ช่วงนี้วงการมือถือหลายแบรนด์กำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของแบตเตอรี่ และมีข่าวล่าสุดจาก Digital Chat Station แหล่งข่าวชื่อดังบน Weibo ได้ออกมาเผยว่ามีมือถือที่คาดว่าเป็น Redmi K90 Ultra กำลังพัฒนาอยู่นั้นจะมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่จัดถึง 10,000mAh และที่ทึ่งกว่าก็คือในความจุระดับนี้ ตัวเครื่องกลับยังคงมีความบางไม่เกิน 8.5 มิลลิเมตร เป็นการฉีกกฎเกณฑ์เดิมๆ ที่แบตเตอรี่ขนาดใหญ่มักจะแลกมาด้วยตัวเครื่องที่หนา หรือไม่ถ้าเครื่องบางก็จะได้แบตน้อยนั่นเอง
ส่วนรุ่นรีแบรนด์ตัวสเปครองท็อปก่อนหน้านี้ที่วางขายในไทยก็คือ POCO F8 Pro ราคาเริ่มต้น 17,990 บาท สั่งซื้อที่ Shopee/ Lazada และรุ่น POCO F8 Ultra มีราคาเริ่มต้น 24,990 บาท สั่งซื้อที่ Shopee/ Lazada
Redmi K90 Ultra อาจมาพร้อมแบต 10,000mAh ในตัวเครื่องสุดบาง

จากข้อมูลที่เผยออกมานี้ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ระบุชื่อแบรนด์อย่างชัดเจน แต่จากเบาะแสต่างๆ ก็ชี้เป้าไปที่ Redmi K90 Ultra ว่าที่เรือธงรุ่นใหม่จาก Xiaomi เพราะแหล่งข่าวมีการบอกข้อมูลเพิ่มเติมว่ารุ่นนี้จะอยู่ในกลุ่มซีรีส์ที่เน้นประสิทธิภาพสูง และคาดว่าจะขับเคลื่อนด้วยชิประดับท็อปอย่าง MediaTek Dimensity 9-series ที่ไม่เหมือนกับข่าวก่อนหน้านี้ว่าจะใช้ชิป Snapdragon 7 หรือ Dimensity 8000 เพื่อความเป็นมือถือเรือธงตัวจริง
นอกจากแบตขนาด 10,000mAh แล้ว รุ่นนี้ก็ยังรองรับการกชาร์จไวแบบมีสายที่ 100W พร้อมการชาร์จไร้สายแบบเต็มสปีด และถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ก็จะทำให้รุ่นท็อปนี้ต่างจากรุ่นรองไปเยอะมาก เพราะว่า Redmi K90 Pro Max มีแบตเตอรี่มาให้ที่ 7,560mAh และเป็นการขยับจากข่าวลือก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะมีขนาด 8,000mAh ขึ้นไปสู่หลักหมื่นเลยทีเดียว


สำหรับสเปคอื่นๆ ที่เคยหลุดออกมาก่อนหน้านี้ คาดว่า Redmi K90 Ultra จะมาพร้อมหน้าจอแบบแบนขนาดใหญ่ประมาณ 6.8X นิ้ว ความละเอียด 1.5K และมีอัตราการรีเฟรชเรทสูงถึง 165Hz แบบ LTPS พร้อมกรอบกลางโลหะ และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบ Ultrasonic ใต้หน้าจอมาพร้อมมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับสูง
จากแนวทางการเพิ่มความจุแบตเป็นหลักหมื่นหรือแตะๆ หมื่นแบบนี้ ดูเหมือนว่า Xiaomi ไม่ใช่แบรนด์เดียวที่กำลังมุ่งไปในทิศทางนี้แบรนด์เดียว เพราะก่อนหน้านี้ก็มีรายงานว่า OnePlus ก็กำลังซุ่มพัฒนามือถือตระกูล Turbo รุ่นใหม่ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ 9,000mAh เช่นกัน ทำให้ปีหน้าเราน่าจะได้เห็นการแข่งขันด้านความอึดของแบตที่ดุเดือดอย่างแน่นอนสำหรับมือถือฝั่งจีนนะ
ที่มา: gizmochina
