สำหรับเเบรนด์ Huawei ก็คงไม่ใช่เเบรนด์หน้าใหม่ในเมืองไทยโดยหลายๆ คนก็คงจะพอรู้จักกันบ้างกับ Huawei MediaPad ที่น่าจะถือว่าเป็นตัวเเจ้งเกิดสำหรับเเบรนด์ Huawei ในประเทศไทย เเต่สำหรับไลน์ของสมาร์ทโฟนนั้นก็ถือว่าไม่ได้เเข็งเเกร่งมากนัก โดยเฉพาะในตลาดระดับกลางหรือบนที่ถือว่าเป็นตลาดที่พิสูจน์ว่าเเบรนด์นั้นมีนวัตกรรมหรือศักยภาพเเค่ไหนต่อไปในอนาคต
จุดเเข็งของ Huawei ก็ถือเป็นจุดเด่นตามเเบบฉบับของเเบรนด์จากประเทศจีน ที่เน้นในเรื่องของความคุ้มค่าในเรื่องสเปคเป็นหลักโดยอาจจะมีการเเลกเปลี่ยนในเรื่องขอความสวยงามหรือภาพลักษณ์ไปบ้าง เเต่อย่างที่รู้กันว่าบางรุ่นสวยเเต่รูปจูบไม่หอมก็มี มือถือหน้าตาสวยๆ เเต่ใช้งานหน่วงเเละกระตุกไปก็เท่านั้น ใช้ไปเเล้วหงุดหงิดเปล่าๆ เเต่ Huawei Ascend P1 นั้นมีศักยภาพพอที่จะยืนในตลาดหรือเปล่า ก็ต้องมาดูกันครับ
?
ฮาร์ดเเวร์ : พลาสติกธรรมดาๆ หาได้ทั่วไป
Ascend P1 นั้นตัวเครื่องมีลักษณะเหลี่ยมเป็นส่วนใหญ่ยกเว้นตามมุมที่มีการลดมุมบ้าง โดยวัสดุก็เป็นไปตามเอกลักษณ์ของเเบรนด์จีนทั่วๆ ไปก็ส่วนใหญ่จะไม่เน้นในเรื่องวัสดุมากอยู่เเล้ว เเต่งานประกอบของ Huawei ก็ไม่ถึงกับเเย่มาก ตัวเครื่องเป็นพลาสติกเเบบเงาทั้งหมดเเต่ดูเเล้วจะเห็นรอยได้ไม่ง่ายนัก
ถ้ามองในเเง่ของสเปคเเล้วตัว Ascend P1 ตัวนี้ก็จัดอยู่ในระดับกลางๆ มีสเปคใกล้เคียงกับ Motorola RAZR มาก โดยมีหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 4.3 นิ้ว ความละเอียด 960 x 540 พิกเซล ตัวประมวลผล TI OMAP 4460 เเรม 1 GB รอม 4 GB สามารถเพิ่ม microSD ได้สูงสุด 32 GB กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล กล้องหน้าความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล รองรับ 3G ทุกค่ายเเละเเบตเตอรี่ขนาด 1670 mAh
จุดเด่นของรุ่นนี้อยู่ที่ตัวหน้าจอของเครื่องทีมีสีสันค่อนข้างจัดตามสไตล์ Super AMOLED เเต่การเเสดงสีนั้นไม่ถึงกับเพี้ยน (สีขาวก็เป็นสีขาว ไม่ใช่ขาวอมเขียวหรือขาวอมฟ้า) ทำให้ภาพหรือวีดีโอที่เล่นออกมาสวยงามดี เเต่ถ้าใครชอบสีตามจริงก็อาจจะระคายพอสมควร โดยเฉพาะถ้ารูปหรือวีดีโอที่สีค่อนข้างสดอยู่แล้ว
ตัวเครื่องของ Ascend P1 มีปุ่ม Power อยู่ด้านขวาตามมาตรฐานทั่วไป ปุ่มเพิ่มลดเสียงอยู่บริเวณด้านซ้าย ตัวเครื่องทำออกมาได้บาง (ประมาณ 7 มิล) เเละเบา (น้ำหนักประมาณ 110 กรัม)
โดยสรุปเเล้วในเเง่วัสดุ Huawei Ascend P1 อาจจะไม่ได้ทำให้ประทับใจนัก โดยเป็นพลาสติกเเบบธรรมดาๆ ดีไซน์ก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร เเต่หน้าจอ Super AMOLED ก็เเสดงสีที่ตรงเเละมีคอนทราสที่สูงตามสไตล์ของจอ Super AMOLED ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบามากทำให้ไม่รู้สึกล้าเมื่อต้องถือไปนานๆ
Android 4.0 (เกือบ) Stock
สำหรับ Ascend P1 นี้ก็มากับ Android 4.0 ที่มีการปรับเเต่งมาเล็กน้อยเท่านั้น โดยส่วนใหญ่จะเป็น Widget เเละไอคอนเสียมากกว่า เเต่เรียกว่าอินเตอร์เฟซส่วนใหญ่นั้นกดเข้าไปก็เหมือนกับเราใช้ Stock Android เหมือนกับ Galaxy Nexus ค่อนข้างมาก
นอกจาก Widget นาฬิกาด้านบนเเล้วก็มีปฏิทินเเละตัวเล่นเพลงมาให้ด้วย
?
อย่างหน้าโทรศัพท์เมื่อกดเข้ามาเเล้วก็จะเห็นว่าเป็นเเบบเดิมๆ ไม่ได้ปรับเเต่ง เเละรองรับการเลื่อนซ้ายเลื่อนขวาตามเเบบเดิมด้วย อย่างของบางเจ้าะตัดตรงนี้ไปอย่าง Samsung ทำให้ต้องเอื้อมไปกดด้านบนเเทน ส่วนตัวเเล้วคิดว่าการลากเเบบนี้สะดวกกว่าครับ
Music Player มีการปรับเเต่งเล็กน้อย เเต่ไม่ต่างกับของ Android ดั้งเดิมมากนัก
มีคีย์บอร์ดไทยติดมากับเครื่อง เหมาะสำหรับคนเริ่มใช้เพราะตอนเเรกอาจจะยังไม่รู้ว่าไปหาคีย์บอร์ดไทยมาจากไหน เลย์เอาท์ตามมาตรฐานครับ ถ้าไม่ชอบก็ไปหาตัวโหลดเพิ่มจาก Market ได้เลย
Ascend P1 ก็มีเเอพที่เอาไว้เเบคอัพระบบรวมไปถึงเเอพเเละข้อมูลภายในเเอพด้วย เหมาะไว้สำหรับคนที่อยากจะเเบคอัพเเต่ไม่อยากรูทเพราะจะทำให้หมดประกัน หลังๆ หลายเจ้าก็เริ่มใส่มาให้เเล้วไม่ว่าจะเป็น Sony หรือ Asus สามารถเเบคอัพใส่ SDcard ได้ด้วยเช่นกัน
File Manager ที่ติดมากับ Ascend P1 หน้าตาโอเคน่าใช้ทีเดียวครับ กับเเอพไฟฉายของสามัญประจำเครื่องสำหรับหลายรุ่น
พื้นที่เอาไว้ติดตั้งเเอพประมาณ 2 GB ส่วนเเรมนั้นเหลือ 300 กว่าเม็กถือว่าค่อนข้างเยอะถ้าเทียบกับเครื่องส่วนใหญ่ โดยรอมของ Ascend P1 นั้นถือว่าตอบสนองคำสั่งได้ค่อนข้างเร็ว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าเเรมเหลือเยอะด้วย
ประสิทธิภาพ ไม่เเรงในเเง่ตัวเลข เเต่ไม่มีปัญหาเวลาใช้งานจริง
ตัวประมวลผลของ Ascend P1 นั้นใช้ TI OMAP 4460 ตัวเดียวกับที่ใช้ใน Galaxy Nexus เเละถือเป็นรุ่นอัพเกรดของ OMAP 4430 ที่ใช้ในมือถือหลายๆ ตัวอย่าง Motorola RAZR หรือใช้ในเเท็บเล็ตอย่าง Samsung Galaxy Tab 2 อีกด้วย
ในเเง่ของความเร็วในการใช้งานนั้นถือว่าตอบสนองได้ตามมาตรฐานโดยเร็วใกล้เคียงกับรุ่นที่ใช้ซีพียูตัวเดียวกันอย่างที่กล่าวมา ถึงเเม้ว่าจะไม่ได้เร็วถึงขั้นตัวท็อปเเต่ก็เป็นที่น่าพอใจโดยไม่ถือว่าช้าเช่นกัน ข้อเสียหลักๆ ของตัวนี้จะอยู่ในเรื่องของการใช้พลังงานที่สูงกว่ารุ่นอื่น เนื่องจากตระกูล OMAP นั้นไม่มีโมดูลติดมาในซีพียูเเบบเดียวกับพวก Snapdragon ของ Qualcomm ทำให้ต้องใช้ไฟเลี้ยงส่วนโมดูล 3G เพิ่มเติม ถ้าใช้งานไม่หนักมากก็สามารถอยู่ได้เกินวัน โดยถ้าใช้งานต่อเนื่องตลอดเวลาก็จะอยู่ได้ได้ประมาณ 4-5 ชั่วโมง
ในส่วนผลการทดสอบนั้น TI OMAP 4430 เเละ 4460 นั้นก็ไม่ได้เเตกต่างกันมากนักนอกจากความเร็วของซีพียูเเละจีพียูที่เพิ่มขึ้นมาประมาณ 10% เเละโดยปกติผลเทสนั้นจะเเกว่งประมาณ +/- 10% อยู่เเล้ว ดังนั้นคะเเนนอาจจะดูไม่ตรงนักเเต่ก็พอเห็นภาพคร่าวๆ ได้ครับ
Sunspider Javascript Benchmark (คะเเนนน้อยกว่า = ดีกว่า)
GLBenchmark Egypt? ? คำนวณตามความละเอียดหน้าจอ (คะเเนนมากกว่า = ดีกว่า)
Antutu Battery Tester – ทดสอบระยะเวลาการใช้งาน (คะเเนนมากกว่า = ดีกว่า)
กล้อง 8 ล้าน : ดีกว่าที่คาดไว้
กล้องของ Ascend P1 นั้นมีความละเอียด 8 ล้านพิกเซลพร้อม Dual-LED เเฟลช ตัวกล้องเองมี Face Detection, ลดอาการตาเเดงเเละโหมด HDR รวมไปถึงฟิลเตอร์เเละเอฟเฟคต่างๆ เอาไว้เเต่งรูปภาพ
ตัวอย่างรูปจากด้านล่างนั้นถือว่ากล้อง Ascend P1 ค่อนข้างดีเลยทีเดียว รูปภาพนั้นมี White Balance ค่อนข้างดีเเละตรง มีการชดเชยให้กับบริเวณที่เเสงน้อยภาพก็จะออกมาสว่างขึ้น ตัวกล้องนั้นเก็บรายละเอียดต่างๆ ได้ดีเเละคมชัด ไม่ค่อยมีจุดรบกวนของภาพด้วย ถือว่าทำได้ดีกว่าที่หวังไว้พอสมควรเพราะปกติก็ไม่ได้หวังรูปกล้องจากมือถือจีนจะออกมาดีนัก เเต่ถือว่าดีกว่ามือถืออินเตอร์เเบรนด์หลายตัวที่กล้องห่วยหลายตัวเหมือนกัน
สรุป
จุดเด่นหลักๆ ของ Ascend P1 นั้นอยู่ในเรื่องของความเร็วที่ใช้งานได้พอสมควร ไม่รู้สึกอึดอัดเนื่องจากรอมนั้นทำออกมาได้ดีโดยไม่กินทรัพยากรมากนัก หน้าจอ Super AMOLED นั้นถือว่าอาจจะให้สีที่สดเเละหลายคนอาจจะชอบ เเต่ก็ยังดีที่จอรุ่นนี้ไม่ใช่ Pentile เเละปรับสีขาวออกมาไม่เพี้ยน ดังนั้นภาพก็จะออกมาเพียงเเค่สีสันสดใสกว่าปกติเท่านั้น ในขณะที่จอ AMOLED ของเเบรนด์อื่นอาจจะออกอมเขียวบ้าง อมฟ้าบ้าง เเต่ตัวนี้ไม่มีปัญหาเเบบนั้นครับ นอกจากนี้ในส่วนของกล้องก็ยังทำออกมาได้ค่อนข้างดีทีเดียว
จุดด้อยที่สุดของตัวนี้คือเรื่องวัสดุเเละดีไซน์ที่ถือว่าไม่ค่อยสมกับราคาระดับหมื่นกลางเท่าไรนัก โดยเป็นพลาสติกเงาธรรมดาๆ ที่พบเห็นได้ตามเครื่องหลักพันบาททั่วไป ดีไซน์ก็ไม่ถือว่าโดดเด่น หรือสวยงามน่าใช้มากเท่าไรนัก เเละปัญหาของตัว OMAP ซีรีย์ 4 นี้คือค่อนข้างร้อนถ้าใช้ไปนานๆ เมื่อเครื่องนั้นมีความบาง ถ้าไม่ใส่เคส ก็จะรู้สึกถึงความร้อนได้ง่าย
โดยรวมเเล้วก็เป็นเครื่องที่งามจากภายในเสียมากกว่า คือเร็ว รอมดี กล้องชัด เเต่ถ้ามองเเค่ภายนอกเเล้วอาจจะไม่รู้ว่ามันก็เป็นมือถือที่ดีเครื่องหนึ่ง ถ้า Huawei ใส่ใจเเเต่งหน้าทาปากกับเรื่องรูปลักษณ์เเละวัสดุภายนอกให้น่าใช้ขึ้นก็จะดีกว่านี้มาก เนื่องจาก Huawei ตั้งราคาในระดับหมืนกลางที่เป็นตลาดค่อนไปทางเกือบไฮเอนด์เเล้วดีไซน์กับวัสดุก็น่าจะดีมากกว่านี้ ไม่อย่างนั้นก็ควรลดราคาลงในช่วงที่ถูกกว่ามาตฐานตลาดเพราะจุดเเข็งของตัวนี้คือเรื่องสเปคกับความเร็วตามสไตล์เเบรนด์จีนเท่านั้น
ข้อดี
- เบา
- สีสด คอนทราสดี สีขาวไม่เพี้ยน
- เร็วกว่าตัวที่มีสเปคใกล้เคียงกัน รอมปรับเเต่งมาเบาเเละดี มีความเสถียรสูง
- กล้องอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ
ข้อจำกัด
- สีอาจจะจัดไปสำหรับบางคน
- วัสดุดูไม่สมราคาหมื่นกว่าบาทเท่าไรนัก
- เทียบกับตัวที่สเปคคล้ายกันเเล้วดูเเพง
- เครื่องเวลาใช้งานหนักเเล้วค่อนข้างร้อน