เปรียบเทียบสเปค Mi 11 Lite กับ Redmi Note 10 Pro : หลังจากที่ Xiaomi เปิดตัว Mi 11 Lite ออกมา คงมีหลาย ๆ คนสงสัยว่าทั้ง 2 รุ่นนี้ต่างกันตรงไหนและลังเลว่าจะเลือกซื้อตัวไหนดี ด้วยความที่ราคามันดันเท่ากันทำให้หลาย ๆ คนต้องเกิดการลังเลอย่างแน่นอนว่าควรจะซื้อตัวไหนถึงจะคุ้มกว่ากัน หากเพื่อน ๆ อยากรู้แล้ว เราก็ไปดูความแตกต่างของทั้ง 2 เครื่องกัน
เปรียบเทียบสเปค Mi 11 Lite กับ Redmi Note 10 Pro
Xiaomi Mi 11 Lite | Xiaomi Redmi Note 10 Pro | |
---|---|---|
ขนาด | 160.50 x 75.70 x 6.80 มม. | 164.00 x 76.50 x 8.10 มม. |
น้ำหนัก | 157 กรัม | 193 กรัม |
หน้าจอ | AMOLED ขนาด 6.55 นิ้ว 2400 x 1080 พิกเซล อัตรารีเฟรช 90Hz 1B Colors | AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว 2400 x 1080 พิกเซล อัตรารีเฟรช 120Hz |
ชิปประมวลผล | Qualcomm Snapdragon 732G | Qualcomm Snapdragon 732G |
แรม | 8 GB | 6GB / 8 GB |
หน่วยความจำ | 128 GB | 128 GB |
กล้องหลัง | 64 MP f/1.8 (wide) 8 MP f/2.2 (ultrawide) 5 MP f/2.4 (telemacro) | 108 MP f/1.9 (wide) 8 MP f/2.2 (ultrawide) 5 MP f/2.4 (telemacro) 2 MP f/2.4 (depth) |
กล้องหน้า | 16 MP f/2.5 | 16 MP f/2.5 |
แบตเตอรี่ | 4,250 mAh ชาร์เร็ว 33W | 5,020 mAh ชาร์เร็ว 33W |
ราคา | 8,999 บาท | 8,999 บาท |
หน้าสเปค | หน้าสเปค | |
รีวิว | รีวิว |
จากตารางเพื่อน ๆ จะเห็นได้เลยว่าความแตกต่างของ Mi 11 Lite และ Redmi Note 10 Pro นั้นมีไม่เยอะมากนัก โดยเฉพาะชิปประมวลผลนั้นเป็นชิปตัวเดียวกันเลย หมายความว่าในเรื่องความแรงและการเล่นเกมนั้นเหมือนกัน ซึ่งความแตกต่างนั้นจะเป็นส่วนอื่น ๆ ที่เป็นส่วนประกอบของตัวเครื่องอย่างหน้าจอ, กล้องถ่ายภาพ หรือขนาดแบตเตอรี่ นอกจากนี้ยังมีอีกจุดที่ต่างกันนั่นก็คือเรื่องของถาดซิมนั่นเอง โดยของ Mi 11 Lite นั้นจะเป็นแบบ Hybrid ที่จะต้องเลือกว่าจะใส่เป็นซิม 2 หรือจะใส่เป็น MicroSD Card แต่ทว่าใน Redmi Note 10 Pro นั้นจะเป็นแบบ Triple-slot ทำให้สามารถใส่ซิมได้ 2 ซิมพร้อม ๆ กับใส่ MicroSD Card ไปด้วยได้ ซึ่งตรงนี้เองก็ใช้เป็นหนึ่งในตัวตัดสินได้เช่นกัน
เปรียบเทียบสเปค Mi 11 Lite กับ Redmi Note 10 Pro จุดที่แตกต่าง
เปรียบเทียบสเปค Mi 11 Lite กับ Redmi Note 10 Pro : หน้าจอ
สำหรับความแตกต่างในเรื่องหน้าจอนั้นถึงแม้ว่าทั้ง Mi 11 Lite และ Redmi Note 10 Pro นั้นจะใช้หน้าจอ AMOLED ที่มีความละเอียดระดับ Full-HD+ เหมือน ๆ กัน แต่ในด้านรายละเอียดนั้นมีความแตกต่างกัน และหากได้ลองมองหน้าจอจริง ๆ แล้วจะเห็นได้ถึงความแตกต่างกันอย่างชัดเจนเลยทีเดียว
โดยในส่วนของหน้าจอนั้น Mi 11 Lite มีขนาด 6.55 นิ้ว ที่มีรูกล้องแบบ punch-hole อยู่ที่มุมซ้ายของจอ มีอัตรารีเฟรชอยู่ที่ 90Hz และสามารถแสดงผลได้ถึงพันล้านสี ส่วน Redmi Note 10 Pro นั้นจะมีหน้าจอขนาด 6.67 นิ้ว ที่มีรูกล้องแบบ punch-hole อยู่ที่ตรงกลางของหน้าจอ และมีอัตรารีเฟรชที่สูงถึง 120Hz แต่ทว่าการแสดงผลนั้นได้เพียงแค่ 16 ล้านสีเท่านั้น
โดยจากที่ได้เอาหน้าจอมาวางเทียบกันแล้ว โดยส่วนตัวทางผู้เขียนชื่นชอบหน้าจอของ Mi 11 Lite มากกว่า เนื่องจากการแสดงสีสันที่สมจริงกว่า พอมืดก็มืดสนิทเลย ทำให้ได้อรรถรสมากกว่าในการดูหนังและเล่นเกมที่มีจุดเด่นคือภาพสวย แต่หากจะเอามาเพื่อเล่นเกมอย่างเดียวนั้นหน้าจอของ Redmi Note 10 Pro จะเข้าท่ากว่า ถึงแม้สีสันที่หน้าจอแสดงออกมาจะดูเหมือนมีการเร่งสีให้โดดขึ้นมา แต่สำหรับในการเล่นเกม โดยเฉพาะแนวเอาชีวิตรอดแล้วมันช่วยในการเล่นได้พอสมควรเลยทีเดียว แถมด้วยหน้าจอที่มีอัตรารีเฟรชถึง 120Hz ทำให้สามารถเล่นเกมได้อย่างลื่นไหนและเนียนตามากกว่า
เปรียบเทียบสเปค Mi 11 Lite กับ Redmi Note 10 Pro : กล้องถ่ายรูป
ในด้านของการถ่ายภาพนั้นถึง Mi 11 Lite จะมีกล้องหลักที่มีความละเอียด 64MP ในขณะที่ Redmi Note 10 Pro มีกล้องหลักที่มีความละเอียดสูงถึง 108MP แล้ว แต่จากที่ทางผู้เขียนได้ลองมาภาพที่ได้นั้นเรียกได้ว่าแทบจะไม่แตกต่างกันเลย ยิ่งหากเป็นการใช้งานแบบทั่ว ๆ ไปแล้วนี่อาจจะบอกได้ว่าแยกกันไม่ออกเลยทีเดียวว่าภาพไหนของเครื่องไหน ส่วนกล้อง Ultrawide และ Tele-macro นั้นเป็นกล้องตัวเดียวกันทำให้คุณภาพเหมือนกันเลยจะขอข้ามเลย ทว่าใน Redmi Note 10 Pro นั้นจะมีเลนส์ Depth อยู่ ซึ่งเลนส์นี้อาจจะมีส่วนช่วยให้ภาพถ่ายบุคคลอาจจะทำออกมาได้ดีกว่า Mi 11 Lite เล็กน้อย (เล็กน้อยจริง ๆ ) ทำให้หากไม่ได้เทียบแบบจ้องจับผิดกันแล้ว ก็สามารถบอกได้ในระดับหนึ่งว่าจะเลือกตัวไหนภาพก็เหมือน ๆ กันนั่นแหละ
เปรียบเทียบสเปค Mi 11 Lite กับ Redmi Note 10 Pro : แบตเตอรี่
สำหรับในส่วนของแบตเตอรี่และระบบชาร์จเร็วนั้นทั้ง Mi 11 Lite และ Redmi Note 10 Pro นั้นจะมีระบบชาร์จเร็วขนาด 33W ติดเครื่องมา พร้อมด้วยอะแดปเตอร์ชาร์จขนาด 33W แถมมาในกล่องเหมือนกัน แต่ที่จะต่างกันก็จะมีเพียงแค่ขนาดของแบตเตอรี่นั่นเอง โดยใน Mi 11 Lite นั้นมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,250 mAh ส่วน Redmi Note 10 Pro นั้นจะมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5,020 mAh ซึ่งตรงนี้จะว่าเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ก็ไม่ผิด เนื่องจาก Mi 11 Lite นั้นมีจุดเด่นที่เรื่องความบางและน้ำหนักที่เบามาก ๆ ทำให้ไม่สามารถใส่แบตเตอรี่ที่มีขนาดเยอะ ๆ มาได้ ทำให้พูดได้ว่าหากอยากได้เครื่องเบา ๆ ก็ต้องและมากับแบตเตอรี่ที่ลดลงหล่ะนะ แต่ในเรื่องของการใช้งานนั้นโดยส่วนตัวของผู้เขียนมองว่า Mi 11 Lite แบตเตอรี่อาจจะหมดพอ ๆ กันหรือช้ากว่า Redmi Note 10 Pro เล็กน้อย ด้วยเรื่องขนาดหน้าจอที่เล็กกว่านิดหน่อย และอัตรารีเฟรชที่น้อยกว่า ทำให้ประหยัดแบตเตอรี่มากกว่านั่นเอง
สรุปการเปรียบเทียบสเปค Mi 11 Lite กับ Redmi Note 10 Pro
หากให้สรุปออกมาจากการเปรียบเทียบสเปค Mi 11 Lite กับ Redmi Note 10 Pro โดยส่วนตัวผู้เขียนค่อยข้างชอบ Mi 11 Lite มากกว่า Redmi Note 10 Pro เนื่องจากการแสดงผลของหน้าจอที่แสดงได้มากถึงพันล้านสีแบบเดียวกับใน Mi 11 และน้ำหนักที่เบามาก ๆ เพียงแค่ 157 กรัม เท่านั้น ซึ่งหาไม่ได้ในมือถือยุคนี้เลย เรื่องการพกพาง่ายนั้นโดยส่วนตัวมองว่าเป็นอะไรที่สำคัญกว่ามากในยุคนี้ อันเนื่องมาจากในปัจจุบันนี้เวลาเราออกไปไหนก็ต้องมีการพกพาของติดตัวไปด้วยหลายชิ้น ซึ่งการลดน้ำหนักที่ต้องขนลงก็ช่วยให้ข้อต่อร่างกายเราเสื่อมช้าลงได้ (ถึงแม้จะแค่นิดเดียวก็ยังดีกว่าไปหิ้วแบบหนัก ๆ นั่นแหละ) แต่หากเพื่อน ๆ เป็นคนที่ซื้อมือถือมาเพื่อการเล่นเกม แล้วก็ไม่ค่อยได้ออกไปไหน Redmi Note 10 Pro ออกจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า แถมยังสามารถซื้อบนร้านออนไลน์ได้ในราคาที่ถูกกว่าด้วย แต่ทั้งนี้สุดท้ายแล้วก็อยากให้เพื่อน ๆ ไปลองจับเครื่องจริง ๆ กันสักหน่อย เพราะด้วยดีไซน์ของตัวเครื่อง, ขนาด และน้ำหนักสำหรับแต่ละคนแล้วชื่นชอบไม่เหมือนกัน ก็หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เพื่อน ๆ สามารถตัดสินใจซื้อเครื่องได้ง่ายขึ้นนะครับ