
แนะนำ 10 Smart Watch 2025 รุ่นไหนดี สำหรับใส่ทำงานทั่วไป สายแฟชั่น หรือออกกำลังกายได้
ปัจจุบัน Smart Watch มีหลายรุ่นที่น่าสนใจ พร้อมคุณสมบัติที่หลากหลาย เช่น การติดตามสุขภาพ, ฟังก์ชันการออกกำลังกาย การเชื่อมต่อ เช็คการแจ้งเตือน ไปจนถึงรับสายโทรคุยกันได้แล้ว นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงด้านการออกแบบให้สวยงามและทันสมัยมากขึ้น ทำให้สมาร์ทวอทช์ไม่ใช่แค่อุปกรณ์สำหรับดูเวลาอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังเป็นเหมือนเครื่องประดับที่เพิ่มความมั่นใจให้กับคนที่สวมใส่อีกด้วย สำหรับคนที่กำลังมองหา Smart Watch ที่เหมาะสมกับความต้องการ การเลือกซื้อสมาร์ทวอทช์ที่มีคุณภาพและราคาเหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ วันนี้ Specphone จะมาแนะนำ 10 Smart Watch 2025 รุ่นไหนดีที่น่าใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นสำหรับการทำงานทั่วไป สายแฟชั่น หรือการออกกำลังกายก็ตาม
แนะนำ 10 Smart Watch 2025 รุ่นไหนดี

1. Xiaomi Watch S4: ราคา 4,990 บาท
เริ่มต้นกันด้วย Smart Watch 2025 ที่มีคุณสมบัติครบครัน สำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน รวมถึงเรื่องสุขภาพไปพร้อมๆ กัน โดยรุ่นนี้เป็นรุ่นใหม่มีหน้าจอ AMOLED ขนาด 1.43 นิ้วที่ให้ภาพสวยงาม และสว่างได้สูงสุด 1500nits และมีฟังก์ชันการติดตามสุขภาพที่หลากหลาย เช่น การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ระดับออกซิเจน การนอน และอื่นๆ ครบถ้วน นอกจากนี้ยังมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานถึง 15 วัน หายห่วงเรื่องแบตหมดไว ตัวเครื่องออกแบบมาดูหรูหราแต่ก็เรียบสวย สามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ เชื่อมต่อได้ด้วย Bluetooth 5.3 และกันน้ำที่ 5ATM สั่งซื้อที่ Xiaomi

2. Redmi Watch 5: ราคา 3,490 บาท
Smart Watch 2025 รุ่นต่อมาจาก Redmi ตัวล่าสุดที่มีราคาไม่สูงมากแต่มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจหลายอย่าง มีหน้าจอเป็นแบบโค้ง 2.5D AMOLED ขนาดใหญ่ 2.07 นิ้วขาดใหญ่และสว่างได้ 1500nits และมีฟังก์ชันการการติดตามสุขภาพตลอด 24 ชั่วโมง เช่น วัดอัตราการเต้นของหัวใจ ระดับออกซิเจน ความเครียด การนอนหลับ และอื่นๆ พร้อมโหมดกีฬา 150+ รูปแบบ สามารถรับสายโทรได้ด้วยการเชื่อมต่อ Bluetooth นอกจากนี้ยังมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน 24 วัน การออกแบบตัวเรือนมีความเรียบสวย และมีเม็ดมะยมแบบหมุนได้ กันน้ำได้ที่ 5ATM สั่งซื้อที่ Redmi

3. Apple Watch Series 10: ราคาเริ่มต้นที่ 14,900 บาท
มาดูที่ Smart Watch 2025 รุ่นยอดนิยมสำหรับการใส่ใช้งานทั่วไป หรือจะใส่เป็น Gadget เพื่อความสวยงามก็ตอบโจทย์ได้เหมือนกันสำหรับ Apple Watch ที่มีฟีเจอร์ที่หลากหลาย เช่น การติดตามสุขภาพ การตรวจจับการตก การนอนหลับ และการวัดค่าต่างๆ ที่ทำได้ครบเหมือนกัน นอกจากนี้ยังมีหน้าจอ Always-On Retina LTPO3 OLED ที่สวยงามและใช้งานได้ง่าย สว่างได้ถึง 2,000นิต มีสองขนาดให้เลือกคือ 42 และ 46 มม. พร้อมกับตัวเลือกย่อยอย่างวัสดุอะลูมิเนียมหรือไทเทเนียม สามารถเลือกการเชื่อมต่อได้ทั้ง GPS และ GPS + Cellular ตัวเครื่องออกแบบมาสวยหรู พร้อมการใช้งานสูงสุด 18 ชั่วโมง ซื้อได้ที่ Apple

4. Galaxy Watch 7: ราคาเริ่มต้น 7,630 บาท
สำหรับ Smart Watch 2025 รุ่นต่อมาจาก Samsung ที่เป็นอีกหนึ่งตัวจบ ด้วยสเปคที่มีฟีเจอร์ครบไม่ว่าจะสายออกกำลังกาย หรือว่าจะเป็นสายแฟชั่นก็ตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดี โดยรุ่นนี้มีหน้าจอ Super AMOLED มีให้เลือก 2 ขนาดคือ 40 และ 44 มม. สามารถตรวจจับการล้ม ติดตามสุขภาพได้ครบ และการออกกำลังกายได้หมด โดยทำงานร่วมกับ Galaxy AI ด้วยการวัดระดับพลังงาน นอกจากนี้ยังมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานถึง 30 ชั่วโมง ตัวเครื่องออกแบบมาเป็นแบบอะลูมิเนียมหน้าปัดกลม และมี 2 ปุ่มด้านข้างเรียบหรู และสามารถเลือกปรับแต่งสายได้ สั่งซื้อที่ Samsung

5. HUAWEI WATCH GT 5: ราคา 5,990-6,990 บาท
Smart Watch 2025 จาก HUAWEI รุ่นล่าสุดที่ทำออกมาเป็น 2 รูปแบบและขนาดคือขนาด 41 และ 46 มม. พร้อมดีไซน์ที่เรียบหรูสองสไตล์ที่ต่างกัน มีความบางเบาสวมใส่ได้สบายข้อมือ มีฟีเจอร์การติดตามสุขภาพ และสำหรับการออกกำลังกายให้ครบกว่า 100 โหมด และยังมีการดูแลสุขภาพจิตขด้วยแอพสุขภาพทางอารมณ์อีกด้วย โดยรุ่นนี้มีหน้าจอเป็นแบบ AMOLED ที่สวยงาม อีกทั้งยังมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานถึง 14 วัน สามารถพิมพ์ข้อความได้ และรับสายหรือโทรได้ผ่าน Bluetooth ได้เลย สั่งซื้อที่ HUAWEI

6. HUAWEI WATCH FIT 3: ราคา 3,990 บาท
อีกหนึ่งรุ่นสเปคดีงามจาก HUAWEI ที่รุ่นนี้เป็น Smart Watch 2025 ตัวล่าสุดเช่นกัน มีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า เหมาะกับการใช้งานรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายกว่า 100 แบบ กับคอร์สออกกําลังกาย และการติดตามด้านสุขภาพแบบครบครัน สามารถตรวจจับและวัดค่าได้อย่างแม่นยำ รุ่นนี้มีหน้าจอเป็นแบบเหลี่ยม ใช้จอ AMOLED ขนาด 1.82 นิ้ว ตัวเครื่องบางเรียบสวย มีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานถึง 10 วัน นอกจากนี้ยังสามารถโทรหรือรับสายผ่าน Bluetooth ได้อีกด้วย สั่งซื้อที่ HUAWEI

7. CMF by Nothing Watch Pro 2: ราคา 2,699 บาท
Smart Watch 2025 รุ่นต่อมาเป็นรุ่นที่มีราคาไม่สูงมาก มาพร้อมกับดีไซน์ที่ทันสมัยและเรียบหรูตามแบบฉบับของ Nothing ที่สามารถถอดเปลี่ยนกรอบหน้าจอได้ ตัวหน้าจอเป็นแบบ AMOLED ขนาด 1.32 นิ้วไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป สามารถวัดค่าต่างๆ ได้ครบ ไม่ว่าจะเป็น ตรวจวัดอัตราการเต้นหัวใจ, การนอนหลับ, ความเครียด และ SpO2 รวมไปถึงโหมดกีฬาและการออกกำลังกายกว่า 120 รูปแบบ ควบคุมง่ายด้วยปุ่มเม็ดมะยม หรือการควบคุมด้วยท่าทางก็ได้ นอกจากนี้ยังโทรออกและรับสายผ่าน Bluetooth ได้ด้วย สามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 11 วัน สั่งซื้อที่ Nothing

8. Amazfit Active 2: ราคา 3,690-4,490 บาท
Smart Watch 2025 รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Amazfit ที่เปิดตัวมออกมาได้ไม่นานมานี้ โดยมีให้เลือก 2 แบบคือ Standard และ Premium Version ต่างกันตรงที่รุ่นพรีเมียมจะได้ สายหนัง สายซิลิโคนสีแดง และหน้าปัดเป็นกระจกแชฟไฟร์ ตัวธรรมดาจะได้หน้าจอกระจกปกติพร้อมสายซิลิโคนสีดำ ตัวหน้าจอเป็น AMOLED ขนาด 1.32″ (44 มม.) มีฟีเจอร์สุขภาพให้ครบทั้ง วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, ค่าออกซิเจนในเลือด, ความเครียด และการนอนหลับ รวมถึงการออกกำลังกาย 164 โหมด ซึ่งเน้นเรื่องการเล่นกีฬามาให้เป็นหลัก แต่ก็ยังมีความสวยงามใส่ใช้งานทั่วไปได้ สามารถใช้งานทั่วไปได้ยาวนานถึง 10 วัน สั่งซื้อที่ Amazfit

9. Mibro Watch Lite 3 Pro: ราคา 2,290 บาท
Smart Watch 2025 ราคาเบาๆ จาก Mibro ที่มีสเปคและฟีเจอร์น่าสนใจไม่น้อยเลย อย่างแรกคือดีไซน์ตัวเครื่องที่ทำออกมาได้สวยหรู หน้าปัดกลมควบคุมง่ายด้วยเม็ดมะยม พร้อมสายหนังหรือซิลิโคน และตัวเรือนใช้วัสดุเป็น Zinc Alloy แบบมันวาว หน้าจอเป็นแบบ AMOLED ขนาด 1.32 นิ้ว สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ค่าออกซิเจน ความเครียด การนอนหลับหรืองีบหลับ และด้านสุขภาพอื่นๆ รวมถึงโหมดออกกำลังกายและกีฬากว่า 150 แบบ นอกจากนี้ยังโทรออกหรือรับสายผ่าน Bluetooth ได้ พร้อมาตรฐานกันน้ำ 5ATM ใช้งานทั่วไปได้สูงสุด 15 วัน สั่งซื้อที่ Mibro

10. Garmin Venu 3 Series: ราคา 15,990 บาท
ปิดท้ายด้วย Smart Watch 2025 จาก Garmin รุ่นยอดนิยมอีกหนึ่งซีรีส์ที่มีให้เลือกสองแบบคือ Venu 3 ขนาด 45 มม. และ Venu 3s ขนาด 41 มม. มาพร้อมกับดีไซน์ที่เรียบหรู และมีหน้าจอเป็นแบบ AMOLED ขนาด 1.4 นิ้ว และมีฟีเจอร์การทำงานที่ครบ ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์สุขภาพ ที่ติดตามการนอน วัดอัตราการเต้นหัวใจ ความเครียดและอื่นๆ ได้ครบ มีโหมดกีฬาในตัวกว่า 30 โหมด และยังรองรับการโทรและส่งข้อความผ่าน Bluetooth ได้ด้วย แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 14 วัน สั่งซื้อที่ Garmin
วิธีเลือกซื้อ Smart Watch ให้เหมาะกับการใช้งานของตัวเอง
การเลือกซื้อ Smart Watch ที่เหมาะสมกับการใช้งานของตัวเองเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยควรพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น:
- ฟังก์ชันการใช้งาน: หากต้องการใช้สำหรับการออกกำลังกาย ควรเลือกรุ่นที่มีฟังก์ชันการติดตามการออกกำลังกายที่หลากหลาย มีโหมดที่รองรับการใช้งานในแบบของตัวเอง หรือการตรวจวัดด้านสุขภาพ เช่น การวัดการเดิน, การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ การนอน และการตรวจวัดค่าต่างๆ ที่จำเป็นต่อการใช้งานของตัวเองด้วย
- การเชื่อมต่อ: ควรเลือกรุ่นที่รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth และ Wi-Fi เพื่อให้สามารถรับแจ้งเตือนและควบคุมเพลงได้อย่างสะดวกสบาย
- แบตเตอรี่: หากต้องการใช้งานที่ไม่ต้องชาร์จบ่อย ควรเลือกรุ่นที่มีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน
- การออกแบบ: ควรเลือกรุ่นที่มีการออกแบบที่ดูดีและน้ำหนักเบา เพื่อให้ใส่สบายและเหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
การใช้ Smart Watch มีข้อดีหลายอย่าง เช่น การติดตามสุขภาพได้อย่างต่อเนื่อง, การรับแจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟน และการควบคุมเพลง หรือการรับสายโทรออกอย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้ยังช่วยให้สามารถตรวจสอบข้อมูลสำคัญๆ ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายอีกด้วย
ข้อแตกต่างระหว่าง Smart Watch และ นาฬิกาธรรมดา
Smart Watch และนาฬิกาธรรมดามีข้อแตกต่างกันอย่างชัดเจน:
- ฟังก์ชันการใช้งาน: Smart Watch มีฟังก์ชันหลากหลาย เช่น การติดตามสุขภาพ, การรับแจ้งเตือน และการควบคุมเพลง หรือรับสาย ตอบข้อความจากสมาร์ทโฟนได้ ในขณะที่นาฬิกาธรรมดาใช้เพียงสำหรับตรวจสอบเวลาเท่านั้น
- การเชื่อมต่อ: Smart Watch สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ ในขณะที่นาฬิกาธรรมดาไม่มีการเชื่อมต่อใดๆ
- การออกแบบ: Smart Watch มีการออกแบบที่ทันสมัย และสามารถปรับเปลี่ยนหน้าจอได้ ในขณะที่นาฬิกาธรรมดามีการออกแบบที่เรียบง่ายและยังไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้
การใช้ Smart Watch จะดีกว่านาฬิกาธรรมดาในหลายด้าน เนื่องจากมีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายและสามารถช่วยให้การใช้งานในชีวิตประจำวันง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม นาฬิกาธรรมดาก็ยังมีความน่าสนใจในเรื่องของความเรียบง่ายและความทนทาน ความสวยหรู และความโดดเด่นจากความคลาสสิคที่หาแบบอื่นมาเทียบได้ยาก
คำถามที่คนมักค้นหา (FAQ)
- Smart Watch ใช้สำหรับอะไร?
- ใช้สำหรับติดตามสุขภาพ รับแจ้งเตือน ควบคุมเพลง และฟังก์ชันอื่นๆ ที่ช่วยให้การใช้งานในชีวิตประจำวันง่ายขึ้น รวมถึงการออกกำลังกายด้วย
- ควรเลือก Smart Watch ยี่ห้อไหนดี?
- ควรเลือกยี่ห้อที่มีฟีเจอร์ และการใช้งานที่ตอบโจทย์ของตัวเราเอง แต่ก็อาจจะมองแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ และสามารถใช้งานได้ยาวนานด้วยเพื่อความคุ้มค่า
- Smart Watch มีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานแค่ไหน?
- ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ของ Smart Watch ขึ้นอยู่กับรุ่นและวิธีการใช้งาน โดยทั่วไปสามารถใช้งานได้ 3-14 วัน
- Smart Watch สามารถใช้กับสมาร์ทโฟน Android ได้หรือไม่?
- ส่วนใหญ่สามารถใช้กับสมาร์ทโฟน Android และ iOS ได้แทบทุกรุ่นอยู่แล้ว
- Smart Watch มีราคาเท่าไร?
- ราคา Smart Watch ขึ้นอยู่กับรุ่นและฟังก์ชัน โดยทั่วไปมีราคาประมาณ 2,000 – 20,000 บาทสำหรับการใช้งานทั่วไป
การเลือกซื้อ Smart Watch 2025 ที่เหมาะสมกับการใช้งานของตัวเองเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยควรพิจารณาจากฟังก์ชันการใช้งาน, การเชื่อมต่อ, แบตเตอรี่ และการออกแบบตามที่ตัวเองชอบ นอกจากนี้ยังควรดูความต้องการฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย และความสะดวกสบายในการใช้งานในชีวิตประจำวันร่วมด้วย โดย Smart Watch เป็นตัวเลือกที่ดีในเรื่องของการดูแลสุขภาพ หรือว่าการออกกำลังกาย นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานสมาร์ทโฟน ดังนั้น ควรพิจารณาความต้องการและงบประมาณของตัวเองเพื่อเลือกรุ่นที่เหมาะสมที่สุดด้วย