จากในงานเปิดตัว Xiaomi 15 series ไป อีกหนึ่งไฮไลท์ในงานก็คือการเปิดตัวระบบ Xiaomi HyperOS 2 ที่จะถูกนำมาใช้ในอุปกรณ์ต่าง ๆ อาทิ สมาร์ตโฟน แท็บเล็ต ทีวีและอุปกรณ์สวมใส่ต่าง ๆ ซึ่งจะทยอยมีการอัปเกรดเวอร์ชันตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไปจนถึงช่วงกลางปีหน้า
โดยหนึ่งในฟีเจอร์ที่เป็นตัวชูโรงก็คือ Xiaomi HyperConnect ที่จะเข้ามาเป็นตัวกลางช่วยให้อุปกรณ์ของ Xiaomi และ ของ Apple ทำงานร่วมกันได้แบบไร้รอยต่อเสมือนว่ากำลังใช้งานอยู่ในระบบนิเวศของ Apple เลย สำหรับฟีเจอร์หลักที่มีการกล่าวถึงในงานมีดังนี้
- สามารถเปิดไฟล์ที่สร้างจากแอป Pages, Keynote และ Numbers ในชุด iWork บนมือถือ Xiaomi ได้ (น่าจะแก้ไขไฟล์ไม่ได้)
- แชร์ภาพจากจอมือถือ Xiaomi ขึ้นใน Mac แบบเดียวกับฟีเจอร์ iPhone Sharing ใน macOS Sequoia ผ่านระบบ MiShare Desktop
- แชร์คลิปบอร์ดที่คัดลอกข้อความหรือไฟล์ต่าง ๆ ไว้ข้ามอุปกรณ์กันระหว่าง Xiaomi และ Apple ได้
- ใช้งานกล้องของมือถือ Xiaomi และ iPhone ร่วมกันได้
- เปิดให้ผู้ใช้สามารถปรับตั้งค่า ควบคุมการทำงานอุปกรณ์สวมใส่ และอุปกรณ์สมาร์ตโฮมของ Xiaomi ผ่านอุปกรณ์ของ Apple ได้โดยตรง โดยไม่จำเป็นต้องมีมือถือ Xiaomi เลย
- สามารถส่งวิดีโอจากมือถือ Xiaomi และ iPhone ไปแสดงบนทีวี Xiaomi แบบ PiP ได้
สำหรับการใช้งาน ผู้ใช้จะต้องติดตั้งแอป Xiaomi Internet Service ที่สามารถโหลดได้จาก App Store ได้เลย ซึ่งจะสามารถใช้งานได้บน iOS/iPadOS 14 รวมถึงในเครื่อง Mac ชิป M1 ที่ใช้ macOS 11.0 ขึ้นไป
ส่วนฝั่งของ Xiaomi ก็จะมีการเปิดเผยอุปกรณ์รุ่นที่สามารถอัปเกรดเป็น HyperOS 2 ได้ แบ่งตามช่วงเวลาที่ปล่อยอัปเดตดังนี้
อุปกรณ์ที่มาพร้อม HyperOS 2.0 อยู่แล้ว
- Xiaomi 15 และ 15 Pro
- Xiaomi Pad 7 และ 7 Pro
- Xiaomi TV S Pro Mini LED 2025 (ขนาด 65″, 75″, 85″ และ 100″)
- Redmi Smart TV X 2025 (ขนาด 55″, 65″, 75″ และ 85″)
- Xiaomi Watch S4 series
- Xiaomi Mi Band 9 Pro
ทยอยปล่อยอัปเดตในเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป
- Xiaomi 14 series
- Xiaomi MIX Fold 4
- Xiaomi MIX Flip
- Redmi K70 series
- Xiaomi Pad 6S Pro 12.4
ทยอยปล่อยอัปเดตในเดือนธันวาคมเป็นต้นไป
- Xiaomi 13 series
- Xiaomi MIX Fold 3
- Redmi K60 series
- Redmi Note 14 series
- Xiaomi Pad 6 Max 14 และ 6 Pro
- Redmi Pad Pro series และ Pad SE
ทยอยปล่อยอัปเดตในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2025 เป็นต้นไป
- Xiaomi 12 และ 11 series
- Xiaomi MIX Fold 2
- Redmi K50 series
- Redmi Note 13 series
- Redmi 12 5G
- Xiaomi Pad 6
ที่มา: GizmoChina, XiaomiTime