แนะนำ 9 หูฟัง Marshall รุ่นไหนดีปี 2024 รุ่นไหนน่าใช้ทั้งแบบมีสายและไร้สาย แต่ละรุ่นมีราคาล่าสุดเท่าไหร่บ้างในตอนนี้
ถ้าใครที่เป็นสายฟังเพลงหรือว่าสายดนตรีเชื่อว่าไม่มีใครที่ไม่รู้จักแบรนด์ดังอย่าง Marshall แน่นอน โดยหูฟังรุ่นล่าสุดที่ยังมีการวางขายอยู่ในตอนนี้ จะมีทั้งรุ่นที่มีสายเอาไว้เสียบได้ตามปกติ และแบบไร้สายที่เป็น Bluetooth ทั้ง earbuds และ in-ear ที่หาซื้อได้ง่ายกว่าหน่อย และอีกแบบก็คือแบบครอบหูสำหรับคนชอบความเป็นส่วนตัว วันนี้ทาง Specphone จะมาอัพเดทและแนะนำ 9 หูฟัง Marshall รุ่นไหนดีปี 2024 รุ่นไหนน่าใช้ทั้งแบบมีสายและไร้สาย พร้อมอัพเดทราคาล่าสุดของแต่ละรุ่นว่ามีราคาเท่าไหร่บ้างในตอนนี้
แนะนำหูฟัง Marshall รุ่นไหนดีปี 2024
1. Marshall Mode In-Ear Headphone: ราคา 1,490 บาท
เริ่มต้นด้วยหูฟัง Marshall ตัวแรกที่เป็นรุ่นเริ่มต้นแบบมีสาย พร้อมกับแจ็ค 3.5 มม. ตัวหูฟังเป็นแบบ In-ear มีจุกหูฟังมาให้เลือกใส่ 4 ขนาด สามารถใช้คุยโทรศัพท์ได้ และมีปุ่มควบคุมการใช้งานทั้งเล่นเพลง หยุดเพลง หรือรับสาย-วางสายได้ด้วย รุ่นนี้เป็นรุ่นประหยัดราคาถูกที่สุดแล้ว สั่งซื้อ
2. Marshall Mode EQ In-Ear Headphone: ราคา 2,490 บาท
เพิ่มราคามาอีก 1,000 บาทจะเป็นรุ่นใหญ่ของซีรีส์ Mode ที่เป็นหูฟังแบบมีสายพร้อมแจ็ค 3.5 มม. และเป็นหูฟังแบบ In-ear เหมือนกันกับอีกรุ่น โดยจุดที่ต่างกับรุ่นปกติ ถ้าไม่นับสีสันของตัวหูฟังก็คือฟีเจอร์ EQ ที่เราสามารถกดปรับได้ว่าจะเอาเสียงใสหรือเบสตึ้บๆ นอกนั้นก็มีไมค์ไว้คุยโทรศัพท์และปุ่มควบคุมเหมือนกันกับรุ่นปกติเลย สั่งซื้อ
3. Marshall Minor III: ราคา 3,990 บาท
มาดูที่หูฟัง Marshall ตัวที่เป็นแบบไร้สายหรือว่า True Wireless กันบ้าง ซึ่งรุ่นนี้เป็นรุ่นราคาถูกสุดในบรรดาหูฟังแบบไร้สายของ Marshall แล้ว ตัวหูฟังจะเป็นแบบ Earbuds สามารถใช้งานแยกข้างได้ สวมใส่ได้ง่ายและสบายหู กันน้ำได้ที่ IPX4 น้ำหนักเบาเพียง 4 กรัมมีไมค์พูดคุยได้ปกติ สามารถใช้งานได้ยาวนานสุด 5 ชั่วโมง หรือใช้กับเคสได้ 20 ชั่วโมง สั่งซื้อ
4. Marshall Minor IV: ราคา 4,990 บาท
อัพเกรดขึ้นมาใหม่ขึ้นอีกระดับกับเจนถัดมาที่มีราคาเพิ่มขึ้นมาอีก 1,000 บาทเท่านั้น ซึ่งตัวหูฟังนั้นเป็นแบบ Earbuds เช่นกัน แต่ว่ารุ่นนี้มีการปรับแต่งให้ใส่ได้สบายขึ้น เข้ากับช่องหูได้แบบพอดีๆ และยังมีการปรับจูนเสียงใหม่ให้ดีขึ้นกว่าเดิมด้วย สามารถกันน้ำได้ที่ IPX4 เหมือนกัน แต่ว่ารุ่นนี้ใช้งานได้ยาวนานกว่าเป็น 7 ชั่วโมง และใช้ร่วมกับเคสได้ถึง 23 ชั่วโมงเลย สั่งซื้อ
5. Marshall Major IV: ราคา 4,667 – 4,941 บาท
มาดูที่หูฟัง Marshall แบบครอบหูหรือ On Ear กันบ้าง ที่รุ่นนี้เป็นรุ่นเก่าแต่ยังใช้งานได้ดีอยู่เหมือนกัน ตัวหูฟังด้านในเป็นฟองน้ำใส่ได้สบายเข้ากับหูใส่นานๆ ได้โดยไม่ทำให้เจ็บ สามารถพับเก็บและพกพาได้สะดวก ส่วนนอกและก้านเป็นหนังเทียม ควบคุมได้ง่ายด้วยปุ่ม Control Knob เพียงปุ่มเดียว และใช้ได้นานสุด 80 ชม. หนัก 165 กรัม จะเสียบสาย AUX หรือใช้แบบไร้สายก็ได้ สั่งซื้อ
6. Marshall Major V: ราคา 5,990 บาท
หูฟังแบบ On Ear รุ่นถัดมาเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงมากๆ ด้วยราคาที่ดีงามบวกกับการใช้งานที่ดีเยี่ยมจากการอัพเกรดสเปคเพิ่มขึ้นจากเดิม ตัวหูฟังสามารถใส่ได้สบายหูจากฟองน้ำที่พอดีกับทรงหูทำให้ใส่นานๆ ได้โดยไม่ทำให้เจ็บ ด้านนอกหุ้มด้วยหนังเทียมเช่นกัน สามารถพับเก็บพกพาได้สะดวก และควบคุมได้ง่ายจาก Control Knob และปุ่ม M-BUTTON ฟังแบบสายหรือไร้สายก็ได้ และใช้ได้นานกว่า 100 ชั่วโมงเลย สั่งซื้อ
7. Marshall Motif II A.N.C.: ราคา 7,490 บาท
หูฟัง Marshall แบบ True Wireless ที่ได้รับความนิยมสูงอีกหนึ่งรุ่นที่เป็นหูฟังแบบ In Ear เป็นรุ่นที่อัพเกรดมาเป็นรุ่นที่ 2 แล้ว มีการปรับปรุงใหม่ทั้งเสียงและการทำงานต่างๆ ให้ดีขึ้น สามารถกันน้ำได้ IPX5 มาพร้อมไดร์เวอร์ขนาด 6 มม. ใส่เสียงกระหึ่ม และสามารถตัดเสียงรบกวนจากภายนอกแบบแอคทีฟได้ ตัวหูฟังควบคุมได้ง่ายจากการสัมผัส มีน้ำหนักเพียงข้างละ 4.31 กรัมและใช้ได้นาน 9 ชั่วโมง หรือใช้กับเคสได้ถึง 34 ชั่วโมงเลย สั่งซื้อ
8. Marshall Monitor II A.N.C.: ราคา 8,991 – 9,990 บาท
หูฟังแบบ On Ear ที่รุ่นนี้จะมีดีไซน์แบบวงรี ต่างจากตัว Major ที่เป็นแบบเหลี่ยม โดยรุ่นนี้จะมีตัวครอบหูขนาดใหญ่สามารถปิดได้ทั้งหู ด้านในเป็นฟองน้ำนิ่มใส่ได้นานไม่เจ็บหู ด้านนอกหุ้มด้วยหนังเทียมตามแบบของ Marshall สามารถควบคุมการทำงานได้ด้วย Control Knob และ M Button สามารถตัดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟได้ (ตัวกดอยู่ที่ก้าน) แน่นอนว่าสามารถพับเก็บได้ จะฟังแบบสายหรือไร้สายก็ได้ พร้อมใช้ได้นาน 30-45 ชั่วโมง สั่งซื้อ
9. Marshall Monitor III A.N.C.: ราคา 12,990 บาท
ปิดท้ายด้วยหูฟัง Marshall แบบ On Ear รุ่นล่าสุดของ Marshall ที่จะมีการวางขายในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2024 เป็นต้นไป โดยตัวนี้ก็เป็นตัวท็อปของซีรีส์ที่ยังคงรูปแบบการดีไซน์เหมือนกับรุ่นก่อนหน้า โดยการอัพเกรดของรุ่นนี้ก็คือทำให้เบากว่าเดิมเหลือเพียง 250 กรัม มีการปรับให้ใส่สบายขึ้นทั้งด้านในและก้านหูฟัง สามารถตัดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟได้ และควบคุมด้วย Control Knob กับ M Button มีการปรับเสียงและไดร์เวอร์ด้านในใหม่ให้ดีขึ้นกว่าเดิม ใครสายฟังเพลงแบบจัดเต็มห้ามพลาดเลย ที่สำคัญก็คือรุ่นนี้ใช้ได้นานกว่าเดิมถึง 70 – 100 ชั่วโมงเลยทีเดียว สั่งซื้อ
ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลการอัพเดทพร้อมแนะนำหูฟัง Marshall รุ่นไหนดีปี 2024 ทั้งหมด 9 รุ่นที่มีขายอยู่ในไทยล่าสุดตอนนี้ พร้อมกับราคาที่อัพเดทใหม่ หลังจากรุ่นล่าสุดที่เปิดตัวออกมาวางขายและยังได้นักร้องนำวง Green Day มาเป็นพรีเซนเตอร์ให้อีกด้วย เรียกได้ว่าใครเป็นสายร็อคสายหูฟังที่อยากได้คุณภาพเสียงระดับโลกก็ต้องเป็น Marshall นี่แหละที่หลายคนให้การยอมรับ ส่วนใครที่อยากจะได้แบบมีสายหรือไร้สายของ Marshall เองก็มีให้เลือกกันแบบครบๆ เลยด้วย