สเปค OPPO Reno 11/ OPPO Reno 11 Pro อัพเกรดสเปคสำหรับสาย Portrait ด้วยกล้อง 50MP และความแรงเพิ่มขึ้น
เปิดตัวออกมาแล้วสำหรับมือถือรุ่นล่าสุดจาก OPPO ในช่วงปลายปีกับ OPPO Reno11 Series ที่ปล่อยออกมาพร้อมๆ กับสองรุ่นคือรุ่นปกติ และรุ่นโปรที่อัพเกรดสเปคทั้งความแรง กับเซ็นเซอร์ของกล้อง แต่ว่าทั้งสองรุ่นนี้ก็เน้นหลักๆ มาให้เหมือนกันคือการถ่ายรูปแบบ Portrait โดยเฉพาะที่ถ่ายได้ถึงขั้น DSLR เลยทีเดียว นอกจากนี้ก็ยังมีดีไซน์ตัวเครื่องใหม่ให้มีความสวยหรูมากขึ้น กับรายละเอียดอื่นๆ ที่ได้ปรับปรุงให้ดีขึ้นด้วย โดยในตอนนี้มีการเปิดตัวออกมาวางขายอยู่แค่ในประเทศจีนเท่านั้น ก็ต้องมารอลุ้นและดูกันอีกทีว่าบ้านเราจะได้นำเข้ามาวางขายในช่วงไหน เพราะตอนนี้ก็ผ่านการรับรองจาก TDRA ที่เป็นรุ่น Global ไปแล้ว เดี๋ยววันนี้ทาง Specphone จะมาสรุปสเปค OPPO Reno 11/ OPPO Reno 11 Pro ที่มีการอัพเกรดสเปคใหม่สำหรับสาย Portrait ด้วยกล้อง 50MP และความเร็วแรงของชิปกันว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงและมีอะไรใหม่บ้าง
OPPO Reno 11
มาเริ่มต้นกันที่รุ่นปกติของ OPPO Reno 11 กันก่อนเลย สำหรับรุ่นนี้ที่มีการออกแบบตัวเครื่องในรูปแบบเดิมคือตัวเครื่องโค้งกับกรอบที่เบาบางสุดเพียง 7.59 มม. สำหรับรุ่นที่มีลวดลายฝาหลังเหมือนหินอ่อนสีเขียว Turquoise Green และสีดำ Obsidian Black ส่วนอีกแบบนึงจะเป็นเหมือนพื้นผิวอัญมณีแวววาวลวดลายสามมิติคือสีขาว Moonshine Gemstones มีตัวเครื่องบาง 7.66 มม. น้ำหนัก 184 กรัม รวมไปถึงโมดูลกล้องหลังยังทำเป็นแบบแคปซูล แต่ทำสีให้กลืนไปกับฝาหลังดูพรีเมียมมากขึ้น
สำหรับหน้าจอของรุ่นนี้ก็เป็นหน้าจอโค้งเหมือนเดิม เป็นหน้าจอแบบ OLED ความละเอียด FHD+ (2412×1080) กว้าง 6.7 นิ้วและมี Refresh Rate 120Hz กับ Touch Sampling Rate 240Hz ให้สีสันคมชัดหน้าจอไหลลื่น และสามารถทำความสว่างได้สูงสุด 950nits ที่รองรับการหรี่แสง PWM ด้วยความถี่ 2160Hz ช่วยถนอมสายตาได้ดีเยี่ยมและรองรับ HDR10+ ด้วย รุ่นนี้มีรูกล้องหน้าแบบ Punch Hole สามารถสแกนลายนิ้วมือใต้จอหรือสแกนด้วยใบหน้าเพื่อปลดล็อค
ความเร็วแรงของสเปคภายในรุ่นนี้ได้ใช้ชิป Dimensity 8200 (4nm) ตัวแรงของรุ่นสเปคกลางที่มี RAM 8/12GB กับ ROM 256/512GB มีให้เลือกถึง 3 สเปค ขยายแรมเพิ่มได้อีกเท่าตัวมีฟีเจอร์สำหรับเล่นเกมครบ สามารถปรับกราฟิกในเกม Honor of Kings ได้ถึง 120Hz และยังรองรับสัญญาณได้รอบทิศ 360 องศา นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีเสียงแบบ Holographic Audio เป็นรุ่นแรกมีการจำแนกเสียงได้ 12 แบบและไกลสุดถึง 5 เมตร พร้อมรองรับเสียงแบบ Hi-Res ทำงานบนระบบ ColorOS 14.0 บน Android 14 รองรับการเชื่อมต่อ 5G/ Wi-Fi 6/ BT 5.4/ OTG/ NFC มีแบตมาให้ที่ขนาดความจุ 4,800mAh ชาร์จไวด้วย Super Flash Charge 67W ขึ้นมา 50% ใน 19 นาทีเท่านั้น
จุดเด่นของรุ่นนี้อยู่ที่เรื่องกล้องหลังที่มีความละเอียดหลัก 50MP (ƒ/1.8) ระดับเดียวกับ DSLR ที่ใช้เซ็นเซอร์ Sony LYT600 พร้อมกันสั่นแบบออปติคัล OIS อีกสองตัวคือเลนส์ Ultrawide 8MP (ƒ/2.2) ถ่ายได้กว้าง 112 องศาและเลนส์ Portrait Telephoto 32MP (ƒ/2.0) สามารถซูมออปติคัลได้ 2 เท่า และซูมแบบดิจิตอลได้สูงสุด 20 เท่า รองรับการถ่ายภาพ Portrait เต็มรูปแบบกับการถ่ายวิดีโอได้ 4K@30fps ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 32MP (ƒ/2.4) เซลฟี่ได้เป็นธรรมชาติ รองรับการโฟกัสต่ำสุด 15 ซม. และการซูมที่คมชัดเป็นพิเศษ 2 เท่าพร้อมถ่ายวิดีโอได้ 4K@30fps เช่นกัน มีราคาตามความจุคือ
- รุ่น 8/256GB: ราคา 2,499 หยวน หรือประมาณ 12,400 บาท
- รุ่น 12/256GB: ราคา 2,799 หยวน หรือประมาณ 13,800 บาท
- รุ่น 12/512GB: ราคา 2,999 หยวน หรือประมาณ 14,800 บาท
สรุปสเปค OPPO Reno 11
- หน้าจอ: จอโค้ง OLED ระดับ FHD+ (1080×2412) กว้าง 6.7 นิ้ว/ Refresh Rate 120Hz/ สว่าง 950nits
- มาตรฐานสี P3 100%
- รองรับ HDR10+
- ชิปประมวลผล: MediaTek Dimensity 8200 (4nm)
- RAM: 8GB/ 12GB, (LPDDR5x)
- ROM: 256GB/ 512GB, (UFS 3.1)/ เพิ่มหน่วยความจำไม่ได้
- กล้องหลัง 3 ตัวความละเอียด
- เลนส์หลัก 50MP (ƒ/1.8)/ OIS/ Sensor Sony LYT600
- เลนส์ Ultra-wide 8MP (ƒ/2.2)/ กว้าง 112 องศา
- เลนส์ Portrait Telephoto 32MP (ƒ/2.0), Optical Zoom 2x, Digital Zoom 20x/ IMX709
- วิดีโอ 4K@30fps
- กล้องหน้าความละเอียด: 32MP (ƒ/2.4)/ IMX709/ 4K@30fps
- การเชื่อมต่อ: 5G, Wi-Fi 6, BT5.4, NFC, OTG, USB-C
- ซิม: Nano SIM ทั้งหมด 2 ช่อง
- ระบบปฏิบัติการ: Android 14 ครอบทับ ColorOS 14.0
- แบตเตอรี่ความจุ: 4,800mAh/ Super Flash Charge 67W
- ราคา: 2,499 หยวน หรือประมาณ 12,400 บาท
OPPO Reno 11 Pro
มาดูที่รุ่นโปรกันบ้างสำหรับ OPPO Reno 11 Pro รุ่นนี้ก็มีดีไซน์มาเป็นแบบเดียวกันกับรุ่นปกติเลย ทั้งกรอบที่บางเฉียบโค้งไปที่ฝาหลัง มีความหนา 8.19 มม. สำหรับรุ่นสีดำ Obsidian Black ส่วนอีกสองสีมีความหนา 8.26 มม. คือสีเขียว Turquoise Green และสีขาว Moonshine Gemstones โดยมีน้ำหนัก 190 กรัมเท่ากันทั้งหมด จุดที่ทำให้ดีไซน์ของรุ่นโปรต่างจากรุ่นปกติก็คือส่วนของโมดูลกล้องหลังที่ใส้หมุดรอบๆ กรอบตัวกล้อง และทำลวดลายผลึกเหมือนน้ำแข็งตรงด้านในที่มีเลนส์สองตัว ดูหรูหราพรีเมียมขึ้นอีกระดับ
ส่วนหน้าจอก็มีความคล้ายกันที่เป็นหน้าจอโค้ง 3D แบบ OLED ความละเอียดถึง 1.5K (2772×1240) ขยายความกว้างมากถึง 6.74 นิ้วพร้อม Refresh Rate 120Hz แบบ Adaptive ปรับได้ 3 แบบคือ 60, 90, 120Hzกับ Touch Sampling Rate 240Hz กับการรองรับการหรี่แสง PWM ด้วยความถี่ 2160Hz และ HDR10+ เช่นกัน แต่ว่ารุ่นนี้ก็ได้อัพเกรดขึ้นไปอีกขั้นด้วยความสว่างหน้าจอ ที่สว่างเป็นพิเศษถึง 1600nits นอกจากนี้ก็ยังสามารถปรับแสงและเงาแบบไดนามิกระดับเรือธง ที่จะสว่างขึ้นในช่วงเวลาไฮไลท์อย่างตอนเข้าไปดูรูปที่ถ่ายไว้ได้ด้วย
จุดที่อัพเกรดสเปคขึ้นมาให้แตกต่างอีกอย่างก็คือชิปประมวล ที่ได้ชิประดับเรือธงอย่าง Snapdragon 8+ Gen 1 (4nm) ที่มี RAM 12GB และ ROM 256/512GB ขยายแรมเพิ่มได้อีก 12GB มีฟีเจอร์รองรับการเล่นเกมทั้ง HyperBoost และการปรับแสงแบบ Super Lightning พร้อมมอเตอร์แกน X แบบ 4D สั่นได้สมจริงกับการระบบระบายความร้อนที่ดีเยี่ยม นอกนั้นก็มีลำโพงคู่ที่มีเทคโนโลยีเสียงแบบ Holographic Audio กับ Hi-Res ได้เหมือนกันหมด รวมไปถึงการทำงานบนระบบ ColorOS 14.0 และการเชื่อมต่อ 5G/ Wi-Fi 6/ BT5.3/ OTG/ NFC แต่ว่ารุ่นนี้มีความจุแบตที่ 4,700mAh รองรับการชาร์จไว 80W ชาร์จเต็ม 100% ใน 27 นาที
ปิดท้ายด้วยเรื่องกล้องที่รุ่นโปรก็เสริมความเป็นโปรให้มากขึ้น ด้วยความละเอียดหลัก 50MP (ƒ/1.8) ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX890 ตัวเรือธงแทนนอกนั้นก็มีกันสั่น OIS เหมือนกันและอีกสองเลนส์ก็เป็นอัลตร้าไวด์ 8MP (ƒ/2.2) ถ่ายได้กว้าง 112 องศากับ Portrait Telephoto 32MP (ƒ/2.0) ที่ซูมออปติคัลได้ 2x ซูมดิจิตอลได้ 20x ถ่ายภาพบุคคลได้เป็นธรรมชาติขั้นสุด อีกทั้งยังถ่ายวิดีโอได้ถึง 4K@60fps ส่วนกล้องหน้ามีเหมือนกันกับรุ่นปกติคือ 32MP (ƒ/2.4) รองรับการโฟกัส 15 ซม. และการซูมพิเศษ 2 เท่าสามารถถ่ายวิดีโอได้ 4K@30fps มีให้เลือก 2 รุ่นคือ
- รุ่น 12/256GB: ราคา 3,499 หยวน หรือประมาณ 17,200 บาท
- รุ่น 12/512GB: ราคา 2,999 หยวน หรือประมาณ 18,700 บาท
สรุปสเปค OPPO Reno 11 Pro
- หน้าจอ: จอโค้ง OLED ระดับ 1.5K (2772×1240) กว้าง 6.74 นิ้ว/ Refresh Rate 120Hz (60/90/120Hz)/ สว่าง 1600nits
- มาตรฐานสี P3 100%
- รองรับ HDR10+
- ชิปประมวลผล: Qualcomm Snapdragon 8+ Gen 1 (4nm)
- RAM: 12GB, (LPDDR5x)
- ROM: 256GB/ 512GB, (UFS 3.1)/ เพิ่มหน่วยความจำไม่ได้
- กล้องหลัง 3 ตัวความละเอียด
- เลนส์หลัก 50MP (ƒ/1.8)/ OIS/ Sensor Sony IMX890
- เลนส์ Ultra-wide 8MP (ƒ/2.2)/ กว้าง 112 องศา
- เลนส์ Portrait Telephoto 32MP (ƒ/2.0), Optical Zoom 2x, Digital Zoom 20x/ IMX709
- วิดีโอ 4K@60fps
- กล้องหน้าความละเอียด: 32MP (ƒ/2.4)/ IMX709/ 4K@30fps
- การเชื่อมต่อ: 5G, Wi-Fi 6, BT5.3, NFC, OTG, USB-C
- ซิม: Nano SIM ทั้งหมด 2 ช่อง
- ระบบปฏิบัติการ: Android 14 ครอบทับ ColorOS 14.0
- แบตเตอรี่ความจุ: 4,700mAh/ ชาร์จไว 80W
- ราคา: 3,499 หยวน หรือประมาณ 17,200 บาท
ทั้งหมดนี้ก็เป็นการสรุปสเปคของ OPPO Reno 11 และ OPPO Reno 11 Pro ที่เราได้นำมาสรุปสเปคให้ทุกจุด ซึ่งรุ่นนี้ก็มีการอัพเกรดสเปคอยู่พอสมควร ถึงแม้ว่าชิปของรุ่นปกติจะได้ตัวเดียวกับรุ่นโปรรุ่นก่อนหน้าของสเปคจีนก็ตาม แต่ด้านสเปคอื่นๆ ก็อัพเกรดใหม่ทั้งดีไซน์และตัวกล้องหลังที่ถ่ายภาพพอร์ตเทรตได้ดีขึ้นแบบเทียบเท่า DSLR ได้เลย แต่ถ้าอยากไปสุดกว่านั้นก็ต้องรุ่นโปร ที่ได้ทั้งชิป หน้าจอ และกล้องที่อัพเกรดใหม่เต็มระบบ เพิ่มความเป็นโปรได้มากขึ้นในเรื่องการถ่ายรูปพอร์ตเทรต ทั้งนี้ก็ต้องมารอลุ้นกันอีกทีว่าสเปคที่จะเป็นแบบ Global และสเปคที่เข้าไทยจะเป็นแบบไหน และมีรุ่นความจุเท่าไหร่เข้ามาบ้าง เอาไว้เราจะมาอัพเดทเพิ่มเติมให้อีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลและรูปแภาพทั้งหมดจาก OPPO CN