เหตุผล 4 ข้อที่ผู้ใช้ Android จะอิจฉาคนใช้ iPhone

Envy

ก็ถือเป็นเรื่องปกตินะครับ ที่ผู้ใช้มือถือ Android กับผู้ใช้ iPhone (iOS) จะถกเถียงกันไปมาว่าระบบปฏิบัติการในฝั่งของตนดีกว่าอีกฝ่ายยังไงบ้าง ซึ่งเท่าที่ผ่านมา ทั้งสองฝั่งเองก็มีการพัฒนา ปรับปรุงฟีเจอร์ การทำงานต่างๆ ให้ดีขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ข้อได้เปรียบ เสียเปรียบบางส่วนหายไป แต่ก็ยังมีบางส่วนหลงเหลืออยู่บ้างเหมือนกัน สำหรับในบทความนี้เราจะมาดูกันครับ ว่ามีเหตุผลอะไรบ้างที่ทำให้ผู้ใช้มือถือ Android ยังคงอิจฉาผู้ใช้งาน iPhone กันอยู่บ้าง โดยเป็นข้อมูลที่ได้จากการสอบถามผู้ใช้งานเว็บบอร์ด Reddit (ลักษณะจะคล้ายๆ กับ Pantip ของไทยเรา) มาดูทีละข้อเลยแล้วกัน

 

1. ระบบการอนุญาตสิทธิ์การเข้าถึงของแต่ละแอพ (Permission)

ในเรื่องนี้ iOS จาก Apple ทำได้ดีกว่ามาตั้งแต่แรกแล้ว กับระบบการอนุญาตให้แต่ละแอพเข้าถึงข้อมูลในเครื่อง เข้าถึงฮาร์ดแวร์ต่างๆ ได้เท่าที่เราต้องการ ดังจะเห็นได้จากเวลาติดตั้งแอพ แล้วเปิดใช้งานครั้งแรก จะมีป๊อปอัพเด้งขึ้นมาถามเรื่อยๆ เช่นว่า

  • จะอนุญาตให้ส่งแจ้งเตือน notification มั้ย?
  • อนุญาตให้ใช้งานกล้องได้มั้ย?
  • อนุญาตให้เปิดดูรูปภาพในเครื่องได้มั้ย?

ซึ่งการขอ permission เหล่านี้ จะค่อยๆ ขึ้นมาตอนที่แอพจะใช้งานหรือเข้าถึงส่วนที่ต้องการนั้นจริงๆ และเมื่อเราอนุญาตแล้ว ครั้งต่อไปแอพก็สามารถใช้งานได้เลยโดยไม่ถามเราอีก

permission

ส่วนฝั่ง Android นั้นก็มีการขอ permission อยู่เหมือนกันครับ แต่เป็นการขอแบบทั้งก้อนทีเดียวตอนติดตั้งแอพ ถ้าอนุญาตก็คืออนุญาตทั้งหมด ถ้าไม่อนุญาต ก็ไม่สามารถติดตั้งแอพได้ตั้งแต่แรกเลย เลยกลายเป็นว่าเราต้องอนุญาตให้แอพเข้าถึงสิทธิ์ต่างๆ ไปโดยปริยาย (ไม่งั้นก็ไม่ได้ใช้แอพซิ)

 

2. ระบบการ backup ที่สมบูรณ์แบบกว่า

อันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ผู้ใช้ Android เรียกร้องมานานพอสมควรละครับ คือการสำรองข้อมูล เพราะฝั่ง iOS นี่เรียกว่าทำได้สมบูรณ์แบบกว่ามาก เนื่องจากสามารถเสียบสายแล้ว backup ข้อมูลทั้งเครื่องเก็บไว้ได้เลย พอเวลา restore เครื่องก็สามารถคืนข้อมูล คืนการตั้งค่าทั้งหมดกลับไปได้แบบไม่ยากนัก เรียกว่าเปิดเครื่องใหม่มา ก็เหมือนกำลังใช้งานเครื่องเก่าต่อ

Screen Shot 2015-03-31 at 12.22.47 PM

ส่วนฝั่ง Android เหมือนจะมีการพัฒนาระบบการสำรองข้อมูลขึ้นมาเรื่อยๆ เหมือนกัน แต่การจะคืนค่าแต่ละครั้งก็ต้องเชื่อมต่อกับ Google Play แล้วโหลดจากเน็ตตลอด มาครบมั่งไม่ครบมั่ง ส่วนพวกข้อมูลในเครื่องนี่บ๊ายบายได้เลย นอกจากจะสำรองเก็บไว้ที่อื่น แล้วค่อยมาเอาลงเครื่องอีกรอบทีหลัง หรือถ้าอยากสำรองข้อมูลทั้งเครื่องก็ต้องหาแอพอื่นมาทำงานแทน ไม่สะดวกเหมือน iOS ที่รองรับอยู่แล้วในตัว

 

3. การอัพเดตเวอร์ชันที่รวดเร็ว ไม่โดนลอยแพง่ายๆ

ปัญหาข้อนี้สำหรับฝั่ง Android คงแก้ได้แค่เปลี่ยนไปใช้มือถือในตระกูล Nexus แทนล่ะนะครับ เพราะเป็นปัญหามาตั้งแต่ปรัชญาของ Android เลย ที่เปิดให้ผู้ผลิตได้ปรับแต่งรอม เสริมนู่นนี่นั่นเพื่อสร้างจุดแข็งให้มือถือของตนเองได้ ทีนี้เวลาจะอัพเดตเวอร์ชันแต่ละที ก็กลายเป็นว่าผู้ผลิตต้องมาคอยปรับจูนรอม ยัดนู่นนี่นั่นเข้าไป ก็ยิ่งเสียเวลาเข้าไปอีก ยังไม่รวมถึงเรื่องฮาร์ดแวร์ร้อยแปดพันเก้าที่ผู้ผลิตต้องรับหน้าที่ปรับรอมให้เข้ากับแต่ละสเปคอีก เลยกลายเป็นทำให้การอัพเดตเวอร์ชันของมือถือ Android แต่ละรุ่นเป็นไปได้ช้า เผลอๆ พวกเครื่องรุ่นราคาไม่สูงมากนี่แทบจะแถมแพไปเลย โอกาสที่จะได้รับการอัพเดตมีน้อย เพราะผู้ผลิตคงเล็งแล้วว่าไม่คุ้มที่จะเสียเวลาทำรอมให้โดยเฉพาะอยู่

Screen Shot 2015-03-31 at 12.38.58 PM

กลับกันกับฝั่ง iOS ที่ Apple เป็นผู้ควบคุมเองทั้งหมด ไล่ตั้งแต่ฮาร์ดแวร์ที่ไม่มีรุ่นมากนัก เลือกเจาะจงสเปคเอง รวมถึงด้านซอฟต์แวร์ Apple ก็ทำเองอีกเช่นกัน ทำให้การอัพเดตเป็นไปได้ง่ายกว่าและรวดเร็ว ดังจะเห็นได้จากพอ Apple ปล่อยอัพเดตตัวใหม่มา เครื่องที่สามารถอัพเดตได้ก็กดอัพได้ทันที แถมยังมีการันตีด้วยว่าเครื่องแต่ละรุ่นจะได้รับอัพเดตไปไม่ต่ำกว่า 2 ปีแทบทั้งนั้น ดูตัวอย่างเช่น iPad 2 ที่ตอนนี้ยังอัพเดตเป็น iOS 8 ตัวใหม่ล่าสุดได้อยู่เลย ขนาดเครื่องออกมาตั้งเกือบ 4 ปีแล้วแท้ๆ

 

4. แอพกล้องที่ถ่ายภาพได้ดีในระดับที่เชื่อใจได้

สำหรับเรื่องฮาร์ดแวร์ อันนี้ดูเหมือนว่ามือถือ Android หลายๆ รุ่นจะดีแซง iPhone ไปแล้ว ไม่ว่าจะเรื่องความละเอียดภาพ เทคโนโลยี เซ็นเซอร์รับภาพ แต่ภาพถ่ายที่ออกมากลายเป็นว่าดูไม่ค่อยจะสวยเหมือนภาพจากกล้อง iPhone ซะอย่างนั้น อันนี้มันเกิดขึ้นจากอีกปัจจัยหนึ่งครับ นั่นคือส่วนของซอฟต์แวร์และระบบประมวลผลภาพ ซึ่งตรงนี้ iPhone ถือว่าทำได้ดีกว่ามือถือ Android หลายรุ่นอยู่เหมือนกัน (แม้กระทั่งกับรุ่นท็อปก็ตาม) ขนาดว่าใช้แค่แอพกล้องติดเครื่อง ถ้าจัดภาพ จัดแสงให้โอเคซะหน่อย ภาพที่ออกมายังจัดว่าสวย เอาไปใช้แชร์ได้แบบแทบไม่ต้องแต่งภาพเพิ่มเลยก็ยังไหว แต่จากกล้องของมือถือ Android บางรุ่น ภาพที่ออกมาดูฟุ้งบ้าง สีซีดบ้าง ต้องมานั่งแต่งเพิ่มอีกนิดๆ หน่อยๆ แถมบางทีต้องมาปรับค่ากล้องก่อนถ่ายตั้งมากมาย ทั้งที่ดูจากสเปค ภาพมันควรจะออกมาสวยเลยได้แล้ว

Review-Sony-Xperia-Z3-SpecPhone 022

ซึ่งในช่วงหลังๆ เราก็ได้เห็นมือถือ Android พัฒนาคุณภาพของกล้องแบบจริงๆ จังๆ ขึ้นมาแล้ว อย่างที่เราได้เห็นในพวก Samsung Galaxy S และ Note รุ่นท็อปที่กล้องจัดว่าดีเลย โดยเฉพาะในส่วนของแอพและการประมวลผลภาพ ก็หวังว่าแบรนด์อื่นๆ จะทำได้ดีขึ้นมาด้วยนะ

ที่มา: BGR

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก