เมื่อคืนที่ผ่านมา Apple ได้จัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่บางส่วนประจำช่วงปลายปี ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือบริการ Apple One ที่ไอเดียหลักคือการรวมศูนย์การสมัครเพื่อใช้บริการต่าง ๆ ของ Apple ให้อยู่ในที่เดียว จ่ายครั้งเดียวสามารถใช้งานได้ทั้งหมด ซึ่งในบทความนี้เราจะมาดูกันครับว่า Apple One คืออะไรกันแน่ มีอะไรให้ใช้งานบ้าง รวมถึงราคาและวิธีการสมัครในประเทศไทยด้วย
บริการ Apple One คืออะไร?
ที่ผ่านมา Apple มีบริการออนไลน์ให้ได้ใช้งานทั้งแบบฟรี เช่น iCloud ความจุ 5 GB และก็แบบเสียเงินรายเดือน เช่น Apple Music สำหรับฟังเพลง Apple Arcade สำหรับเล่นเกมที่ไม่มีใน App Store หลัก Apple TV+ สำหรับดูหนัง ดูซีรีส์ที่ลงเฉพาะแพลตฟอร์มของ Apple โดยเฉพาะ รวมถึง Apple News+ สำหรับอ่านข่าว นิตยสาร ซึ่งส่วนใหญ่นั้นก็เปิดให้บริการให้ใช้ได้ในไทยแทบทั้งนั้น
แต่จุดที่ทำให้มันไม่สะดวกก็คือ การบริการแต่ละอย่างจะคิดเงินแยกออกจากกัน ซึ่งนอกจากจะวุ่นวายในการจัดการบัญชีแล้ว มันยังค่อนข้างเป็นการยากที่จะทำให้คนหันมาลองใช้บริการอื่น ๆ ที่ตนเองไม่เคยใช้ด้วย เนื่องจากอาจต้องเสียเงินเพิ่ม หรือพอพ้นช่วงลองใช้งานฟรีแล้วคนก็ยกเลิกบริการไปเลย เป็นต้น
จึงได้เกิดเป็นชุดบริการ Apple One ขึ้นมา ทำให้ผู้ใช้งานจ่ายเงินแบบเหมารวมแพ็คเกจในจุดเดียว แล้วสามารถใช้บริการต่าง ๆ ดังนี้ได้ทั้งหมด
- Apple Music
- Apple TV+
- Apple Arcade
- Apple News+ (ยังไม่เปิดในไทย)
- Apple Fitness+ (ยังไม่เปิดในไทย)
- พื้นที่เก็บข้อมูลบน iCloud
Apple One ราคาเท่าไหร่?
บริการ Apple One จะมีการแยกแพ็คเกจให้ผู้ใช้งานได้เลือกตามจำนวนผู้ใช้งาน และประเภทของบริการที่ต้องการใช้งาน ได้แก่
- แพ็คสำหรับใช้งานคนเดียว (Individual) = Music + TV+ + Arcade + iCloud 50GB ราคาเดือนละ $14.95 (ประมาณ 470 บาท)
- แพ็คสำหรับครอบครัว (Family) = Music + TV+ + Arcade + iCloud 200GB ราคาเดือนละ $19.95 (ประมาณ 625 บาท)
- แพ็คท็อปสุด (Premier) = Music + TV+ + Arcade + News+ + iCloud 2TB + Fitness+ ราคาเดือนละ $29.95 (ประมาณ 940 บาท)
ส่วนราคา Apple One ในไทยจะเป็นตามนี้ครับ
- แพ็คสำหรับคนเดียว (Individual) ราคา 225 บาทต่อเดือน
- แพ็คสำหรับครอบครัว (Family) ราคา 295 บาทต่อเดือน แชร์ได้สูงสุด 6 คน (ตัวเอง + สมาชิกอีก 5)
จะเห็นว่าราคาแพ็คเกจในไทยนั้นถูกกว่าราคาเปิดตัวในสหรัฐฯ มาก ๆ โดยเฉพาะแพ็คสำหรับครอบครัวที่หารเฉลี่ยแล้วจ่ายต่ำสุดแค่คนละ 50 บาทต่อเดือนเท่านั้นเอง ซึ่งถ้าแยกบริการแต่ละส่วนออกมา ก็จะเห็นว่าถ้าเราใช้งานมากกว่า 1 บริการขึ้นไป การเลือกซักแพ็คเกจในบริการใหม่นี้จะคุ้มกว่ากันมากทีเดียว แถมยังบริหารจัดการได้ง่ายกว่ามากด้วย
- Apple Music ราคาเดือนละ $9.99 ในไทย 129 บาท
- Apple TV+ ราคาเดือนละ $4.99 ในไทย 99 บาท
- Apple Arcade ราคาเดือนละ $4.99 ในไทย 99 บาท
- Apple News+ ราคาเดือนละ $9.99 ยังไม่เปิดบริการในไทย
- Apple Fitness+ ราคาเดือนละ $9.99 ยังไม่เปิดบริการในไทย
- iCloud (50GB 35 บาท/เดือน กับ 200GB 99 บาท/เดือน)
แต่ก็น่าเสียดายนิดนึงที่ผู้ใช้งานในไทยน่าจะไม่สามารถสมัครแพ็คระดับ Premier ได้ เนื่องจากบริการ News+ และ Fitness+ ยังไม่เปิดให้ใช้งานในไทยนั่นเอง
สมัคร Apple One ยังไง? จ่ายเงินแบบไหน?
Apple เผยในงานเปิดตัวว่า แพ็คเกจ Apple One จะเริ่มเปิดให้ใช้งานภายในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ (ตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน ไปจนถึงปลายปีนี้) ซึ่งการจ่ายเงินก็จะเป็นรูปแบบที่คุ้นเคย คือตัดผ่านบัตรเครดิตที่ผูกกับ Apple ID เอาไว้
ส่วนผู้ใช้งานในไทย อาจจะต้องรอกันซักนิดนึง คาดว่าอย่างเร็วน่าจะได้ใช้งานกันภายในปลายปีนี้ ซึ่งก็ต้องลุ้นกันอีกต่อหนึ่งว่าถ้าเปิดใช้งานแล้ว จะมีการเปิดตัว Apple News+ สำหรับผู้ใช้งานในไทยพ่วงมาด้วยเลยหรือเปล่า
ส่วนการทดลองใช้ฟรี ทางเว็บไซต์ Apple ระบุว่า ถ้ามีบริการใดที่อยู่ในแพ็ค Apple One เป็นบริการที่ไม่เคยใช้งานมาก่อนเลย ผู้ใช้จะได้สิทธิ์ทดลองใช้บริการนั้นฟรี 1 เดือน และหลังจากผ่านไป 1 เดือนแล้ว บริการนั้นจะได้รับการต่ออายุอัตโนมัติตามแพ็คเกจรวมที่สมัครไว้
ด้านของการยกเลิกแพ็คเกจนั้น สามารถยกเลิกเมื่อไรก็ได้ ไม่มีข้อผูกมัด ไม่มีสัญญารายปีครับ