Close Menu
    Facebook X (Twitter) YouTube TikTok
    SpecPhone
    • ข่าวล่าสุด
    • รีวิว
    • ค้นหามือถือ
    • วิดีโอ
    • บทความ
    • ติดต่อเรา
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)
    SpecPhone
    Home»Editorial»เปรียบเทียบกล้อง : Samsung Galaxy S21+ 5G vs iPhone 12 Pro ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอจะแตกต่างกันขนาดไหน มาดูกัน!!
    Editorial

    เปรียบเทียบกล้อง : Samsung Galaxy S21+ 5G vs iPhone 12 Pro ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอจะแตกต่างกันขนาดไหน มาดูกัน!!

    ACHI-SPBy ACHI-SP29 มิถุนายน 2021Updated:6 กันยายน 2021
    Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    Share
    Facebook Twitter LinkedIn Pinterest Email
    Galaxy S21+ 5G vs iPhone 12 Pro

    สิ่งหนึ่งที่เราใช้ในการตัดสินใจเลือกซื้อมือถือดี ๆ สักตัวยังไงก็ไม่พ้นกล้องแน่นอน แถมยิ่งเป็นรุ่นระดับเรือธงด้วยแล้วยิ่งต้องคิดให้ดี เนื่องจากราคาเครื่องไม่ใช่ถูก ๆ ซึ่ง Samsung Galaxy S21+ 5G vs iPhone 12 Pro ก็เป็นคู่หนึ่งที่ตัดสินกันได้ยาก ด้วยราคาที่ใกล้เคียงกัน ทำให้อาจจะมีหลาย ๆ คนที่ยังลังเลอยู่ว่าจะเลือกซื้อตัวไหนดี วันนี้เรามีคำตอบมาให้แล้ว แต่ก่อนหน้านั้นเราไปดูกันก่อนดีกว่าว่าทั้งคู่มีกล้องอะไรบ้าง

    • Galaxy S21+ 5G vs iPhone 12 Pro
      • ภาพกล้องหลัง
      • ภาพเซลฟี่
      • Portrait Mode
      • Night Mode
      • Pro Mode
      • การบันทึกวีดีโอ
    • สรุปการเปรียบเทียบกล้อง

    กล้องของ Samsung Galaxy S21+ 5G นั้นจะมีทั้งหมด 3 เลนส์คือเลนส์ wide ความละเอียด 12MP มีรูรับแสงกว้าง f/1.8, เลนส์ ultrawide ความละเอียด 12MP มีรูรับแสงกว้าง f/2.2 และเลนส์ telephoto ความละเอียด 64MP มีรูรับแสงกว้าง f/2.0 ซึ่งมีระยะซูมแบบ Optical 2 เท่า, Hybrid 10 เท่า และ Space Zoom 30 เท่า สำหรับกล้องหน้าที่ใช้เซลฟี่นั้นเป็นเลนส์ความละเอียด 10MP ที่มีรูรับแสงกว้าง f/2.2

    กล้องของ iPhone 12 Pro นั้นจะมีทั้งหมด 3 เลนส์คือเลนส์ wide ความละเอียด 12MP มีรูรับแสงกว้าง f/1.6, เลนส์ ultrawide ความละเอียด 12MP มีรูรับแสงกว้าง f/2.4 และเลนส์ telephoto ความละเอียด 12MP มีรูรับแสงกว้าง f/2.0 ซึ่งมีระยะซูมแบบ Optical 2 เท่า และ Hybrid 10 เท่า นอกจากนี้ยังมี LiDAR Scanner สำหรับใช้วัดระยะแบบ 3D อีกด้วย สำหรับกล้องหน้าที่ใช้เซลฟี่นั้นเป็นเลนส์ความละเอียด 12MP ที่มีรูรับแสงกว้าง f/2.2

    Galaxy S21+ 5G vs iPhone 12 Pro : ภาพกล้องหลัง

    สำหรับภาพจากกล้องหลังที่ได้ทดลองนั้นโดยรวมแล้วดูทาง Galaxy S21+ 5G จะได้ภาพที่มีความสว่างมากกว่าทาง iPhone 120 Pro ถึงแม้ว่าพอเป็นในที่ร่มแล้วจะเก็บแสงได้น้อยกว่าก็ตาม สำหรับตัวอย่างภาพต่าง ๆ ที่ได้ไปลองถ่ายมาจะเป็นดังต่อไปนี้

    สำหรับภาพจากกล้องหลักในสภาพกลางแจ้ง  Galaxy S21+ 5G จะเก็บแสงได้มากกว่า รวมถึงถ่ายภาพได้มุมกว้างกว่าเล็กน้อย

    สำหรับกล้องหลักเมื่อถ่ายในร่มนั้นค่อนข้างแปลกใจที่ตรงข้ามกับการถ่ายกลางแจ้ง เนื่องจากทาง Samsung นั้นจะเก็บแสงได้มืดกว่าทาง iPhone แต่ทว่าในเรื่องของสีสันแล้วทาง Samsung จะมีสีที่ค่อนข้างเข้มกว่า

    ภาพนี้จะเป็นการถ่ายแบบย้อนแสง  iPhone 12 Pro จะถ่ายออกมามืดกว่าอย่างเห็นได้ชัด แถมยังดูจะเหลืองกว่าปกติด้วย ในขณะที่ทาง Samsung นั้นภาพที่ได้จะมีความสว่างกว่า แถมพื้นหลังยังมีการละลายแบบอ่อน ๆ ให้อีกด้วย

    สำหรับการถ่ายภาพแบบมุมกว้างด้วยเลนส์ Ultrawide เช่นเดียวกับกล้องหลัก Galaxy S21+ 5G นั้นจะได้ภาพที่มีมุมกว้างกว่า iPhone พอสมควร แถมยังเก็บรายละเอียดได้ค่อนข้างชัดเจนด้วย ถ้าคุณเป็นคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพมุมกว้างแล้ว Samsung คือตัวเลือกที่ดีกว่าจริง ๆ

    สำหรับภาพมุมกว้างในที่ร่มอันนี้ออกจะแปลกนิด ๆ เนื่องจากภาพของทาง Samsung จะออกไปทางโทนฟ้า  ถึงแม้ว่าไฟสีฟ้าคำว่า SALE จะดูสวยเด่นก็ตาม แต่สีไฟภายในร้านมันออกฟ้าจนเกินไป ในขณะที่ของทาง iPhone นั้นแสงสีภายในร้านจะออกเป็นธรรมชาติ ถึงแม้ว่าตัวไฟคำว่า SALE จะดูซีดไปหน่อยก็ตาม

    สำหรับเลนส์ซูมนี้เราจะทำการแยกให้เห็นกันชัด ๆ เลย โดยของ Samsung จะมีระยะซูมแบบ Optical ที่ 3 เท่า ซึ่งทำให้ได้ระยะที่ไกลกว่า แถมยังสามารถซูมได้สูงสุดถึง 30 เท่าอีกด้วย (รายละเอียดยังพอเห็นได้อยู่นะเออ) แต่ถ้าหากเทียบกันที่ระยะ 10 เท่าที่เป็นระยะสูงสุดของ iPhone แล้ว ภาพของ Samsung จะมีความคมชัดมากว่า แถมยังมีรายละเอียดที่เยอะกว่า iPhone พอสมควร (เนื่องมาจากระยะซูมแบบ Optical สูงกว่านั่นเอง)

    เรื่องกล้องหลังจากทุกระยะโดยรวมแล้วทาง Samsung จะทำออกมาได้ดีกว่าไม่ว่าจะเป็นการเก็บแสง ระยะความกว้างของมุมที่ทำได้มากกว่า แถมระยะซูมยังเก็บรายละเอียดได้ครบถ้วนกว่าที่ระยะเท่ากัน 


    Galaxy S21+ 5G vs iPhone 12 Pro : ภาพเซลฟี่

    สำหรับกล้องหน้าที่ไว้ใช้เซลฟี่นั้นของทาง Samsung จะเป็นเลนส์ความละเอียด 10MP ส่วนทาง iPhone จะเป็นเลนส์ความละเอียด 12MP ซึ่งจากที่ได้ลองมาแล้วทาง iPhone จะออกแนวเรียล ๆ สมจริงมาก ในขณะที่ทาง Samsung นั้นถึงจะเป็นโหมดอัตโนมัติก็ยังมีการละลายหลังมาให้อ่อน ๆ รวมถึงยังมีการใส่บิวตี้มาให้หน่อย ๆ อีกด้วย สำหรับในเรื่องของพื้นหลังที่มีแสงค่อนข้างสว่าง ทาง Samsung มีการลดแสงลงเพื่อให้เห็นรายละเอียดได้ชัดเจนมากขึ้น สามารถเอาภาพไปใช้ได้เลย ในขณะที่ทาง iPhone นั้นสว่างจนขาวไปเลย ทำให้ถ้าจะเอาไปใช้ก็ต้องเอาไปแต่งต่อทำให้ต้องเสียเวลาไปกับขั้นตอนอีกเล็กน้อย


    Galaxy S21+ 5G vs iPhone 12 Pro : Portrait Mode

    สำหรับภาพจากโหมด Portrait หรือโหมดถ่ายภาพบุคคลด้วยกล้องหน้านี้หากมองที่ภาพจะเห็นความแตกต่างที่ค่อนข้างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการตรวจจับบุคคล การละลายหลัง รวมถึงสกินโทนที่ได้ โดยในเรื่องการตรวจจับบุคคลนั้นก่อนกดถ่ายทั้งสองสามารถตรวจจับได้ว่ามีใบหน้าอยู่ 2 ใบหน้า แต่ทว่าพอกดถ่ายออกมาแล้ว iPhone กลับละลายคนที่อยู่ด้านหลังซะงั้น

    ในขณะที่ Samsung ไม่ได้เป็นแบบนั้น ส่วนตัวมองว่าถ้าใช้เซลฟี่กับคนอื่นบ่อย ๆ Galaxy S21+ 5G จะสามารถถ่ายออกมาได้ดีกว่า iPhone 12 Pro เพราะตัวเครื่องสามารถตรวจจับใบหน้าพร้อมทั้งละลายหลังโดยเว้นบุคคลที่อยู่ด้านหลังได้ด้วย นอกจากนี้ในรูปแบบถ่ายมุมกว้าง Samsung ยังได้ระยะที่กว้างมากกว่าอีกด้วย


    Galaxy S21+ 5G vs iPhone 12 Pro : Night Mode

    ในการถ่ายภาพในที่แสงน้อยนั้นทั้ง 2 เครื่องจะมี Night Mode มาให้ แต่จะมีความแตกต่างกันตรงที่ของ Samsung จะเป็นโหมดแยกต่างหากให้ (ในโหมดถ่ายภาพปกติก็ใช้ Night Mode ได้แต่จะไม่เต็มที่เท่ากับการเข้าโหมด Night Mode จริง ๆ) ในขณะที่ iPhone จะรวมอยู่ในโหมดถ่ายภาพปกติ และทำงานแบบอัตโนมัติเมื่อแสงน้อยเท่านั้น ซึ่งจากที่ลองถ่ายก็เริ่มตั้งแต่ช่วงโพล้เพล้ไปจนมืดเลยจะเป็นดังต่อไปนี้

    ในช่วงโพล้เพล้ภาพของ Samsung จะมีสีที่ออกไปในโทนอ่อนที่ค่อนข้างใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากกว่า

    สำหรับภาพจากช่วงเวลาที่มืดแล้วไม่ว่ายังไงก็ต้องยอมให้กับ Samsung ที่ขึ้นชื่อเรื่องการถ่ายสีไฟที่ออกมาสวยงามกว่าอย่างเห็นได้ชัด (จะว่าเป็นเอกลักษณ์เลยก็ว่าได้) ในขณะที่ของทาง iPhone สีไฟจะดูซีดกว่าพอสมควร รวมถึงเรื่องของการเก็บรายละเอียดนั้น iPhone จะมี Noise ค่อนข้างมากหากเทียบกับ Samsung 

    ในการเซลฟี่ด้วย Night Mode สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดเลยก็คือความสว่างของบุคคลและพื้นหลังโดยที่ทาง iPhone จะทำการลดความสว่างของพื้นหลังลงเพื่อให้ตัวแบบเด่นชัดขึ้น ในขณะที่ทาง Samsung ถึงจะมีการละลายที่หนักกว่าแต่แสงก็เก็บมาเต็มที่เลย ทำให้ตัวแบบดูไม่ค่อยเด่นเท่าไรนัก แถมความคมชัดของตัวแบบทางฝั่ง iPhone ยังมีความคมมากกว่าด้วย แต่ถึงอย่างนั้นกล้องของ Samsung กลับทำให้ผิวดูเนียนกว่ามาก แถมการตัดขอบยังทำออกมาได้ดีกว่า ไม่มีการกินขอบผมเข้ามาเลย อีกทั้งรายละเอียดของเส้นผมยังเห็นได้ชัดกว่าด้วย


    ภาพรวมในเรื่องของการถ่ายภาพ หากเป็นการถ่ายไฟหรือการถ่ายภาพแบบมุมกว้างแล้ว Samsung Galaxy S21+ 5G กลับทำได้ดีกว่า นอกจากนี้ในเรื่องของการเซลฟี่นั้นโดยส่วนตัวค่อนข้างชอบกล้องของ Samsung Galaxy S21+ 5G มากกว่า เนื่องจากตัวซอร์ฟแวร์มีความ Beauty แบบอ่อน ๆ ให้แล้ว ไหนจะยังเรื่องการตรวจจับใบหน้าที่แม่นกว่า iPhone 12 Pro อีกด้วย ยังไม่รวมถึงเรื่องระยะการซูมของ Samsung ที่ทำได้ไกลกว่ามาก ๆ ด้วย


    Galaxy S21+ 5G vs iPhone 12 Pro : Pro Mode

    ในส่วนของโหมด Pro นั้นใน iPhone จะรวมอยู่ในโหมดถ่ายภาพปกติ โดยการกดเครื่องหมายลูกศรที่อยู่ด้านบนเพื่อเปิดขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้มีอะไรให้ปรับได้มากมายนัก ในขณะที่ทาง Samsung จะเป็นโหมดแยกต่างหากออกมา แถมยังสามารถปรับค่าได้มากกว่า อีกทั้งยังเลือกได้ด้วยว่าจะใช้ไมค์รับเสียงจากทิศทางไหน (ในกรณีเปิดโหมด Pro Video) นอกจากนี้ยังมีกราฟเสียงและกราฟแสงให้ดูได้ด้วย สำหรับคนที่ใช้มือถือถ่ายวิดีโอเป็นหลักการมีตัวเลือกให้เยอะแบบนี้จะมีความสะดวกมากกว่าอีก

    Director’s View

    นอกเหนือจาก Pro Mode ปกติแล้ว ใน Samsung Galaxy S21+ 5G ยังมีโหมดวิดีโอใหม่ๆ ด้วยก็คือ Director’s View หรือชื่อภาษาไทยคือ “มุมมองผู้กำกับ” โดยโหมดนี้จะเป็นโหมดที่จะช่วยให้เราสามารถใช้กล้องพร้อมกันทั้งหน้า-หลังได้ และยังสามารถเปลี่ยนเลนส์ระหว่างถ่ายได้ด้วย และความเจ๋งของโหมดนี้ก็คือเวลาจะเปลี่ยนเลนส์ จะมีการแสดงภาพตัวอย่างให้ดูก่อนด้วย ช่วยให้เราสามารถเลือกเลนส์ที่จะใช้ได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนไป – มาเพื่อปรับให้พอดี

    Vlogger View

    อีกมุมมองหนึ่งในโหมดมุมมองผู้กำกับที่น่าสนใจก็คือมุมมองแบบ Vlogger ที่เป็นการแบ่งครึ่งหน้าจอในการแสดงผล โดยจะแบ่งครึ่งหนึ่งเป็นกล้องหน้าและอีกครึ่งเป็นกล้องหลัง และสามารถสลับฝั่งกันได้ด้วย (สามารถเปลี่ยนเลนส์ระหว่างถ่ายได้เช่นกัน) ช่วยให้สามารถมองภาพจากทั้ง 2 กล้องได้อย่างชัดเจน

    Galaxy S21+ 5G vs iPhone 12 Pro : การบันทึกวีดีโอ

    ในการบันทึกวีดีโอนั้นสิ่งที่ทั้ง Galaxy S21+ 5G และ iPhone 12 Pro มีเหมือนกันก็คือการที่สามารถบันทึกวิดีโอได้ที่ความละเอียด 4K 60FPS, 4K 30FPS, Full HD 60FPS และ Full HD 30FPS แต่ทว่าใน Galaxy S21+ 5G นั้นสามารถบันทึกวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงที่สุดคือ 8K 24FPS และต่ำสุดที่ Full HD 30FPS ส่วน iPhone 12 Pro นั้นได้สูงสุดแค่ 4K 60FPS แต่ก็สามารถบันทึกวิดีโอได้ที่ความละเอียดต่ำที่สุดคือระดับ HD 720p 30FPS ซึ่งด้วยความละเอียดนี้จะได้ไฟล์ที่มีขนาดเล็กมาก ๆ ทำให้สามารถส่งผ่านแอพโซเชียลได้ง่ายกว่า

    สำหรับการบันทึกวิดีโอที่ความละเอียด 8K 24FPS นั้นสามารถบันทึกได้ทั้งในโหมดปกติและโหมด Pro แต่จากที่ได้พบนั้นการบันทึกที่ความละเอียดนี้อาจยังไม่เหมาะกับการใช้งานจริงเท่าไหร่นัก เนื่องจากตัวภาพยังมีความไม่ลื่นไหล ทำให้ดูแล้วจะปวดหัวพอสมควร แต่ด้วยความที่มีความละเอียดถึง 8K ทำให้สามารถเก็บรายละเอียดได้คมชัดมากว่าปกติ แถมยังสามารถเอาไปครอปทำเป็นภาพนิ่งได้ง่ายอีกด้วย (8K Video Snap)

    ในการบันทึกด้วยความละเอียด 4K 60FPS / 30FPS นั้นไม่ว่าจะเป็นกล้องหน้าหรือกล้องหลังก็สามารถทำได้ทั้งสองรุ่น โดยในเรื่องของระบบกันสั่นไหวนั้นนับว่าทำออกมาได้ดีทั้งคู่ แต่ว่าในเรื่องของความลื่นไหลของการโฟกัสใน iPhone 12 Pro จะมีความเนียนตากว่า รวมถึงการวัดแสงที่ไม่วูบวาบด้วย ทว่าเรื่องความสว่างพื้นฐานของตัววิดีโอนั้นทาง Samsung ​จะทำออกมาได้ดีกว่า ดูเป็นธรรมชาติมากกว่า

    สำหรับการบันทึกวิดีโอด้วยความละเอียดระดับ Full HD 60FPS / 30 FPS นั้น โดยพื้นฐานแล้วจะไม่ค่อยต่างจากตอนบันทึกแบบ 4K แต่ทว่าสำหรับ Samsung​ นั้นจะมีโหมดพิเศษที่ชื่อว่า Super steady ที่จะช่วยเพิ่มความนิ่งให้กับตัววิดีโอ ด้วยการใช้งานทั้ง OIS และ EIS พร้อมกัน ถึงแม้จะมีข้อจำกัดที่ทำให้บันทึกได้แค่ความละเอียด Full HD เท่านั้นก็ตาม แต่ไม่ว่าภาพจะสั่นแค่ไหนก็นิ่งได้ เหมาะกับการถ่ายวิดีโอที่เคลื่อนไหวเร็ว ๆ เช่น ถ่ายตอนเล่นกีฬา หรือ Surf Skate เป็นต้น

    อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ Samsung มีก็คือการบันทึกวิดีโอแบบ HDR10+ (iPhone บันทึกแบบ HDR Dolby Vision)​ ซึ่งตัวไฟล์วิดีโอ​ที่ได้นั้นจะเป็นไฟล์แบบ HDR10+ หรือวิดีโอแบบ 10-bit จริง ๆ เมื่อเอาไฟล์มาดูนอกเครื่องแล้วสีภาพจะซีดมาก ๆ ทำให้จำเป็นต้องเอาไปแต่งสีเพิ่ม ในกรณีที่หน้าจอทีวี หรือคอมพิวเตอร์ไม่รองรับ HDR และการจะบันทึกแบบ HDR10+ นั้นจะสามารถบันทึกได้แค่ที่ความละเอียดระดับ Full HD เท่านั้น​ แต่ถ้าเป็นการถ่าย 4K HDR แล้วเปิดบนหน้าจอที่รองรับ HDR จะได้ช่วงไดนามิกที่กว้าง สีสัน และรายละเอียดที่สมจริงเป็นอย่างมาก

    ส่วนของ iPhone นั้นจะต้องเข้าไปทำการเปิดการบันทึกแบบ HDR เสียก่อนถึงจะบันทึกได้ หลังจากนั้นไม่ว่าจะบันทึกแบบไหนหรือตอนไหนไฟล์ก็จะเป็น HDR ทั้งหมด


    โดยรวมแล้วในเรื่องการบันทึกวิดีโอนั้นหากอยากได้ความสามารถแบบโปรหรือลูกเล่นเยอะ ๆ ไม่ต้องเหนื่อยคนถือกล้องมากนัก Samsung Galaxy S21+ 5G ดูจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า ด้วยฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย ในขณะที่ iPhone 12 Pro นั้นถึงแม้จะสามารถบันทึกวิดีโอระดับ 4K ได้ทุกเลนส์ แต่ก็จำเป็นต้องใช้ฝีมือคนถ่ายอยู่พอสมควรเลย


    สรุปการเปรียบเทียบกล้อง Samsung Galaxy S21+ 5G vs iPhone 12 Pro

    ภาพรวมสำหรับกล้องของ Samsung Galaxy S21+ 5G จะออกแนวใช้งานได้หลายหลายสถานการณ์มากกว่า iPhone 12 Pro แต่ทว่าหากพูดถึงการใช้งานในชีวิตประจำวันแล้วก็ไม่ค่อยจะแตกต่างกันสักเท่าไร ทั้งหมดขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวล้วน ๆ

    แต่หากเป็นงานที่ต้องใช้รูปอย่างรวดเร็วเช่นถ่ายแล้วอัพโหลดขึ้นโซเชียลทันที ไม่เน้นแต่งรูปเพิ่มแล้ว Samsung Galaxy S21+ 5G จะได้เปรียบกว่าเพราะ AI เครื่องแต่งมาให้เสร็จแล้วนั่นเอง

    iPhone 12 Pro Samsung Galaxy S21 Plus
    Share. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    ACHI-SP

    Related Posts

    รวมโปรย้ายค่าย AIS ย้ายค่ายเบอร์เดิม AIS ปี 2568 เน็ตไม่ลดสปีด และเน็ตเต็มสปีดคุ้มๆ แบบรายเดือนเริ่มต้น 399 บาท

    22 พฤษภาคม 2025

    สเปค Infinix GT 30 Pro มือถือเกมมิ่งพร้อมชิป Dimensity 8350 Ultimate ราคาเริ่มต้นประมาณ 9,990 บาท

    21 พฤษภาคม 2025

    แนะนำ 10 เครื่องดูดความชื้น ยี่ห้อไหนดีในปี 2025 ตัวช่วยลดปัญหากลิ่นอับ และเชื้อราในบ้าน

    21 พฤษภาคม 2025

    Comments are closed.

    หัวข้อทั้งหมด

    รวมโปรย้ายค่าย AIS ย้ายค่ายเบอร์เดิม AIS ปี 2568 เน็ตไม่ลดสปีด และเน็ตเต็มสปีดคุ้มๆ แบบรายเดือนเริ่มต้น 399 บาท

    22 พฤษภาคม 2025

    Q1’25 ตลาดหูฟังไร้สายยังโตต่อเนื่อง AirPods ยังครองเบอร์ 1 ส่วนแบ่งตลาด

    22 พฤษภาคม 2025

    ผล AnTuTu ชิป XRing O1 ใน Xiaomi 15S Pro มาแล้ว เฉือน SD8 Elite

    22 พฤษภาคม 2025

    สเปค Infinix GT 30 Pro มือถือเกมมิ่งพร้อมชิป Dimensity 8350 Ultimate ราคาเริ่มต้นประมาณ 9,990 บาท

    21 พฤษภาคม 2025

    มือถือรุ่นยอดนิยม

    Honor X7

    Honor X7

    6,299 บาท
    Honor X8

    Honor X8

    7,999 บาท
    Honor X9

    Honor X9

    9,299 บาท
    HTC Desire 22 Pro

    HTC Desire 22 Pro

    0 บาท
    Huawei Nova 10 Pro

    Huawei Nova 10 Pro

    24,990 บาท
    ดูมือถือทั้งหมด
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

    ยอมรับ
    X