vivo V Series รุ่นใหม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในไต้หวันกับ vivo V60 Lite 5G มือถือระดับกลางที่มาพร้อมกับสเปคที่น่าสนใจหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 7360-Turbo ที่ได้ใช้เป็นรุ่นแรก หน้าจอ AMOLED ขนาดใหญ่ ตัวเครื่องที่บางเบา พร้อมมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP65 และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 6,500mAh รองรับชาร์จเร็ว 90W
ส่วนรุ่นที่วางขายในไทยจะเป็นรุ่น vivo V50 Lite 5G ที่มีราคาเริ่มต้น 9,999 บาท สั่งซื้อที่ Shopee/ Lazada
สเปค vivo V60 Lite 5G

vivo V60 Lite 5G มาพร้อมกับหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.77 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (2392 x 1080 พิกเซล) รองรับอัตรารีเฟรชเรท 120Hz ลื่นไหลทั้งการเล่นเกมหรือเลื่อนดูโซเชียลต่างๆ รวมถึงรองรับ HDR10+ ได้อีกด้วย ตัวเครื่องบางเพียง 7.59 มม. และน้ำหนัก 194 กรัมเท่านั้น

ที่น่าสนใจของรุ่นนี้ก็คือเป็นรุ่นแรกที่ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 7360-Turbo ซึ่งเป็นชิปประมวลผลรุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เหมาะสมกับการใช้งานในทุกๆ ด้าน ทั้งการใช้งานทั่วไปหรือเล่นเกม มาพร้อมกับ RAM สูงสุด 12GB และมีเทคโนโลยี Virtual RAM ขยายเพิ่มได้อีก 12GB ส่วนความจุมีให้ 256GB แบบ UFS 3.1 ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 15 ที่ครอบทับด้วย Funtouch OS 15

นอกจากนี้ vivo V60 Lite 5G ยังมีแบตเตอรี่ที่มีความจุสูงถึง 6,500mAh ใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน รองรับชาร์จเร็วได้ 90W และยังมาพร้อมกับฟีเจอร์อื่นๆ ครบ ไม่ว่าจะเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ, ลำโพงคู่สเตอริโอ, รองรับ NFC, Dual SIM, Wi-Fi 6, Bluetooth 5.4 และพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB-C
รุ่นนี้มีกล้องคู่ประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 50MP เซ็นเซอร์ Sony IMX882 พร้อมกันสั่น OIS ถ่ายในที่แสงน้อยได้ดีเยี่ยม และมีรายละเอียดที่คมชัด ลดการเกิดนอยส์ในภาพ เสริมด้วยกล้อง Ultra-wide ความละเอียด 8MP สำหรับถ่ายมุมกว้าง ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียดสูงถึง 32MP เหมาะกับการถ่ายเซลฟี่ได้สวยๆ
ราคาและการวางจำหน่าย
สำหรับ vivo V60 Lite 5G เปิดตัวออกมาก่อนเริ่มที่ไต้หวันเป็นที่แรก มีสีด้วยกันทั้งหมด 3 สี ได้แก่สีชมพู Vitality Pink, สีฟ้า Titanium Mist Blue และสีดำ Midnight Black โดยมีราคาดังนี้:
- รุ่น RAM 8GB/ ROM 256GB: ราคา 13,990 ดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 14,800 บาท)
- รุ่น RAM 12GB/ ROM 256GB: ราคา 14,990 ดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 15,800 บาท)
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่า vivo อาจจะเปิดตัวรุ่น 4G ตามมาในเร็วๆ นี้ โดยจะใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 685 แต่ยังคงมีสเปคส่วนใหญเหมือนกับรุ่น 5G เกือบทั้งหมด
ที่มา: gizmochina