1.) สเปกจัดเต็มในราคาที่เป็นมิตรกับคนรุ่นใหม่
iQOO Z7 Series 5G เปิดราคาเริ่มต้นอย่างเป็นทางการมาที่7,999 บาท ซึ่งถือเป็นราคาที่คนรุ่นใหม่สามารถเอื้อมถึงได้ และอัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์ระดับแฟล็กชิปที่ครอบคลุมและตอบโจทย์การใช้งานในทุกๆ มิติ เหมาะสำหรับกลุ่มผู้ใช้งานที่ชื่นชอบความเร็ว แรง มีไลฟ์สไตล์ที่รวดเร็วและชอบทำงานแบบ multitasking โดยเฉพาะรุ่น Z7 5G มาพร้อมกับฟีเจอร์ชาร์จไว 120W สามารถชาร์จ 1-50% ได้ในเวลาเพียง 9 นาที หรือชาร์จเพียงแค่ 5 นาที ก็สามารถรับชมวิดีโอได้ต่อเนื่องนานถึง 5 ชั่วโมง และชาร์จเพียง 9 นาที สามารถเล่นเกมได้ 3 ชั่วโมง รวมทั้งทำงานได้รวดเร็วกับชิปเซ็ตรุ่นใหม่ระดับแถวหน้า Qualcomm Snapdragon 782G ได้คะแนนทดสอบ AnTuTu สูงถึง 593,283 คะแนน ผสานการทำงานร่วมกับเทคโนโลยี Extended RAM 3.0 เพิ่ม RAM ได้สูงสุด 8GB พร้อมหน้าจอ 6.64 นิ้ว รองรับ HDR10 รีเฟรชเรทสูงถึง120Hz ปรับได้ 7 ระดับ และอัตราความเร็วในการตอบสนองต่อการสัมผัสที่ 1200Hz ซึ่งถือเป็นสเปกมือถือระดับเรือธงที่ถูกนำมาใส่ไว้ในราคาที่ดีมากเลยทีเดียว
2) เทคโนโลยีกล้องถ่ายภาพสุดล้ำ
ถึงแม้จะดูเป็นสมาร์ตโฟนสำหรับสายเกมมิง แต่จริงๆ แล้วสเปกกล้องที่ให้มาใน iQOO Z7 Series 5G ถือว่าจัดเต็มมากๆ สำหรับรุ่น Z7 5G มาพร้อมกับกล้องหลักความละเอียด 64MP พร้อมรองรับ OIS Ultra-Sensing ทำให้ผู้ใช้งานสามารถถ่ายภาพได้มั่นคงเหมือนใช้ขาตั้งกล้อง และยังมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบไฮบริด (OIS + EIS) มอบผลลัพธ์ฟุตเทจวิดีโอที่ไม่สั่นไหวและสมบูรณ์แบบ แถมยังรองรับการถ่ายวิดีโอความคมชัดระดับ 4K หรือใครที่ชื่นชอบถ่ายภาพบุคคล สมาร์ตโฟนรุ่นนี้ยังรองรับโหมดภาพถ่ายพอร์ตเทรตที่สามารถสร้างเอฟเฟกต์โบเก้ (Bokeh) และเบลอพื้นหลังให้ภาพถ่ายพอร์ตเทรตโดดเด่นเหมือนสมาร์ตโฟนรุ่นโปร
3) ดีไซน์คุณภาพ พกไปทุกที่ด้วยความมั่นใจ
iQOO Z7 Series 5G ได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถันในทุกๆ มิติ ผสมผสานกันอย่างลงตัว เลือกใช้วัสดุระดับพรีเมียมกับตัวเครื่องแบบ 3D รูปทรงเพรียวบาง มุมโค้งมนสอดรับกับมือ โมดูลกล้องรูปทรงวงแหวน Halo คู่ ดีไซน์สีแบบทูโทนมีให้เลือกทั้งสี Metallic Grey สไตล์ดุดัน น่าเกรงขาม รวมทั้งสี Matrix Blue และสี Tropical Blue ให้ความรู้สึกทันสมัย สวยงามไม่ซ้ำใคร โดดเด่นด้วยลูกเล่นเวลาเครื่องกระทบแสง และที่สำคัญคือได้รับการทดสอบความแข็งแรงมาแล้วการันตีการใช้งานยาวนานได้หลายปี ไม่ว่าจะเป็นทดสอบปุ่มเปิด-ปิด เครื่องกว่า 150,000 ครั้ง ปุ่มปรับระดับเสียงกว่า 70,000 ครั้ง ผ่านการทดสอบการตกกระแทกแบบไม่รุนแรงในหลากหลายมุมกว่า 32,000 ครั้ง การทดสอบอุณหภูมิหน่วยความจำที่ความร้อนสูงสุด 75 องศา และความเย็นถึง -40 องศา พกออกไปใช้งานด้วยความมั่นใจได้ทุกที่
4) รองรับการเชื่อมต่อรวดเร็วเพียงแค่แตะครั้งเดียว
แชร์ข้อมูลให้เพื่อนๆ ได้ง่ายเพียงแค่ปลายนิ้ว กับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่ครบครันทั้งรองรับ NFC เพียงแค่แตะเดียวก็สามารถส่งต่อเรื่องราวให้คนรอบข้างได้อย่างสะดวกสบาย หรือจะเปลี่ยนสมาร์ตโฟนให้เป็นรีโหมดคอนโทรลแบบอินฟาเรดก็ทำได้ง่ายดาย และยังรองรับ Wi-Fi 6 ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น หรือใครที่ยังคิดถึงหูฟัง 3.5 มม. สมาร์ตโฟนรุ่นนี้ก็ยังรองรับ ตอบโจทย์ครบทุกการเชื่อมต่อ นอกจากนี้ยังมั่นใจในระบบความปลอดภัยกับฟีเจอร์ปลดล็อกเครื่องด้วยการสแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง พร้อมรองรับการอัปเดตระบบปฏิบัติการ Android และ Funtouch OS ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด
5) บริการหลังการขายระดับพรีเมียม
สำหรับ iQOOers ชาวไทย สามารถใช้งานสมาร์ตโฟนไอคูได้อย่างมั่นใจกับบริการหลังการขายระดับพรีเมียมที่ศูนย์บริการของ vivo ทั้ง 35 สาขาทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นบริการรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ ตรวจสอบสภาพเครื่อง อัปเดตระบบ และบริการซ่อมครบวงจร
iQOO Z7 Series 5G วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว มีให้เลือกหลากหลายรุ่นทั้ง iQOO Z7 5G กับ 2 สีใหม่ Metallic Grey และ Matrix Blue กับ 2 รุ่นความจุ RAM 8GB + ROM 128GB ราคา 10,999 บาท และรุ่นความจุ RAM 12GB + ROM 256GB ราคา 11,999 บาท รวมทั้งอีกหนึ่งตัวเลือกกับ iQOO Z7x 5G กับ 2 สีใหม่ Metallic Grey และ Tropical Blue ในรุ่นความจุ RAM 8GB + ROM 128GB ราคา 7,999 บาท และรุ่นความจุ RAM 8GB + ROM 256GB ราคา 8,499 บาท
ติดตามข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับ iQOO เพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก iQOO Thailand และเว็บไซต์ https://www.iqoo.com/th