั่งซื้อ)
สำหรับสเปคของ Samsung Galaxy Tab S9 FE+ รุ่นนี้จริงๆ แล้วก็เหมาะกับการใช้งานทั่วไปเป็นหลัก แต่ก็ซื้อไว้ทำงานหรือเรียนออนไลน์ได้เหมือนกัน เพราะว่ารองรับโหมด DeX และใช้งานร่วมกับปากกา S Pen Creator Edition เพื่อวาดรูปออกแบบได้ รวมถึงการเล่นเกมอีกด้วย นอกจากนี้ถ้าใครอยากได้ AI ไว้วงเพื่อค้นหารุ่นนี้ก็รองรับด้วย
แท็บเล็ต Android ที่งบใกล้เคียงกับ iPad Air M3 รุ่นจอ 13 นิ้วราคาเริ่มต้น 28,900 บาท (WiFi/ WiFi + Cellular)

1. Samsung Galaxy Tab S10+
สำหรับแท็บเล็ตที่พอจะเทียบกับ iPad Air M3 ได้ในรุ่นจอ 13 นิ้วและมีราคาที่ใกล้เคียงกันสุดๆ ด้วยก็คือ Samsung Galaxy Tab S10+ ที่มีทั้งรุ่น WiFi และ 5G ที่ราคาพอๆ กันเลย ถ้าเทียบกันตามขนาดความจุของตัวเครื่อง แต่ว่ารุ่นนี้จะมีราคาถูกกว่าเล็กน้อย ส่วนสเปคหลักที่น่าสนใจของรุ่นนี้ก็คือ
- ชิป: Dimensity 9300+ ตัวแรง ใช้ทำงาน เรียน สร้างสรรค์ผลงานต่างๆ ที่ต้องใช้กราฟิก ที่ใช้ร่วมกับปากกา S Pen ที่มีมาให้ในกล่องได้เลยง่ายๆ รวมถึงการตัดต่อ หรือเล่นเกมที่มีการระบายความร้อนได้ดีอีกด้วย
- RAM/ROM: สำหรับรุ่นที่วางขายอยู่ล่าสุดจะเป็นรุ่นแรม 12GB พร้อมความจุ 256GB
- AI: Galaxy AI สามารถใช้งานได้ทั้ง จดบันทึกการประชุม, แบ่งจอ, สรุปไฟล์ PDF, วงเพื่อค้นหาด้วย Google, Sketch to Image และ AI ลบวัตถุ
- หน้าจอ: Dynamic AMOLED 2X ขนาด 12.4 นิ้ว ความละเอียด WQXGA+ อัตรารีเฟรช 120Hz เล่นได้ไหลลื่นและป้องกันแสงสะท้อนได้ด้วย
- กล้อง: กล้องหลัง 13MP + 8MP (อัลตร้าไวด์) และกล้องหน้า 12MP
- แบตเตอรี่: ความจุ 10,090 mAh ดูวิดีโอได้สูงสุด 16 ชั่วโมง พร้อมการชาร์จเร็ว 45W
- ราคา: เริ่มต้นที่ 32,900 บาทในรุ่น WiFi และราคา 37,900 บาทในรุ่น 5G (สั่งซื้อ)
สำหรับ Samsung Galaxy Tab S10+ นั้นเป็นอีกหนึ่งตัวจบที่มีให้ใช้งานได้ครบทุกฟีเจอร์ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานทั่วไป งานที่ต้องใช้กราฟิก งานออกแบบ ตัดต่อ หรือว่าใช้วาดรูป ที่มีปากกา S Pen มาให้เลยไม่ต้องซื้อเพิ่ม ไปจนถึงการเล่นเกมที่ตอบโจทย์การใช้งานได้ครบถ้วน ซึ่งถ้าเทียบกันตามความจุแล้ว ก็ถือว่าเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ

2. HUAWEI MatePad Pro 12.2 นิ้ว
มาดูที่ HUAWEI MatePad Pro กันบ้างที่รุ่นนี้มีราคารุ่นเริ่มต้นตัว WiFi ราคาแพงกว่า iPad Air M3 นิดหน่อย แต่สิ่งที่ได้เพิ่มมากว่าเยอะมากๆ เลยก็คือ RAM/ROM ที่เทียบกันตามความจุแล้วจะถือว่ารุ่นนี้ราคาถูกกว่าเยอะแน่นอน มีสเปคเด่นๆ ของรุ่นนี้คือ
- ชิป: Kirin T91 เร็วแรงใช้งานทั่วไปหรือทำงาน เรียนที่ต้องจดบันทึก และการออกแบบต่างได้อย่างดีเยี่ยม
- RAM/ROM: รุ่นนี้มีแรม 12GB และความจุ 512GB
- หน้าจอ: Tandem OLED แบบ PaperMatte ขนาด 12.2 นิ้ว ความละเอียด 2.8K อัตรารีเฟรชสูงสุด 144Hz และความสว่างสูงสุดถึง 2000 nits
- กล้อง: กล้องหลังคู่ 13MP + 8MP และกล้องหน้า 8MP
- แบตเตอรี่: ความจุ 10,100 mAh พร้อมชาร์จเร็ว 100W
- ราคา: 29,990 บาท (สั่งซื้อ)
สำหรับแท็ยเล็ตรุ่นนี้จะเหมาะกับการใช้งานในหลายๆ ด้าน แต่ยังไม่มี AI ให้ใช้ แต่ถ้าจะเน้นเรื่องการทำงานทั่วไป การเรียน หรือว่าใช้วาดรูป สร้างสรรค์ผลงานต่างๆ ที่ต้องใช้หน้าจอความคมชัดสูง ก็ถือว่าเป็นรุ่นที่น่าสนใจในราคาและงบประมาณที่พอๆ กับรุ่นเริ่มต้นของ iPad Air M3 เลย

3. OPPO Pad 3 Pro
ปิดท้ายด้วยแท็บเล็ตรุ่นล่าสุดจาก OPPO ที่รุ่นนี้เป็นอีกรุ่นที่มีราคาสูงกว่าตัวเริ่มต้นของ iPad Air M3 นิดหน่อย แต่ถ้าเทียบกันตามความจุแล้วก็ถือว่าถูกกว่าอยู่ดี มีสเปคที่น่าสนใจดังนี้
- ชิปเซต: Snapdragon 8 Gen 3 ใช้เล่นเกมได้ดี สามารถแบ่งจอทำงานได้ 3 จอ จะเอาไว้ทำงานหรือเรียนเป็นหลักก็ได้
- RAM/ROM: รุ่นที่วางขายมีแรม 12GB และความจุ 256GB
- AI: มีฟีเจอร์การทำงานร่วมกับ AI คือ สรุปเนื้อหา, AI Writer, AI Speak และช่วยในการแต่งรูป
- หน้าจอ: LCD (LTPS) ขนาด 12.1 นิ้ว ความละเอียด 3K อัตรารีเฟรชสูงสุด 144Hz และความสว่างสูงสุด 900 nits
- กล้อง: กล้องหลัง 13MP และกล้องหน้า 8MP
- แบตเตอรี่: ความจุ 9510mAh พร้อมชาร์จเร็ว 67W
- ราคา: 29,999 บาท (สั่งซื้อ)
โดยรวมแล้ว OPPO Pad 3 Pro นั้นเป็นแท็บเล็ตที่น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยเฉพาะหน้าจอที่คมชัดไหลลื่นสุดๆ จะเอาไว้ทำงานทั่วไป ใช้เรียนจดบันทึก หรือการสร้างสรรค์ผลงาน และคนที่อยากใช้ AI ช่วยในการทำงานร่วมด้วย รุ่นนี้ก็มีสเปคที่ตอบโจทย์การใช้งานไม่น้อยเลย มีรุ่นสเปคเดียวคือรุ่น WiFi
แท็บเล็ต Android ที่ราคาใกล้เคียงกับ iPad Air M3 นั้นมีอยู่หลายรุ่นที่มีงบประมาณในการซื้อเริ่มต้นพอกันๆ แต่ก็ควรพิจารณาสเปค และฟีเจอร์ที่เหมาะสมกับการใช้งานของตัวเองด้วย เพราะว่าตัว iPad Air M3 นั้นมีทั้งความบางเบา และสเปคที่เร็วแรงมากๆ ในตอนนี้ ด้วยความที่ใช้ชิปตัวแรงและเป็นรุ่นล่าสุดที่เปิดตัวออกมาในตอนนี้ จึงทำให้แท็บเล็ต Android หลายๆ รุ่นก็ยังแรงได้ไม่เท่า แต่ถ้าจะมองในเรื่องของงบประมาณ และความคุ้มค่าของแรมและความจุ รวมถึงการใช้งาน AI ต่างๆ ก็อาจจะทำให้แท็บเล็ต Android หลายๆ รุ่นนั้นดูคุ้มกว่าได้เช่นกัน