ทุกวันนี้ ถ้าหากเราต้องการใช้งานแอพ Android บนเครื่องคอมพิวเตอร์พีซี ตามปกติแล้ววิธีที่ง่ายที่สุดก็คือการใช้งานผ่านโปรแกรม BlueStacks ซึ่งจะจำลองระบบปฏิบัติการ Android ขึ้นมาให้เราได้ใช้งานแอพ Android ตามที่ต้องการ แต่เนื่องด้วยมันเป็นการจำลองทรัพยากรขึ้นมา (Virtualization) ซึ่งจะต้องไปแบ่งมาจากทรัพยากรฮาร์ดแวร์หลักของเครื่อง ทำให้มันไม่สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ จึงทำให้เป็นเรื่องไม่ค่อยสะดวกเท่าไรสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องใช้แอพ Android บนพีซี
ในงาน CES 2014 ครั้งนี้ ดูเหมือนเราจะได้เห็นอีกหนึ่งแนวทางแก้ป้ญหาดังกล่าวได้ชัดเจนขึ้นแล้วครับ เมื่อ AMD ผู้ผลิตชิปประมวลผลชื่อดังได้ประกาศจับมือเป็นพันธมิตรกับ BlueStacks เพื่อทำให้การรันแอพ Android บน Windows เป็นเรื่องง่าย และยอดเยี่ยมมากยิ่งขึ้น โดยในเรื่องนี้ Rosen Sharma ซีอีโอของ BlueStacks ได้ให้สัมภาษณ์เปิดเผยข้อมูลหลายอย่างทีเดียว ประเด็นที่น่าสนใจก็คือเทคโนโลยีชิปประมวลผลยุคต่อไปของ AMD ที่จะมีการใส่ชิปประมวลผลตระกูล ARM ที่ใช้กันในมือถือ แท็บเล็ต เข้าไปบรรจุอยู่ในชิปประมวลผลตระกูล x86 สำหรับคอมพิวเตอร์ทั่วไปด้วย ซึ่งส่วนของชิป ARM นี้ จะมีหน้าที่ในการประมวลผลโค้ดจากแอพ Android โดยตรง ซึ่งก็หมายความว่าต่อไป เราจะสามารถรันแอพ Android ในลักษณะของ Native code บน Windows ได้โดยตรงเลย ต่างจากในปัจจุบันที่ถึงแม้โปรแกรม BlueStacks จะรันแอพหลายๆ ตัวได้ แต่ก็ต้องผ่านการจำลองและประมวลผลเพื่อให้เข้ากับระบบ x86 ก่อน ซึ่งเปลืองแรง เปลืองพลังงานกว่าแบบ Native code มาก
ซึ่งการลดกระบวนการทำงานดังที่กล่าวไปข้างต้น จะช่วยให้เราสามารถใช้งานแอพ Android บน Windows ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยให้อัตราการใช้พลังงานโดยรวมของระบบลดลง เพราะชิป ARM กินไฟน้อยมากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว นอกจากนี้ Sharma ยังเผยอีกด้วยว่าทาง BlueStacks เองก็กำลังร่วมมือกันพัฒนาในด้านนี้กับ Microsoft อย่างใกล้ชิด ด้วยจุดประสงค์ที่อยากทำให้การรันแอพ Android บน Windows เป็นเรื่องง่ายที่สุด จนถึงขั้นอยากให้มันสามารถรันเป็นหน้าแต่งแอพแยกออกมาอิสระ ทำงานได้บนหน้าจอ Start Screen ของ Windows 8 ในลักษณะใกล้เคียงกับการเป็นโปรแกรมสำหรับ Windows โปรแกรมหนึ่งเลยทีเดียว เพราะสิ่งที่เขาต้องการก็คือลดความสับสนระหว่างแอพแต่ละแพลตฟอร์มของผู้ใช้งานให้ได้ โดยเฉพาะ 3 รูปแบบหลักคือโปรแกรม Desktop, แอพ Metro (WinRT) และแอพ Android
เจอแนวทางแบบนี้ ไม่รู้ว่าลึกๆ แล้ว Microsoft จะดีใจหรือเปล่านะครับ เพราะเหมือนมันจะมาแย่งตลาดจากแอพ WinRT ใน Windows Store อยู่เหมือนกันนะ
ที่มา: The Verge?