ทั้ง vivo X300 และ X300 Pro ได้เปิดเผยข้อมูลสเปคกันแทบจะครบหมดแล้ว และในจีนก็ได้เริ่มเปิดให้จองล่วงหน้ากันไปตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว แต่ยังไม่มีการยืนยันดีไซน์ของรุ่นใหม่นี้อย่างชัดเจนนอกจากภาพทีเซอร์ จนกระทั่งล่าสุด Huang Tao รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ vivo ได้เผยภาพอย่างเป็นทางการของ vivo X300 และ X300 Pro ออกมาครบ ทำให้เราได้เห็นหน้าตาของทั้งสองรุ่นนี้เป็นครั้งแรก พร้อมข้อมูลสเปคเด่นที่อัปเกรดจากรุ่นก่อนหน้า
โดยในไทยล่าสุดตอนนี้มีขาย 2 รุ่นคือ vivo X200 FE ราคา 24,999 บาท (Shopee/ Lazada) และ vivo X200 5G ราคา 29,999 บาท (Shopee/ Lazada)
ดีไซน์และจุดเด่นของ vivo X300 และ X300 Pro

Huang Tao ระบุว่า ปี 2025 นี้เป็นปีที่ vivo ครบรอบ 30 ปีของการก่อตั้งบริษัทขึ้นมา หลังจากความสำเร็จของ vivo X200 Series ที่มียอดขายทะลุ 2 ล้านเครื่องและเติบโตเป็นอย่างดี ทำให้ vivo X300 ถูกพัฒนาต่อยอดจาก X200 Pro mini โดยเน้นการออกแบบที่จับถนัดมือยิ่งขึ้น กล้องที่ทรงพลังกว่าเดิม และประสิทธิภาพโดยรวมที่ดีขึ้นไปอีกขั้น ส่วน X300 Pro ถูกวางเป็นรุ่นเรือธงเด่นในด้านการถ่ายภาพ ที่ผสานเทคโนโลยีกล้องชั้นนำเข้ากับฮาร์ดแวร์ตัวเทพ
จากภาพที่เผยออกมาดีไซน์ของ vivo X300 และ X300 Pro มาพร้อมโมดูลกล้องทรงกลมคล้ายกับ X200 Series แต่มีการปรับแต่งให้ดูดีขึ้น ส่วนหน้าจอยังไม่ได้เผยออกมาด้วย แต่จากทีเซอร์ก่อนหน้าก็พอจะยืนยันแล้วว่าทั้งสองรุ่นจะใช้หน้าจอแบบแบน ไม่ได้เป็นจอโค้งเหมือนรุ่นเรือธงแบรนด์อื่นๆ
ดีไซน์ของ X300 Seris ยังคงความเป็น vivo ทั้งตัวเครื่องและกระจกที่ฝาหลัง โดยมีตัวเลือกสี 4 สีได้แก่สีดำ Lucky Color, สีฟ้า Easy Blue, สีน้ำตาล Wilderness Brown และสีม่วง Relaxed Purple แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ เพื่อสร้างความเรียบหรูดูเป็นธรรมชาติ
จุดเด่นที่สำคัญของ vivo X300 Series คือระบบกล้อที่ทำร่วมกับ Zeiss โดยทั้งสองรุ่นมาพร้อมเลนส์ความละเอียด 200MP และ X300 มีกล้องหลัก Zeiss ขนาด 23 มม. ความละเอียด 200MP ส่วน X300 Pro มาพร้อมเลนส์เทเลโฟโต้ APO ขนาด 85 มม. ความละเอียด 200MP ตัวเทพในวงการ ทั้งสองรุ่นยังรองรับระบบกันสั่นระดับ CIPA 4.5 และ 5.5, การเคลือบ Zeiss T* เพื่อลดแสงสะท้อน
ด้านการถ่ายวิดีโอ X300 Pro รองรับการบันทึกวิดีโอพอร์ตเทรต 4K 60fps, วิดีโอ Dolby Vision HDR 4K 120fps แบบ dual focal และแบบ 4K 120fps 10-bit เหมาะกับคนที่ชอบถ่ายวิดีโอแบบมืออาชีพ ระบบกล้องทั้งหมดขับเคลื่อนด้วยชิปภาพ V3+ ร่วมกับชิปประมวลผล Dimensity 9500 รุ่นใหม่ล่าสุด
ที่มา: gizmochina