ที่ผ่านมา เรามักได้ยินข่าวเรื่องความปลอดภัยของระบบปฏิบัติการบนมือถือกันอยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นข่าวเรื่องการโดนเจาะ ข่าวเรื่องมัลแวร์ ข่าวเรื่องแอพประสงค์ร้ายที่มีให้ผู้ใช้ดาวน์โหลด ซึ่งแนวโน้มความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของ Android และ iOS ที่เป็นสองระบบปฏิบัติการหลักในปัจจุบันต่างก็มีระดับความเสี่ยงพอๆ กัน ฝั่งของ Apple นั้นมักจะมีข่าวโดนเจาะระบบเพื่อทำการ jailbreak อยู่เสมอๆ (ซึ่งการ jailbreak จัดว่าเป็นการเปิดโอกาสและเพิ่มความเสี่ยงให้มัลแวร์เข้าสู่เครื่องได้ง่ายขึ้น) ส่วนฝั่ง Android ก็มักจะเห็นข่าวแอพไวรัส แอพโทรจันอยู่บน Play Store อยู่เรื่อยๆ สาเหตุก็เพราะ Google ไม่ได้คุมมาตรฐานแอพที่จะขึ้นสู่ Store เข้มเท่ากับ Apple
ล่าสุด Eric Schmidt หนึ่งในบอร์ดบริหาร Google ได้ให้สัมภาษณ์กับนักวิเคราะห์ของ Gartner ในงานสัมมนา Gartner Symposium/ITxpo ในเรื่องเกี่ยวกับ Android เรื่อยมาจนถึงประเด็นเรื่องความปลอดภัยของ Android ที่ตัวผู้สัมภาษณ์บอกว่าเท่าที่สอบถามความเห็นผู้ฟัง พบว่าส่วนใหญ่ไม่อยากใช้งาน Android เป็นหลัก เนื่องมาจากปัญหาด้านความปลอดภัยของระบบที่ช่วงหลังๆ มักจะมีข่าวเชิงลบมาบ่อยครั้ง
Schmidt จึงตอบกลับว่า “ไม่ปลอดภัยเหรอ อย่างน้อยมันก็ปลอดภัยกว่า iPhone แล้วกัน” และเมื่อมีเสียงหัวเราะจากผู้ฟัง Schmidt ก็ย้ำอีกครั้งว่า “Android มันปลอดภัยมาก”
แล้วผู้อ่านล่ะครับ คิดว่า Android กับ iOS ระบบปฏิบัติการตัวไหนปลอดภัยกว่ากัน แต่อันที่จริง ปัจจัยหลักด้านความปลอดภัยก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานด้วย ถ้าผู้ใช้งานไม่ไปปรับแต่งแก้ไขระบบ ไม่ลงแอพสุ่มสี่สุ่มห้า ไม่กดตกลงไปซะทุกอย่าง อ่านก่อนเลือกหรือกดตกลง แค่นี้ก็ช่วยลดปัญหาด้านความปลอดภัยของระบบลงไปได้เยอะแล้วล่ะนะ
ซึ่งอันที่จริงแล้ว แม้ว่า Android จะเป็นระบบปฏิบัติการแบบเปิด แต่ก็อาจจะมีความปลอดภัยที่สูงกว่าแบบปิดได้นะครับ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ Linux ที่เป็นระบบเปิด แต่กลับมีความปลอดภัยและแข็งแกร่งมาก สาเหตุเพราะนักพัฒนาจากทั่วโลกต่างสามารถปรับปรุงแก้ไขระบบให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น และส่งข้อผิดพลาดต่างๆ เพื่อให้เจ้าของ Linux สายพันธุ์นั้นๆ แก้ไขระบบได้ ก็นับว่าเป็นการประยุกต์ข้อดีของระบบเปิดให้เป็นการอุดข้อเสียได้ดี แต่ทั้งนี้ฝั่ง Android อาจจะมีปัญหากว่าตรงเรื่องความหลากหลายของฮาร์ดแวร์มือถือ แม้จะมาจากแบรนด์เดียวกัน แต่ผู้ผลิตแต่ละรายก็ต้องปรับจูนระบบให้เข้ากับเครื่อง เข้ากับประเทศ เข้ากับเครือข่ายอีก ทำให้การแก้ไขบั๊กต่างๆ เป็นไปได้ช้า ผิดจาก Apple ที่ดูแลจัดการระบบอยู่คนเดียว เปิดให้ผู้อื่นดูแลก็แต่การผลิตชิ้นส่วนเท่านั้น จึงสามารถจัดการระบบได้ง่ายกว่า Android
ที่มา: AppleInsider, ZDNet