เปิดตัว iPhone Air รุ่นใหม่ไลน์อัปใหม่ของซีรีส์นี้ ที่เน้นความบางเบาแต่ทรงพลัง ด้วยสโลแกน “iPhone ที่บางที่สุด เท่าที่เคยมีมา อัดแน่นด้วยขุมพลังระดับโปร” ที่รุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์คนที่ต้องการอุปกรณ์พกพาสะดวก แต่ยังคงมีประสิทธิภาพระดับสูงสเปคน้องๆ รุ่นโปรได้เลย ด้วยเทคโนโลยีล่าสุดอย่างชิป A19 Pro, ระบบกล้อง Fusion ใหม่ และการรองรับ Apple Intelligence ทำให้เป็นหนึ่งในรุ่นที่โดดเด่นที่สุดใน iPhone ปีนี้เลย
ดูสรุปสเปค iPhone 17 และ iPhone 17 Pro/ iPhone 17 Pro Max ที่นี่
สเปค iPhone Air
ดีไซน์ใหม่เบาบางที่สุด
iPhone Air ถูกออกแบบใหม่หมดเพื่อให้บางและเบาที่สุด ด้วยความบาง 5.6 มม. และน้ำหนัก 165 กรัม ทำให้พกพาสะดวกแต่ยังคงมีหน้าจอ Super Retina XDR ขนาด 6.5 นิ้วขนาดใหญ่ รองรับ ProMotion สูงสุด 120Hz เล่นได้ลื่น ยังมาพร้อมมี Dynamic Island รวมถึงปุ่มควบคุมกล้องและปุ่มด้านข้างที่ใช้งานง่าย มีสีให้เลือกคือ สกายบลู, ทองอ่อน, ขาวปุยเมฆ และดำสเปซแบล็ค

วัสดุตัวเครื่องใช้กรอบไทเทเนียมขัดเงาที่ทนทาน ด้านหน้าเป็น Ceramic Shield 2 ที่ทนขีดข่วนดีขึ้น 3 เท่า และด้านหลังทนแตกร้าวดีขึ้น 4 เท่าใช้ Ceramic Shield ทำให้ iPhone Air เป็นรุ่นที่ทนทานรอบด้าน แม้จะบางเฉียบก็ตาม
ประสิทธิภาพการใช้งาน
iPhone Air ขับเคลื่อนด้วยชิป A19 Pro ซึ่งเป็น Apple Silicon เจเนอเรชั่นล่าสุด ผสานกับชิป N1 และโมเด็ม C1X เพื่อประสิทธิภาพระดับโปร โดยมี CPU ที่เร็วกว่า iPhone 14 Pro สูงสุด 40% GPU แบบ 5-core มีตัวเร่งความเร็วนิวรอลในแต่ละคอร์ รองรับการเล่นเกมกราฟิกหนักๆ อย่างเกม AAA และการใช้ร่วมกับ Apple Intelligence อย่างการลบวัตถุในแอปรูปภาพ และอื่นๆ ได้ดีขึ้น

โมเด็ม C1X ใหม่ทำให้ iPhone Air ประหยัดพลังงานได้ดีเยี่ยม รองรับการเชื่อมต่อไร้สายขั้นสูง เช่น Wi-Fi 7, Bluetooth 6 สำหรับการเชื่อมต่อ นอกจากนี้ยังรองรับ 5G และ eSIM เพื่อตอบโจทย์ความบาง และเพิ่มความจุให้แบตได้มากขึ้น
สามารถใช้งานได้ตลอดวัน โดยเล่นวิดีโอนานสูงสุด 27 ชั่วโมง และชาร์จได้สูงสุด 50% ใน 30 นาที หรือถ้ากลัวแบตหมดก็มีอุปกรณ์เสริมอย่าง MagSafe ใหม่ ที่สามารถยืดอายุแบตเตอรี่ได้สูงสุด 40 ชั่วโมงในการเล่นวิดีโอเลยทีเดียว
กล้องหน้าและกล้องหลัง

กล้องของ iPhone Air ได้รับการอัปเกรดใหม่หมดเหมือนกับทุกรุ่น ด้วยกล้องหน้า 18MP รองรับ Center Stage ใหม่ ช่วยจัดเฟรมตรงกลางอัตโนมัติ ขยายมุมมองเมื่อมีคนเข้าร่วมเฟรม และหมุนแนวตั้ง-แนวนอนโดยไม่ต้องขยับตัวเครื่อง เหมาะสำหรับเซลฟี่กลุ่มและถ่ายคอนเทนต์ต่างๆ ส่วนกล้องหลังมีตัวเดียวแบบ Fusion ที่ทำงานเหมือนมีกล้องหลายตัวความละเอียด 48MP พร้อมเทเลโฟโต้ 2 เท่า ถ่ายวิดีโอสูงสุด 4K ที่ 60 fps และถ่ายหน้า-หลังพร้อมกันได้

สรุปสเปค iPhone Air
- ขนาดและน้ำหนัก: 156.2 × 74.7 × 5.64 มม. | 165 กรัม
- หน้าจอ: Super Retina XDR แบบ OLED ขนาด 6.5 ความละเอียด 2736 x 1260/ ProMotion 120Hz/ 3,000nits
- ชิปประมวลผล: A19 Pro
- GPU: แบบ 5-core พร้อมตัวเร่งความเร็วนิวรอล
- RAM: รอเปิดเผย/ ROM: 256GB/ 512GB/ 1TB
- กล้องหลัง 1 ตัว Fusion ความละเอียด
- เลนส์หลัก 48MP (ƒ/1.6)/ เทเลโฟโต้ 2 เท่า/ กันสั่นแบบออปติคัล
- วิดีโอ 4K ที่ 60 fps
- กล้องหน้าความละเอียด: 18MP (ƒ/1.9)/ Center Stage
- การเชื่อมต่อ: 5G, WI-FI 7, Bluetooth 6, NFC, USB-C
- eSIM
- กันน้ำกันฝุ่น: IP68
- ระบบปฏิบัติการ: iOS26
- แบตเตอรี่ความจุ: เล่นวิดีโอสูงสุด 27 ชั่วโมง
ราคาและการวางจำหน่าย
iPhone Air จะเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าในวันที่ 12 กันยายน 2025 เวลา 19:00 น. ในไทย และเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 19 กันยายน 2025 โดยมีราคาตามความจุ 3 รุ่นได้แก่
- ความจุ 256GB: ราคา 39,900 บาท
- ความจุ 512GB: ราคา 47,900 บาท
- ความจุ 1TB: ราคา 55,900 บาท
ที่มา: Apple