
แนะนำ 10 ตัวรับสัญญาณ WiFi แบบ USB ยี่ห้อไหนดีในปี 2025 รับสัญญาณแรง ช่วยเพิ่มความแรงให้เน็ตไวขึ้น
สำหรับคนที่ใช้คอมแบบ PC หรือว่าโน็ตบุ๊คในห้องนอน คอนโด หรือว่าในที่ที่สัญญาณ WiFi อาจมาถึงได้ไม่เต็มที่ อุปกรณ์ที่พอจะช่วยเพิ่มความแรงให้ได้ก็คือตัวรับสัญญาณ ที่มีให้เลือกอยู่หลายแบบ และแบบ USB ก็เป็นอีกแบบที่ได้รับความนิยมสูง เพราะมีขนาดเล็ก พกพาได้สะดวกเมื่อต้องออกไปนอกสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานออนไลน์ การเล่นเกม หรือการดูวิดีโอออนไลน์ วันนี้ทาง Specphone เลยจะมาแนะนำ 10 ตัวรับสัญญาณ WiFi แบบ USB ยี่ห้อและรุ่นไหนดีที่มีคุณภาพและคุ้มค่าในปี 2025 พร้อมสเปคและข้อดีของแต่ละรุ่นด้วย
ตัวรับสัญญาณ WiFi คืออะไร ใช้ทำอะไรได้บ้าง
ตัวรับสัญญาณ Wi-Fi เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้เราสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้โดยไม่ต้องใช้สาย โดยมักจะเชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB บนคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค หรืออุปกรณ์อื่นๆ โดยตัวรับสัญญาณแบบ WiFi นั้นมีหลายประเภท แต่แบบ USB นั้นเป็นที่นิยมมากเพราะใช้งานง่ายและสะดวกสบาย สามารถใช้เพิ่มความแรงของสัญญาณ WiFi ในพื้นที่ที่สัญญาณอ่อน หรือเพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่ไม่มี WiFi ในตัว เช่น คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป หรือโน๊ตบุ๊ค ได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้การใช้ตัวรับสัญญาณ ยังช่วยให้เราสามารถย้ายอุปกรณ์ไปมาได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสายที่ยุ่งยาก และยังมีหลายรุ่นที่รองรับมาตรฐาน WiFi ใหม่ๆ เช่น WiFi 6 หรือสูงกว่าซึ่งให้ความเร็วและเสถียรภาพที่ดีขึ้นในราคาเริ่มต้นหลักร้อย และหลักพันต้นๆ เท่านั้น
แนะนำ 10 ตัวรับสัญญาณ WiFi แบบ USB ยี่ห้อไหนดีในปี 2025

1. TP-LINK Archer T4U: ราคา 990 บาท
เริ่มต้นกันด้วยตัวรับสัญญาณ WiFi ที่มีความเร็วสูงสุด 1,300 Mbps แบบ Dual Band ที่มีเสาสัญญาณ 2 ต้นในตัวเดียว รองรับทั้ง 5GHz และ 2.4GHz ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพในการรับสัญญาณได้มากขึ้น มีเทคโนโลยี MU-MIMO ที่ช่วยเพิ่มความแรงและเสถียรภาพของสัญญาณ WiFi จากตัวเราเตอร์ได้ มาพร้อมพอร์ต USB 3.0 ที่ให้ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลสูงกว่า USB 2.0 รองรับการใช้งานกับทุกระบบ มี WPS Button สำหรับการตั้งค่าได้ง่ายๆ ด้านดีไซน์ตัวนี้มีขนาดกะทัดรัดและใช้งานง่าย ด้วยการพับและกางออก สั่งซื้อที่ TP-Link

2. TP-LINK (TL-WN823N) N300: ราคา 255 บาท
อีกหนึ่งตัวรับสัญญาณ WiFi ที่ได้รับความนิยมสูง ซึ่งตัวนี้มีความเร็วสูงสุด 300Mbps บนคลื่น 2.4 GHz มีขนาดเล็กและใช้พลังงานต่ำ ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป เช่น การท่องเว็บหรืออ่านอีเมล ดูหนัง หรือใช้งานทั่วไปได้ดี มี Soft AP Mode ที่ช่วยให้สามารถสร้าง WiFi Hotspot ได้ และมี WPS Button สำหรับการตั้งค่าได้ง่ายเช่นกัน โดยตัวนี้รองรับมาตรฐาน WiFi 4 (802.11n) และมีระบบปฏิบัติการที่รองรับได้หลากหลายแทบทุกระบบ ซึ่งความเร็วระดับนี้ก็เป็นระบบการใช้งานทั่วไป แต่ถ้าจะเน้นเล่นเกมด้วยความเร็วสูงอาจยังไม่เหมาะ สั่งซื้อที่ Advice

3. Tenda U11 AX900: ราคา 320 บาท
ตัวรับสัญญาณ WiFi อันต่อมาจาก Tenda ที่รุ่นนี้รองรับมาตรฐาน WiFi 6 (802.11ax) มีความเร็วสูงสุด 900 Mbps โดยแบ่งเป็น 286 Mbps บนคลื่น 2.4 GHz และ 600 Mbps บนคลื่น 5 GHz มีเทคโนโลยี MU-MIMO ที่ช่วยให้สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์หลายเครื่องพร้อมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกับการรองรับระบบได้ทั้ง Windows และ Linux หรืออื่นๆ ตัวเครื่องมีขนาดเล็กและใช้งานง่าย โดยไม่ต้องลงโปรแกรมหรือแผ่น CD เหมาะกับคนที่ต้องการใช้เน็ตความเร็วปานกลางไปถึงสูง หรืออยากใช้เน็ตที่เร็วแรงอย่าง WiFi 6 สั่งซื้อที่ Tenda

4. Tenda U10 AC650: ราคา 330 บาท
มาต่อกันที่ตัวรับสัญญาณ WiFi ของ Tenda อีกหนึ่งรุ่น ที่มีความเร็วสูงสุด 433 Mbps บนคลื่น 5 GHz และ 200 Mbps บนคลื่น 2.4 GHz มาพร้อมกับ External Antenna 6dB (เสาสัญญาณ) ที่ช่วยเพิ่มความแรงของสัญญาณ WiFi และรองรับ MU-MIMO สำหรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์หลายเครื่องพร้อมกัน นอกจากนี้ยังมี Soft AP Mode ที่ช่วยให้สามารถสร้าง WiFi Hotspot ได้ รองรับระบบปฏิบัติการหลากหลายรุ่น และติดตั้งได้ง่ายเพียงเสียบเข้าคอมก็จะติดตั้งอัตโนมัติแบบ Plug And Play ได้เลย เหมาะกับคนที่ต้องการเน็ตระดับพอดีๆ สั่งซื้อที่ Tenda

5. Ugreen AC1300 USB3.0: ราคา 610 บาท
อีกหนึ่งยี่ห้อที่ได้รับความนิยมสูง และเป็นตัวรับสัญญาณ WiFi รุ่นที่มีความเร็วสูงสุด 1,300 Mbps โดยแบ่งเป็น 867 Mbps บนคลื่น 5 GHz และ 400 Mbps บนคลื่น 2.4 GHz ซึ่งสามารถใช้สัญญาณพร้อมกัน หรือสลับกันได้ เพื่อให้ความเร็วนั้นยังคงมีอยู่เสมอ มีพอร์ต USB 3.0 ที่ให้ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลสูง และมี WPS Button สำหรับการตั้งค่าแบบง่าย รองรับระบบปฏิบัติการ Windows และ Mac OS หลากหลายรุ่น ตัวเครื่องมีขนาดกะทัดรัดพกพาใส่กระเป๋าเสื้อหรือช่องเก็บของเล็กๆ ได้เลย สามารถใช้งานเป็น WiFi Hotspot ได้ด้วย เหมาะกับคนที่ต้องการเน็ตความเร็วสูง สั่งซื้อที่ Ugreen

6. Ugreen AC1300 USB3.0 (แบบมีเสา): ราคา 657 บาท
ตัวรับสัญญาณ WiFi จาก Ugreen อีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจและได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ซึ่งรุ่นนี้เป็นรุ่นที่มีเสาสัญญาณ มีฟีเจอร์คล้ายๆ กับตัวด้านบน ทั้งความเร็วที่รองรับได้สูงสุด 1,300 Mbps บนคลื่น 5 GHz และ 2.4 GHz ตัวเครื่องของรุ่นนี้จะมีเสารับสัญญาณมาให้ 2 ตัว สามารถปรับได้ 90-180 องศา ช่วยให้รับสัญญาณได้ดีขึ้น และกระจายออกไปได้มากขึ้น สามารถรับสัญญาณได้ไกล มีระบบปฏิบัติการที่รองรับหลากหลาย และกระขายสัญญาณเป็น WiFi Hotspot ได้เช่นกัน เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความเร็วสูง ในห้องหรือพื้นที่จำกัด สั่งซื้อที่ Ugreen
7. Asus USB-AC53 Nano AC1200: ราคา 850 บาท

ตัวรับสัญญาณ WiFi จาก Asus ที่มีความเร็วสูงสุด 1,200 Mbps โดยแบ่งเป็น 867 Mbps บนคลื่น 5 GHz และ 300 Mbps บนคลื่น 2.4 GHz มาพร้อมกับ PIFA Antenna ที่ช่วยให้การรับส่งสัญญาณ WiFi มีประสิทธิภาพสูง และยังมี WPA/WPA2/WPA3-Personal สำหรับการรักษาความปลอดภัย มั่นใจในการใช้งานได้มากขึ้น รองรับระบบปฏิบัติการได้หลายระบบ และยังมี Multi-user MIMO ที่เชื่อมต่อได้หลายอุปกรณ์ ที่สำคัญคือตัวเครื่องมีขนาดเล็กจิ๋วมากๆ เหมาะกับการใช้งานทั้งโน๊ตบุ๊ค ที่ต้องพกพาไปนอกสถานที่โดยไม่กินพื้นที่ในการวางมากนัก สั่งซื้อที่ BaNANA

8. TP-Link Archer T2U Nano AC600: ราคา 390 บาท
ตัวรับสัญญาณ WiFi ที่มีขนาดเล็กจิ๋วอีกหนึ่งตัว แต่เอาไว้รับสัญญาณที่มีความเร็วสูงสุด 600 Mbps แบ่งเป็นคลื่น 5GHz ความเร็ว 433Mbps และคลื่น 2.4 GHz ความเร็ว 150Mbps ถึง 200Mbps มีขนาดเล็กและใช้พลังงานต่ำ ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป เช่น การท่องเว็บ เล่นเกม ดูหนัง หรือใช้งานทั่วไปบนโน๊ตบุ๊ค PC ที่พกพาใช้งานไม่กินพื้นที่ ใช้งานนอกสถานที่ได้สะดวก มีระบบปฏิบัติการที่รองรับได้ทั้ง Windows และ MacOS เหมาะกับคนที่ต้องการเน็ตแบบพอดีๆ และเน้นขนาดเล็กพกพาง่าย สั่งซื้อที่ BaNANA

9. MERCUSYS (MU6H) AC650: ราคา 315 บาท
ตัวรับสัญญาณ WiFi จาก MERCUSYS ที่มีความเร็วสูงสุด 433 Mbps บนคลื่น 5 GHz และ 150-200 Mbps บนคลื่น 2.4 GHz เชื่อมต่อเน็ตได้เร็วแรง มาพร้อมกับ External Antenna 5dBi ที่ช่วยเพิ่มความแรงของสัญญาณ WiFi อีกระดับ และรองรับ MU-MIMO สำหรับการเชื่อมต่อได้หลายอุปกรณ์ โดยตัวเครื่องจะมีเสาสัญญาณที่ปรับได้ 90-180 องศา มีระบบปฏิบัติการที่รองรับทั้ง Windows หลายเวอร์ชั่น และมีไดรเวอร์ภายในสำหรับการติดตั้งง่ายแค่เสียบก็ติดตั้งใช้งานได้เลย เหมาะกับการใช้งานทั่วไป เล่นเกม หรือว่าดูหนังได้สบายๆ เลย สั่งซื้อที่ Advice

10. ตัวรับ WIFI 600Mbps: ราคา 60 บาท
ปิดท้ายด้วยตัวรับสัญญาณ WiFi ที่ไม่มียี่ห้อ แต่ได้รับความนิยมสูง และมีราคาที่ถูกในหลักสิบบาท มีความเร็วสูงสุด 600 Mbps บนคลื่น 2.4GHz ใช้งานได้กับคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ค ได้ปกติ โดยตัวเครื่องจะมีเสาสัญญาณที่ปรับได้แบบ 2dBi รองรับระยะสัญญาณได้ไกล โดยเป็นพอร์ต USB 2.0 ใช้งานได้แบบทั่วไป และรองรับระบบปฏิบัติการได้ทั้ง Windows, MacOS และอื่นๆ ทุกแบบ และมีระบบความปลอดภัยให้ด้วย ส่วนการติดตั้งจะมีวิธีการเล็กน้อย โดยต้องใช้โปรแกรมร่วมในการติดตั้งด้วย เหมาะกับคนที่ต้องการความเร็วพอดีๆ และราคาที่ถูกมากๆ สั่งซื้อที่ Shopee
วิธีเลือกซื้อตัวรับสัญญาณ WiFi ต้องดูอะไรบ้าง
สำหรับการเลือกซื้อตัวรับสัญญาณ Wi-Fi นั้นควรพิจารณาจากปัจจัยหลายอย่าง แน่นอนว่าหลักๆ ก็คือความต้องการในการใช้งานของตัวเองว่าอยากได้แบบไหน ซึ่งควรดูจากความเร็วที่ต้องการ, มาตรฐาน WiFi ที่รองรับ และขนาดของอุปกรณ์ นอกจากนี้ยังควรตรวจสอบว่ามีเทคโนโลยีเพิ่มเติมอย่าง Beamforming หรือ MU-MIMO ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของสัญญาณ WiFi หรือไม่
ตัวอย่างเช่น TP-LINK Archer T4U และ Ugreen AC1300 มีความเร็วสูงและรองรับมาตรฐาน WiFi 5 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเร็วสูงในการเล่นเกมหรือสตรีมวิดีโอ 4K ในขณะที่ Tenda U11 AX900 ก็รองรับได้ถึง WiFi 5 และมีราคาไม่แพงและเหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป ดูหนังหรือเล่นเกมได้เช่นกัน นอกจากนี้การอ่านรีวิวจากผู้ใช้งานก็เป็นวิธีที่ดีในการประเมินประสิทธิภาพ และความน่าเชื่อถือของแต่ละรุ่น ที่สำคัญคือควรตรวจสอบว่าอุปกรณ์สามารถรองรับระบบปฏิบัติการที่ใช้งานอยู่หรือไม่ เช่น Windows, Mac OS หรือ Linux
คำถามที่คนมักค้นหา (FAQ)
- ตัวรับสัญญาณ Wi-Fi ใช้ทำอะไรได้บ้าง?
- ตัวรับสัญญาณ Wi-Fi ใช้เพื่อเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่าน WiFi โดยไม่ต้องใช้สาย และช่วยเพิ่มความแรงของสัญญาณในพื้นที่ที่สัญญาณอ่อน
- ตัวรับสัญญาณ Wi-Fi แบบ USB มีข้อดีอะไร?
- มีข้อดีคือใช้งานง่าย, พกพาสะดวก และสามารถติดตั้งได้ง่ายผ่านพอร์ต USB โดยตรง
- ตัวรับสัญญาณ Wi-Fi รุ่นไหนดีที่สุดในปี 2025?
- ขึ้นอยู่กับความต้องการ เช่น TP-LINK Archer T4U เหมาะสำหรับความเร็วสูง หรือถ้าอยากได้ราคาที่ถูกก็มีให้เลือกอีกหลายรุ่น
- ตัวรับสัญญาณ Wi-Fi มาตรฐาน WiFi 6 มีประโยชน์อะไร?
- มาตรฐาน WiFi 6 ให้ความเร็วและเสถียรภาพที่ดีขึ้น และรองรับอุปกรณ์หลายเครื่องพร้อมกันได้ดี
- ตัวรับสัญญาณ Wi-Fi มีผลต่อความเร็วอินเทอร์เน็ตหรือไม่?
- ตัวรับสัญญาณ Wi-Fi สามารถช่วยเพิ่มความแรงของสัญญาณ แต่ความเร็วอินเทอร์เน็ตขึ้นอยู่กับแต่ละรุ่นด้วย
ทั้งหมดนี้ก็เป็นตัวรับสัญญาณ WiFi ที่เราได้นำมาฝากกันทั้งหมด 10 รุ่นที่มีจุดเด่นแตกต่างกันไป ควรดูตัวเลือกที่เหมาะกับการใช้งานของตัวเองด้วย ว่าอยากได้รุ่นที่มีความเร็วสูง ความเร็วปานกลาง หรือว่าใช้แบบพอดีๆ ไม่ต้องแรงมาก รวมถึงการดูตัวเครื่องด้วยว่าเหมากับการพกพาในรูปแบบไหน นอกจากนี้ก็ควรดูเทคโนโลยีเพิ่มเติมและความเข้ากันได้กับระบบปฏิบัติการที่ใช้งานด้วย จะช่วยให้สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างเต็มที่และไม่มีปัญหาเรื่องสัญญาณอ่อน