หลังจากเป็นข่าวหลุดกันมานาน ในที่สุด Sony ก็ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนตัวท็อปรุ่นล่าสุดอย่าง Xperia Z หรือ ZL อย่างเป็นทางการในงาน CES 2013 ครั้งนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ในแง่สเปคนั้น Xperia Z มีสเปคพื้นฐานเหมือนกับมือถือระดับไฮเอนด์ที่ออกมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมาคือหน้าจอ 5 นิ้ว ความละเอียด 1080p ตัวประมวลผล Qualcomm Snapdragon S4 Pro แบบ Quad-Core ความเร็ว 1.5 GHz กล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และมากับแบตเตอรี่ขนาด 2330 mAh
ตัวเครื่องนั้นเป็นถูกเคลือบด้วยกระจก Gorilla Glass ตามที่เป็นข่าวมาก่อนหน้าเช่นกัน ทั้งบริเวณด้านหน้าด้านหลังเหมือนกับ Nexus 4 รองรับมาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP 57 สามารถกันฝุ่นและน้ำลึก 1 เมตรได้นาน 30 นาที บริเวณเครื่องนั้นเป็นแบบบล็อคเหลี่ยมทั้งหมดตามการออกแบบของ Sony ปี 2012 ส่วนหนึ่งที่หลายคนอาจจะไม่ชอบกันคือพอร์ทต่างๆ นั้นถูกปิดด้วยฝาไว้ทั้งหมด แม้กระทั่งช่องหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรก็ตาม
สำหรับเซนเซอร์กล้อง 13 ล้านนั้นเป็นแบบ Stacked CMOS หรือ Exmor RS ที่ใช้กันใน OPPO Find 5 ด้วยเช่นกัน โดยมีความสามารถพิเศษในการถ่าย video HDR ซึ่งจะอัดวีดีโอ 3 ชุดในสภาพแสดงที่ต่างกัน 3 แบบแล้วนำช่วงแสงที่ดีที่สุดของแต่ละวีดีโอมารวมเข้าด้วยกันทำให้มีความสวยงามมากกว่า และกล้องตัวใหม่ของ Sony นี้รองรับ Burst Mode แล้วโดยสามารถถ่ายรูปติดกันได้ 10 รูปต่อวินาทีที่ความละเอียด 9 ล้านพิกเซล
ส่วนของซอฟแวร์นั้น Xperia Z มากับ Android 4.1 และมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เข้าไปเช่น Clear Audio+, Bravia Engine 2 และ Battery Stamina Mode ซึ่งน่าจะคล้ายกับ Extended Standby Mode ที่เราเห็นกันใน Xperia late 2012 อย่าง T, TX, V กันไปแล้ว ซึ่งการทำงานนั้นจะปิดแอพลิเคชันที่รันอยู่ในพื้นหลังทุกอย่างเมื่อหน้าจอที่ปิดลง ซึ่งข้อดีก็คือทำให้ประหยัดพลังงานในขณะ Standby มากขึ้นแต่ข้อเสียที่ตามมาคือเราจะพลาด Notification ที่ถูกเรียกหรือส่งมาจากอินเตอร์เน็ตทั้งหมด โดยมีกาเพิ่มฟีเจอร์โดยให้มีการอนุญาตแอพที่สามารถรันในพื้นหลังได้แล้ว
สำหรับ Xperia ZL มีสเปคเหมือนกับ Xperia Z ทุกอย่าง แต่เครื่องมีขนาดเล็กกว่า (หน้าจอยังเป็น 5 นิ้วเหมือนกัน) และไม่รองรับการกันน้ำกันฝุ่นแล้ว ซึ่งจะถูกวางจำหน่ายในบางประเทศแทน Xperia Z ซึ่งดูแล้วการวางขายน่าจะเหมือนกับ Xperia T และ TX ครับ โดยทั้งสองรุ่นนี้มีกำหนดการออกเร็วสุดในเดือนมีนาคม แต่ลำดับในการวางจำหน่ายสินค้าอาจจะยาวไปถึงเดือนเมษายนได้เช่นกันสำหรับการกระจายสินค้าไปยังช่องจำหน่ายต่างๆ ให้ครบครับ
ที่มา : The Verge