Close Menu
    Facebook X (Twitter) YouTube TikTok
    SpecPhone
    • ข่าวล่าสุด
    • รีวิว
    • ค้นหามือถือ
    • วิดีโอ
    • บทความ
    • ติดต่อเรา
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)
    SpecPhone
    Home»iOS Platform»Touch ID ตัวช่วยที่ทำให้ใช้งาน iPhone 5s สะดวกขึ้นจริง แบบไม่ได้โม้ !
    iOS Platform

    Touch ID ตัวช่วยที่ทำให้ใช้งาน iPhone 5s สะดวกขึ้นจริง แบบไม่ได้โม้ !

    ZeroSystemBy ZeroSystem5 พฤศจิกายน 2013
    Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    Share
    Facebook Twitter LinkedIn Pinterest Email

    ไฮไลท์หนึ่งของ iPhone 5s ที่ถือว่าเป็นการเปิดตัวเทคโนโลยีครั้งแรกของฝั่ง Apple ก็คือการใส่เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเข้ามาในปุ่มโฮม ซึ่งมีชื่อเรียกเทคโนโลยีนี้รวมๆ กันว่า Touch ID โดยตัว Touch ID นี้มีจุดประสงค์ก็คือช่วยรักษาความปลอดภัยให้กับข้อมูลในเครื่อง iPhone 5s ให้มีความแน่นหนามากกว่าระบบรหัสผ่านแบบเดิม แต่นอกเหนือจากจะช่วยในด้านความปลอดภัยแล้ว ยังถูกออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้กับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันด้วย ในบทความนี้จะถือเป็นส่วนเสริมรีวิว iPhone 5s ที่เราได้รีวิวไปแล้วก่อนหน้านี้ เพื่อพูดถึงประเด็น Touch ID โดยเฉพาะกันครับ จะถือซะว่าเป็นรีวิว Touch ID ก็พอได้อยู่

    ฮาร์ดแวร์ Touch ID

    ตัวของเซ็นเซอร์ Touch ID จะถูกผังเอาไว้ในปุ่มโฮม โดยที่ผิวสัมผัสของปุ่มโฮม iPhone 5s จะกลายเป็นแผ่นเรียบๆ จากเดิมที่ปุ่มโฮมจะโค้งรับกับปลายนิ้ว ทำให้หลายคนอาจจะไม่ชินกับผิวปุ่มในช่วงแรกๆ อยู่บ้าง ส่วนขอบปุ่มก็จะมีลักษณะเป็นกรอบเงาลักษณะคล้ายกับสันขอบเครื่องครับ ดูแล้วก็สวยงามดี แต่ถ้าเป็น iPhone 5s สีทองจะสวยกว่านี้มาก เพราะตัวปุ่มเป็นสีขาว ส่วนขอบเป็นสีทอง ส่วนสีดำก็ดูกลืนๆ ไป สุขุมนุ่มลึกไปอีกแบบ

    ระบบด้านฮาร์ดแวร์ของ Touch ID จะประกอบด้วยส่วนหลักๆ 2 ส่วนคือตัวเซ็นเซอร์ Touch ID ที่ปุ่มโฮมที่จะสแกนลายนิ้วมือเรา กับอีกส่วนคือชิปพิเศษในชิปประมวลผล Apple A7 ที่ถูกออกแบบมาให้เก็บข้อมูลและจัดการเกี่ยวกับระบบ Touch ID โดยเฉพาะ การเก็บข้อมูลลายนิ้วมือจึงไม่ได้ใช้หน่วยความจำตามปกติในเครื่อง เพื่อช่วยป้องกันการขโมยข้อมูลลายนิ้วมือออกไปได้ระดับหนึ่ง อีกทั้งการที่มีชิปทำหน้าที่เกี่ยวกับระบบ Touch ID โดยเฉพาะเช่นนี้ ก็จะช่วยให้ไม่รบกวนการทำงานของชิป A7 ตัวหลักที่ประมวลผลงานประจำอยู่แล้ว นับว่าเป็นการลดภาระของเครื่องไปได้ เพราะการจะใช้งานการสแกนลายนิ้วมือต้องใช้ความเร็วในการอ่านลายนิ้วมือและการเทียบข้อมูลที่ได้รับการข้อมูลลายนิ้วมือที่เก็บเอาไว้ในระบบ ดังนั้นการใช้ชิปส่วนพิเศษที่ออกแบบมาเฉพาะทางย่อมจะดีที่สุด ซึ่ง Apple เองก็ใช้การออกแบบลักษณะนี้เช่นเดียวกับชิปประมวลผล M7 ซึ่งใส่มาใน iPhone 5s (รวมถึง iPad Air และ iPad mini with Retina Display ด้วย)

    ซอฟต์แวร์ Touch ID

    หลังจากชมฮาร์ดแวร์ระบบ Touch ID ไปแล้ว ก็มาดูเรื่องซอฟต์แวร์ที่จัดว่าใกล้ชิดกับตัวเรามากที่สุดกันบ้าง โดยผู้ใช้งานสามารถตั้งค่า Touch ID ให้สแกนลายนิ้วมือของเราเก็บไว้ได้ตั้งแต่ขั้นตอนการตั้งค่าเครื่องครั้งแรกเลย แต่ถ้าใครไม่พร้อม ก็สามารถข้ามมาก่อน แล้วค่อยมาตั้งทีหลังก็ได้ครับ

    โดยการตั้งค่า Touch ID ก็ให้เราเข้าไปที่ Settings > General > Touch ID & Passcode ซึ่งการจะตั้งค่า Touch ID เราจำเป็นจะต้องตั้งรหัสผ่าน (Passcode) ด้วย ดังนั้นก่อนอื่นเราจำเป็นจะต้องตั้งรหัสผ่านเข้าเครื่องก่อน เมื่อตั้งค่าเสร็จแล้ว เมนู Touch ID ถึงจะเปิดให้เราใช้งานได้

    ในหน้าจอนี้จะสังเกตว่าส่วนบนมีตัวเลือกให้เราเลือกด้วยว่าจะให้ Touch ID ใช้ในการทำอะไรได้บ้าง โดยในขณะนี้ก็มีเพียงแค่ปลดล็อคหน้าจอกับใช้แทนรหัสผ่านเพื่อซื้อแอพใน App Store หรือเนื้อหาใน iTunes Store ได้เลย ทำให้เราแทบไม่จำเป็นต้องกรอกรหัสผ่าน Apple ID เลย

    เมื่อเข้ามาหน้าจอของฟีเจอร์ Touch ID แล้ว (รูปขวา) ก่อนอื่นก็ให้เราเพิ่มลายนิ้วมือเข้าไปก่อน จากเมนู Add a Fingerprint ที่เป็นสีฟ้า พอเข้าไปแล้วก็จะเป็นขั้นตอนให้เราสแกนลายนิ้วมือ ซึ่งจะมีขั้นตอนบอกในช่วงแรกๆ ว่าให้เราวางนิ้วลงไปบนปุ่มโฮม (แค่วางนะครับ ไม่ต้องกด) พอมันอ่านเสร็จก็ให้ยกนิ้วขึ้น แล้ววางใหม่ แล้วยกขึ้นซัก 2-3 รอบ หลังจากนั้นจะมีข้อความบอกให้เราวางนิ้วเดียวกันมุมอื่นๆ ลงบนปุ่มโฮมบ้าง ซึ่งช่วงนี้บนหน้าจอจะไม่เตือนนะครับว่าให้ยกนิ้วขึ้นหรือวางนิ้วลงไป แต่ให้เราสังเกตลายเส้นสีชมพูบนรูปนิ้ว ที่จะวิ่งไปเรื่อยๆ ก็ให้เราสแกนนิ้วเดิมหลายๆ มุมเพื่อให้ระบบเก็บข้อมูลนิ้วเราให้ได้มากที่สุด สแกนไปจนลายเส้นสีชมพูวิ่งขึ้นมาเต็มรูปลายนิ้วมือ เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้เราสามารถเพิ่มลายนิ้วมือได้สูงสุด 5 นิ้วด้วยกัน ส่วนตัวผมก็ใช้แค่นิ้วหัวแม่มือทั้งซ้ายขวา และนิ้วชี้ข้างขวาเท่านั้นเอง ส่วนการใช้อวัยวะอื่นๆ ผมไม่ได้ลองนะครับ เพราะเท่าที่ทดลองใช้ข้อนิ้วมือ ปรากฏว่าระบบสแกนไม่ได้นะ

    การใช้งาน Touch ID

    วิธีการใช้งาน Touch ID นั้นก็ไม่อยากครับ อย่างถ้าจะปลดล็อคหน้าจอก็เพียงแค่เปิดหน้าจอขึ้นมา จากนั้นก็เอานิ้ววางไว้บนปุ่มโฮมเท่านั้นเอง โดยส่วนตัวผมก็ใช้วิธีการกดปุ่มโฮม จากนั้นก็ปล่อยปุ่มเด้งกลับขึ้นมา ในขณะที่ยังวางนิ้วไว้บนปุ่มอยู่ รอซักพักหน้าจอก็จะเปลี่ยนเป็นหน้าโฮมแล้ว ใช้เวลาประมาณ? 1 วินาทีหรือเร็วกว่าเล็กน้อย ถ้าวางนิ้วไม่ตรงก็จะมีข้อความแจ้งมาว่าให้ลองใหม่อีกครั้ง (Try again) แต่รวมๆ แล้วการสแกนและอ่านข้อมูลสามารถทำได้เร็วและแม่นยำมากๆ ช่วยในการใช้งานให้ทำได้สะดวกขึ้นจริงๆ อย่างที่ Apple โม้เอาไว้

    แต่ทั้งนี้ถ้าหากเราจำเป็นต้องให้คนอื่นใช้งานเครื่องร่วมกับเราด้วย แต่ไม่อยากเพิ่มลายนิ้วมือเข้าไปในระบบ Touch ID ก็สามารถทำได้โดยการใช้รหัสปลดล็อคเครื่องตามปกติครับ วิธีการเปลี่ยนมาใช้การกรอกรหัสผ่านก็แค่เลื่อนหน้าจอที่ล็อคอยู่ไปทางขวา ก็จะมีหน้าจอให้กรอกรหัสผ่านตามปกติแล้ว

    ข้อสังเกตอีกอย่างหนึ่งของระบบ Touch ID ก็คือหลังจากที่เราปิดแล้วเปิดเครื่องขึ้นมา ครั้งแรกที่จะปลดล็อคหน้าจอหรือซื้อแอพซื้อเนื้อหาจาก App Store กับ iTunes Store เราจำเป็นจะต้องกรอกรหัสผ่านก่อน แต่หลังจากกรอกในครั้งแรกไปแล้ว ก็จะสามารถใช้ลายนิ้วมือแทนได้ตามปกติ

    ส่วนด้านบนนี้เป็นภาพการกดโหลด/ซื้อแอพจากใน App Store ที่ตามปกติแล้วเราจะต้องกรอกรหัสผ่าน Apple ID ก่อน จึงจะสามารถดาวน์โหลดแอพได้ แต่ใน iPhone 5s ที่มีระบบ Touch ID จะมีป๊อปอัพมาให้เราทำการสแกนนิ้วแทน วิธีการสแกนนิ้วก็แค่วางนิ้วที่เราบันทึกข้อมูลลงบนปุ่มโฮมเท่านั้นครับ หรือถ้าจะใช้การกรอกรหัสผ่านตามปกติก็เลือกที่ข้อ Enter Password ได้เลย

    สรุปการใช้งาน Touch ID

    จากเท่าที่ใช้งาน Touch ID บน iPhone 5s มา ส่วนตัวผมคิดว่ามันช่วยอำนวยความสะดวกการใช้งานได้จริงๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็นการปลดล็อคหน้าจอหรือจะเป็นการซื้อแอพซื้อเพลง ที่แทบจะไม่ต้องมานั่งกรอกรหัสผ่านอีกต่อไป ที่เห็นผลชัดที่สุดก็คือการปลดล็อคหน้าจอครับ ทำให้ไม่ต้องมาเลื่อนหน้าจอหรือกรอกรหัสผ่านเลย เพียงแค่กดปุ่มโฮมเพื่อเปิดจอ ปล่อยปุ่มเด้งขึ้นแล้วก็วางนิ้วค้างไว้ เพียงเท่านี้หน้าจอ iPhone 5s ก็พร้อมใช้งานแล้ว

    แต่ตัว Touch ID ก็ยังมีข้อที่ยังน่าจะมีการเพิ่มเติมอยู่ เช่นตัวปุ่มโฮมที่ไหนๆ ก็มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแล้ว ก็น่าจะเพิ่มฟังก์ชันการกลับหน้าโฮมมาให้ด้วย เช่นเดียวกับปุ่มโฮมแบบสัมผัสของสมาร์ทโฟน Android ซึ่งน่าจะช่วยอำนวยความสะดวกพร้อมกับลดจำนวนครั้งการกดปุ่มโฮมลงไปได้ไม่น้อยเลย คงจะเหมาะกับหลายคนที่อยากถนอมสภาพปุ่มโฮมไว้แน่ๆ อีกอย่างที่น่าสนใจก็คือแนวโน้มในอนาคตของ Apple ว่าจะเปิดให้ผู้พัฒนาแอพพลิเคชันรายอื่นสามารถเข้าถึงและใช้งานระบบ Touch ID ได้หรือเปล่า และจะได้ขนาดไหน เพราะดูแล้วน่าจะสามารถนำไปประยุกต์ใช้งานรูปแบบอื่นได้บ้างแน่ๆครับ

    iPhone 5S Phone Review
    Share. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    ZeroSystem

    Related Posts

    เปลี่ยนหน้าจอไอโฟนราคาเท่าไหร่ปี 2025 และราคาเปลี่ยนกระจกหลังไอโฟนราคาล่าสุดเท่าไหร่บ้าง

    20 พฤษภาคม 2025

    เปลี่ยนแบตไอโฟนราคาเท่าไหร่ในปี 2025 เปลี่ยนแบตไอโฟนทุกรุ่นล่าสุดเท่าไหร่บ้าง เช็คได้เลย!

    20 พฤษภาคม 2025

    วิธีเปลี่ยนรหัสเฟสบุ๊คทำยังไง ถ้าลืมรหัสเฟสบุ๊คเก่าต้องทำยังไงบ้างในโทรศัพท์แบบง่ายๆ ปี 2025

    16 พฤษภาคม 2025

    Comments are closed.

    หัวข้อทั้งหมด

    เช็คราคาเปลี่ยนแบต iPad ทุกรุ่นในปี 2025 แต่ละรุ่นมีราคาแบตและค่าบริการเท่าไหร่ เปลี่ยนที่ไหนได้บ้างเช็คเลย!

    23 พฤษภาคม 2025

    แนะนำ 10 โทรศัพท์เล่นเกมไม่เกิน 10000 บาทปี 2025 สเปคแรง เล่นเกมได้ไหลลื่นในราคาคุ้มๆ

    23 พฤษภาคม 2025

    ทุบสถิติโลก! realme GT 7 ทำลายสถิติ Guinness World Record ดูหนังมาราธอนต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง ไร้สะดุด!

    23 พฤษภาคม 2025

    เปิดตัว Xiaomi 15S Pro และ Pad 7 Ultra ใช้ชิปที่ Xiaomi ออกแบบเองเป็นครั้งแรก

    23 พฤษภาคม 2025

    มือถือรุ่นยอดนิยม

    Honor X7

    Honor X7

    6,299 บาท
    Honor X8

    Honor X8

    7,999 บาท
    Honor X9

    Honor X9

    9,299 บาท
    HTC Desire 22 Pro

    HTC Desire 22 Pro

    0 บาท
    Huawei Nova 10 Pro

    Huawei Nova 10 Pro

    24,990 บาท
    ดูมือถือทั้งหมด
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

    ยอมรับ
    X