
ใกล้เข้ามาแล้วสำหรับช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อนอย่างเป็นทางการของเหล่าลูก ๆ หลาน ๆ ที่เรียนอยู่ในโรงเรียนส่วนใหญ่ในประเทศไทย ซึ่งของขวัญรับปิดเทอมที่คาดว่าจะได้รับความนิยมก็คือกลุ่มของสมาร์ตโฟน มือถือเกมมิ่งราคาย่อมเยาที่สามารถซื้อให้เด็ก ๆ เล่นเกมในยามว่างได้ หรือจะให้เป็นของขวัญฉลองผลการสอบก็ยังได้ ซึ่งในบทความนี้เราจะมาแนะนำมือถือเล่นเกม 3 รุ่นเด่นที่ราคาไม่สูงมากนัก สามารถใช้เล่นเกมมือถือทั่วไป เกมมัลติที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบันได้
TECNO POVA 6 Neo ราคา 5,xxx บาท
เริ่มต้นด้วยรุ่นราคาเบาสุดอย่าง TECNO POVA 6 Neo ความจุ 128GB ในราคาประมาณ 5,000 บาท หรืออาจจะตัวเลขแตกต่างไปจากนี้เล็กน้อย ขึ้นอยู่กับการตั้งราคาของแต่ละร้านและโค้ดส่วนลดออนไลน์ที่สามารถใช้ได้ แต่โดยพื้นฐานแล้วจะลงตัวมากถ้าได้มาในราคาประมาณ 4 พันปลาย ๆ สเปคที่ได้ก็จะเป็นชิป MediaTek Helio G99 Ultimate ที่มีการปรับจูนประสิทธิภาพเล็กน้อยเพื่อให้เล่นเกมได้ดีขึ้น แม้ว่าจะเป็นชิปที่ออกมาในตลาดได้พักใหญ่ ๆ แล้วก็ตาม แต่ก็ถือว่ายังเป็นหนึ่งในชิปรุ่นยอดนิยม และมีการนำมาใส่ในมือถือ แท็บเล็ตรุ่นใหม่อยู่บ้าง โดยเฉพาะกลุ่มของรุ่นราคาย่อมเยา ด้วยแง่ความแรงที่ยังโอเค รองรับการเล่นเกมทั่วไปในปัจจุบันได้อยู่ แต่ก็จะรองรับการเชื่อมต่อเน็ตมือถือสูงสุดแค่ระดับ 4G เท่านั้น ยังใช้ 5G ไม่ได้ ส่วนแรมก็จะได้มาถึง 8GB เลย ถือว่าให้มาเกินราคาทีเดียว และยังมีฟังก์ชันเพิ่มแรมเสมือนที่จะดึงพื้นที่เก็บข้อมูลในเครื่องมาใช้เป็นแรมได้สูงสุดถึง 8GB ทำให้ทั้งเครื่องจะมีแรมให้ระบบใช้งานได้รวมสูงสุด 16GB
หน้าจอขนาด 6.78″ ความละเอียดระดับ FHD+ (2460×1080) รีเฟรชเรต 120Hz ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติสำหรับสมาร์ตโฟน Android ในยุคนี้ แต่จุดเด่นที่ต้องบอกว่าเหนือกว่าคู่แข่งหรือแม้กระทั่งเมื่อเทียบกับสมาร์ตโฟนด้วยกันหลาย ๆ รุ่นก็คือความจุแบตเตอรี่ที่ได้มาถึง 7000 mAh ทำให้สามารถเล่นเกมหรือใช้งานเครื่องติดต่อกันได้นาน รองรับการชาร์จเร็วสูงสุด 33W อีกทั้งยังมีระบบปรับการชาร์จให้เหมาะสมกับปริมาณแบตและอุณหภูมิสะสมด้วย จึงน่าจะเรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นที่เหมาะกับการเป็นมือถือเกมมิ่งได้ดีทีเดียว
ส่วนสเปคอื่นก็จะมีที่น่าสนใจคือตัวเครื่องมาพร้อมลำโพงคู่ ระบบเสียง Dolby Atmos มีคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นที่ระดับ IP53 ซึ่งสามารถกันน้ำ กันน้ำกระเซ็น กันละอองฝนได้ จึงค่อนข้างเหมาะกับการเป็นมือถือให้เด็ก ๆ ที่อาจยังมีความระมัดระวังในการพกพามือถือไม่มากนัก กล้องหลังจะมีเพียงแค่ตัวเดียวคือกล้อง 50MP มีเซ็นเซอร์ต่าง ๆ อาทิ G-Sensor, Ambient Light, Proximity และเข็มทิศอิเล็กทรอนิกส์ มาพร้อมการรับประกันศูนย์ไทย 13 เดือน
ข้อมูลเพิ่มเติมของ TECNO POVA 6 Neo
Nubia Neo 2 5G ราคา 6,xxx บาท
มือถือเล่นเกมราคาย่อมเยารุ่นที่สองก็คือ Nubia Neo 2 5G ที่ราคาจะวิ่งอยู่ราว 6 พันกลาง ๆ แต่หากใครที่สนใจรุ่นนี้ แม้ว่าสเปคที่ได้กับราคาโดยรวมจะโอเคก็ตาม แต่เป็นไปได้สูงมากว่าในช่วงปลายเดือนนี้จะมีรุ่นใหม่กว่าอย่าง Neo 3 5G เข้ามาเปิดตัวและขายในไทย ซึ่งสเปคก็จะขยับขึ้นจากนี้เล็กน้อย ราคาก็อาจจะใกล้เคียงกัน ดังนั้นหากสนใจก็แนะนำว่ารออีกนิดก็ดีครับ น่าจะได้เครื่องทันภายในช่วงปิดเทอมนี้ หรืออย่างน้อยตัวของ Neo 2 ก็อาจจะมีการปรับราคาถูกลงอีกนิดนึง
สำหรับสเปคโดยรวมจะได้ชิปเซ็ตเป็น Unisoc T820 ที่มีประสิทธิภาพและพลังกราฟิกเพียงพอสำหรับการเล่นเกมมือถือ เกมแนว MMORPG เกมแนว survival ยอดนิยมในปัจจุบันได้ มี launcher สำหรับเกมที่ใช้ชื่อว่า Game Space 2.0 มาช่วยเพิ่มความสะดวกในการปรับแต่งค่าต่าง ๆ รวมถึงการปรับระดับประสิทธิภาพให้เหมาะสม มีระบบกระจายความร้อนสะสมที่แผงเมนบอร์ด ตัวเครื่องมาพร้อมแรม 8GB รองรับการเพิ่มแรมเสมือนได้สูงสุด 12GB เป็นรวมแรมได้ถึง 20GB ความจุ 256GB UFS 3.1 ทำให้สามารถโหลดเกมมาเก็บในเครื่องได้สบาย สำหรับจุดเด่นของ Nubia Neo 2 5G ก็คือที่ขอบเครื่องจะมีแถบปุ่มกดด้านบนที่เป็น shoulder button มาให้ใช้ในแบบลักษณะของปุ่ม L2/LT กับ R2/RT บนจอย ที่ผู้ใช้สามารถตั้งค่าได้เลยว่าถ้ากดแล้วจะให้แอคชั่นออกมาเป็นแบบไหน เช่น ให้เหมือนเป็นการกดปุ่มค้างไว้ ให้เหมือนเป็นการสั่งใช้งานมาโคร เป็นต้น เหมาะมากสำหรับสายเล่นเกมที่ต้องการปุ่มควบคุมที่มากกว่าการใช้ปุ่มมาตรฐานบนจอ
แบตเตอรี่ให้มา 6000 mAh ชาร์จเร็ว 33W ตามเกณฑ์ หน้าจอขนาด 6.72″ FHD+ (2400×1080) รีเฟรชเรต 120Hz ที่สามารถปรับล็อกลงมาเหลือ 60Hz ได้เพื่อประหยัดแบตเตอรี่ หรือจะตั้งล็อก 120Hz หรือปล่อยให้ระบบจัดการให้ก็ได้เช่นกัน อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจคือ Nubia Neo 2 5G เป็นมือถือเกมมิ่งที่มาพร้อมประกันศูนย์ไทยนานถึง 18 เดือนเลย
ข้อมูลเพิ่มเติม Nubia Neo 2 5G
POCO X7 5G ราคา 7,xxx บาท
มือถือเกมมิ่งราคาเบา ๆ รุ่นสุดท้ายในบทความนี้ก็คือ POCO X7 5G มือถือรุ่นยอดนิยมสำหรับการใช้เล่นเกมในช่วงราคาไม่ถึงหมื่น จากราคาที่เร้าใจเมื่อเทียบกับสเปคที่ได้ อีกทั้งยังเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวและวางขายเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมานี่เอง โดยจะได้เป็นชิป MediaTek Dimensity 7300-Ultra ที่จัดว่าเป็นกลุ่มระดับกลางที่เน้นด้านความแรงขึ้นมา พลังกราฟิกก็มาจาก Mali-G615 MC2 รวมถึงยังรองรับการเชื่อมต่อ 5G ด้วย ทำให้หากใครที่กำลังมองหามือถือใช้งานจริงจังในราคาไม่ข้ามหมื่น ระดับประสิทธิภาพของตัว POCO X7 น่าจะตอบโจทย์ได้หลากหลายด้านทีเดียว สำหรับในรุ่นเริ่มต้นก็จะได้แรม 8GB สามารถขยายแรมด้วยแรมเสมือนได้สูงสุดอีกหนึ่งเท่าตัวของปริมาณแรมเดิม พื้นที่เก็บข้อมูล 256GB UFS 2.2
หน้าจอจะได้เป็น AMOLED 6.67″ ความละเอียดระดับ 1.5K (2712 x 1220) รีเฟรชเรต 120Hz มี touch sampling rate 480Hz สูงสุด 2,560Hz เมื่อเปิดโหมด Game Turbo นอกจากนี้ภายในยังมีแผงระบายความร้อนเพื่อช่วยให้เครื่องสามารถรีดประสิทธิภาพได้อย่างต่อเนื่องและยาวนาน กล้องหลังก็ให้มาเป็นชุดกล้องหลัก 50MP กล้องอัลตร้าไวด์ 8MP และกล้องมาโคร 2MP ส่วนของเซ็นเซอร์ในเครื่องก็ให้มาครบ ๆ มีไจโรด้วย จึงทำให้สามารถใช้เล่นเกมที่รองรับการควบคุมผ่านการเอียงเครื่องได้ เช่นเกมแนวขับรถ
หนึ่งในจุดเด่นที่น่าสนใจของ POCO X7 ที่สามารถซื้อให้เป็นมือถือเล่นเกมสำหรับเด็ก ๆ ก็คือ ตัวเครื่องได้รับการออกแบบและการผลิตมาให้มีความแข็งแกร่งทนทานกว่ารุ่นก่อน ๆ ทั้งส่วนของขอบมุมเครื่อง แผงบอร์ดที่หนาขึ้นกว่าเดิม กระจกหน้าจอ Gorilla Glass Victus 2 รวมถึงยังกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68 ซึ่งเทียบเท่ากับมือถือระดับเรือธงราคาหลักหมื่นได้เลย จึงน่าจะช่วยทำให้เครื่องมีความทนทานต่อการใช้งาน หรือการเกิดอุบัติเหตุตกหล่นโดยไม่ตั้งใจได้ดีขึ้น แต่จะมีจุดที่น่าเสียดายนิดนึงคือจะได้แบตเตอรี่มาน้อยกว่าอีกสองรุ่นที่เหลือ คือจะมีความจุอยู่ที่ 5110 mAh เท่านั้น แต่จะได้ระบบชาร์จเร็ว Turbo Charge ที่รองรับกำลังไฟสูงสุด 45W ทำให้สามารถเติมพลังได้เร็ว
กับอีกจุดที่แนะนำว่าอาจจะต้องให้ไปลองเล่นเครื่องจริงก่อนตัดสินใจซื้อ ก็คือบริเวณขอบกระจกจอทั้งสองข้างจะโค้งลงหาขอบเครื่องเล็กน้อย ซึ่งอาจส่งผลต่อการควบคุมเกมได้อยู่บ้างเหมือนกัน แต่ถ้าไม่มีปัญหาในจุดนี้ POCO X7 คือตอบโจทย์สายเกมได้สบายแน่นอน กับราคาที่จะเกือบ ๆ 8 พันบาท แต่ถ้าหาช่วงมีส่วนลดในออนไลน์ได้ ก็น่าจะลดลงมาได้พอสมควรทีเดียว