แนะนำ 10 มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ายี่ห้อไหนดีในปี 2022 มีรุ่นไหนขายในไทยและน่าซื้อมาใช้งานบ้าง
หลังจากที่เราได้แนะนำรถยนต์ไฟฟ้า หรือว่ารถ EV ราคาไม่เกินล้านในปี 2022 กันไปแล้ว (ดู 8 รถ EV ราคาไม่เกินล้านในปี 2022 ได้ที่นี่) คราวนี้ก็มาถึงจักรยานยนต์ไฟฟ้า หรือมอเตอร์ไซค์ที่เป็นไฟฟ้าแบบ EV กันบ้าง ที่ในตอนนี้ประเทศไทยเราก็ได้มีการนำเข้ามาวางขายกันอยู่หลายยี่ห้อ และมีให้เลือกหลายรุ่นมากๆ ทั้งรุ่นที่เป็นแบบมอเตอร์ไซค์ EV ตัวเล็กๆ สำหรับใช้งานในพื้นที่ใกล้บ้าน ไปจนถึงมอเตอร์ไซค์ EV ที่มีชนาดกลางและใหญ่ เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการระยะทางที่มากขึ้น และสามารถใช้ในทางไกลได้ด้วยนั่นเอง โดยมอเตอร์ไซค์ EV ในบ้านเรานั้นก็ได้เริ่มมีการนำเข้ามาขายอย่างกว้างขวาง และหาซื้อได้ไม่ยากเหมือนแต่ก่อนแล้ว ที่สำคัญก็คือราคาที่จับต้องได้ ไม่ได้มีราคาสูงมากไปกว่ามอเตอร์ไซค์ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงทั่วไปเลย เรียกได้ว่าเป็นการประหยัดทั้งราคาซื้อ และราคาค่าเชื้อเพลิงในการใช้งานได้ดีเลย เดี๋ยววันนี้ทาง Specphone จะมาแนะนำ 10 มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ายี่ห้อไหนดีในปี 2022 มีรุ่นไหนที่มีขายในไทย และมีรุ่นไหนน่าซื้อมาใช้งานบ้าง
- ETRAN MYRA: ราคาเริ่มต้น 69,500 บาท
- NIU MQi+ Sport: ราคา 63,900
- NIU NQiGT Sport: ราคา 119,000 บาท
- H SEM CIAO: ราคา 49,700 บาท
- H SEM MOBILA S, G: ราคา 87,000-99,000 บาท (ไม่รวมแบตเตอรี่)
- H SEM WINGS: ราคา 87,000 (ไม่รวมแบตเตอรี่)
- Deco SUPER ACE: ราคา 52,900 บาท
- Deco Max One: ราคา 65,900 บาท
- SLEEK TYPE-V: ราคา 97,500-129,000 บาท
- AJ EV BIKE C-LION: ราคา 44,900 บาท
10 มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ายี่ห้อไหนดีในปี 2022
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่ามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ายี่ห้อไหนดีในปี 2022 ทั้ง 10 รุ่นที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้ ความจริงแล้วก็ยังมีรุ่นอื่นๆ ที่นำเข้ามาวางขายนอกจากที่เราได้แนะนำกันอีกเยอะมากๆ เพราะว่าในช่วงต้นปีจนถึงปัจจุบันที่ผ่านมา ได้มีการนำเข้ามาวางขายกันเยอะมากขึ้น และยังคงมียี่ห้อกับรุ่นอื่นๆ เข้ามาใหม่อย่างต่อเนื่อง อย่างเช่นซอนเดอร์ (SONDORS) ก็เตรียมเข้ามาขายกันแล้ว และจากสถิติก็พบว่ายอดขายของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในปีนี้ พุ่งขึ้นสูงอย่างต่อเนื่องจากวิกฤตน้ำมันแพงในตอนนี้ ทำให้ไรเดอร์ หรือว่าคนใช้งานทั่วไปที่ใช้ขับไปทำงานประหยัดค่าใช้จ่ายด้านนี้ไปได้เยอะมากทีเดียว
ส่วนใครที่ไม่รู้ว่ามอเตอร์ไซค์ EV คืออะไร ซึ่งมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า หรือมอเตอร์ไซค์แบบ Electric Motorcycles รวมไปถึงพวก Scooter คันเล็กๆ ก็คือรถที่ใช้ไฟฟ้าแบบ 100% โดยที่ไม่ได้ใช้เชื้อเพลิงอย่างอื่นมาเป็นพลังงาน ทำให้เราสามารถชาร์จด้วยไฟบ้านหรือจากสถานีชาร์จได้เลย และยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้สูงมากทีเดียว ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละรุ่น แต่ละขนาดความจุของแบตในแต่ละรุ่นด้วย ว่ามีความจุมากน้อยแค่ไหน และสามารถใช้วิ่งได้ระยะทางเท่าไหร่ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง รวมไปถึงกำลังของมอเตอร์และแรงบิด ที่ช่วยให้เราสามารถทำความเร็วได้ในแต่ละรุ่น ที่ควรจะต้องคำนึงถึงก่อนเลือกซื้อมาใช้งานด้วย นอกจากนี้ยังมีเรื่องของราคาความเหมาะสมที่เป็นปัจจัยหลัก และด้านความปลอดภัยในการใช้งาน กับการดูแลรักษาก็สำคัญไม่แพ้กัน ดังนั้นก่อนที่จะเลือกซื้อมาใช้งานก็ควรที่จะต้องดูองค์ประกอบต่างๆ ทั้งความเร็ว ระยะทาง และความจำเป็นต่อการใช้งานของตัวเองมากที่สุด
1. ETRAN MYRA: ราคาเริ่มต้น 69,500 บาท
เริ่มต้นกันที่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ายี่ห้อแรกกันก่อนเลยกับ ETRAN MYRA ที่ช่วงนี้ก็มีให้เห็นกันค่อนข้างเยอะ และได้รับความนิยมในการใช้งานมากพอสมควรเลย ด้วยรูปแบบการดีไซน์ที่ทันสมัย มีความคล่องตัว และมีขนาดเล็ก และทาง ETRAN MYRA ก็ได้บอกเอาไว้ว่าเป็นมอเตอร์ไซค์แบบไฟฟ้าสำหรับส่งของที่ได้ทั้งความเร็วแรง และมีประสิทธิภาพในการใช้งานสูงด้วย โดยรุ่นนี้จะมีรุ่นย่อยทั้งหมด 3 รุ่นให้เลือกซื้อ และแต่ละรุ่นมีความแตกต่างกันที่ออพชั่นของการใช้งานแบตเตอรี่เป็นหลัก คุณสมบัติของรถมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้มีกำลังมอเตอร์ถึง 4,000W พร้อมแรงบิด 200 นิวตันเมตร ทำให้สามารถวิ่งได้ความเร็วสูงสุดถึง 120 กม./ชม. และยังมีแบตความจุ 51ah/ลูก ที่สามรถใส่ได้ถึง 2 ลูก (รุ่นท็อป) ทำให้สามาถวิ่งได้ระยะทางไกลสุดถึง 250 กม. ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง และใช้เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่ 5 ชม. เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีสมรรถนะในการขับขี่ที่ดีเยี่ยม ทั้งการเลี้ยวและการวางของที่ทรงตัวได้ดีอีกด้วย ดูข้อมูลเพิ่มเติมและติดต่อเช่าหรือซื้อได้ที่ ETRAN MYRA แต่ละรุ่นมีราคาและรายละเอียดดังนี้
- MYRA ZERO ราคา 69,500 บาท: เป็นรุ่นที่ไม่มีแบตเตอรี่ในตัว ต้องเช่าแบตเตอรี่รายเดือน มีราคาเริ่มต้นเดือนละ 899 บาท
- MYRA Plus 1 ราคา 115,560 บาท: มาพร้อมแบตเตอรี่ 1 ลูก และไม่สามารถเช่าแบตเตอรี่แพ็กเกจรายเดือนได้
- MYRA Plus 2 ราคา 149,800 บาท: มาพร้อมแบตเตอรี่ 2 ลูก และไม่สามารถเช่าแบตเตอรี่แพ็กเกจรายเดือนได้
2. NIU MQi+ Sport: ราคา 63,900 บาท
มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า หรือเรียกว่าเป็น Scooter ไฟฟ้ารุ่นต่อมานี้ก็เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงเช่นกัน ด้วยราคาที่ไม่ค่อยสูงมากนัก กับการดีไซน์รูปแบบตัวรถออกมาได้น่ารักน่าใช้งาน จะใช้ขับขี่ในเมืองไปทำงาน หรือว่าจะเอาไว้ใช้ใกล้บ้านก็ทำได้สบายๆ รุ่นนี้สามารถนั่งได้สองคน พร้อมหน้าปัดแบบ LCD ดูรายละเอียดและควบคุมได้ง่าย ส่วนคุณสมบัติของรุ่นนี้จะมีแบตเตอรีลิเธียม 48v.31Ah. ที่สามารถถอดแบตเตอรี่ออกได้ และมีกำลังมอเตอร์จาก BOSCH ที่ 1200w – 1400w สามารถวิ่งได้ด้วยความเร็ว 45 km/hr. และมีระยะทางต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้งที่ 60-70 กิโลเมตร อีกทั้งยังมีสมรรถนะในการขับขี่ที่มีความปลอดภัยสูง ทั้งเบรกดิสก์หน้า-หลัง และระบบไฟ LED กับไฟท้าย 270 องศา ส่องแสงสว่างได้รอบคัน อีกทั้งยังเชื่อมกับแอพ NIU เพื่อดูสถานะของรถและอื่นๆ ได้ตลอดเวลาด้วย เหมาะสำหรับใช้ขับในระยะที่ไม่ไกลมาก อย่างเช่นใกล้บ้านหรือไปทำงาน ดูรายละเอียดและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ NIU Thailand
3. NIU NQiGT Sport: ราคา 119,000 บาท
มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า หรือ Scooter ไฟฟ้าของ NIU อีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงมาก ไม่ว่าจะเป็นไรเดอร์หรือว่าคนที่ใช้ขับในเมืองก็มีให้เห็นกันเยอะมากทีเดียว ด้วยรูปทรงการออกแบบที่ใหญ่กว่ารุ่นอื่นๆ พร้อมสมรรถนะการขับขี่ และขนของได้เยอะกว่า อีกทั้งยังมีกำลังในการขับขี่และระยะทางที่สูงกว่าทุกรุ่นด้วย โดยรุ่นนี้มีแบตเตอรีลิเธียมไอออน 60v.26Ah. ที่มีให้ถึง 2 ลูก และยังมีมอเตอร์จาก BOSCH ที่ให้กำลังสูงถึง 3000w (พีคที่ 3500w) หรือเทียบเท่าประมาณรถ 125cc ได้เลย แน่นอนว่าความเร็วที่ได้ก็จะสูงตามไปด้วย ทำให้รุ่นนี้สามารถวิ่งได้ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 80 km/hr. วิ่งได้ระยะทางมากถึง 90-100 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อกับแอพ NIU เพื่อตรวจสอบรถ และระบบป้องกันการถูกขโมย พร้อมกับช่อง USB รองรับการใช้งานด้วย เหมาะกับการขับขี่ในเมืองหรือใช้ขับส่งของก็ทำได้สบายๆ ดูรายละเอียดและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ NIU Thailand
4. H SEM CIAO: ราคา 49,700 บาท
มากันที่รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของ H SEM MOTOR กันบ้างที่ทำออกมาวางขายอยู่หลายรุ่นเหมือนกัน โดยรุ่นนี้เป็นรุ่นรถเล็ก สำหรับขับใกล้ๆ บ้านในโรงงาน หรือว่าเอาไว้ขับในเมืองที่ไม่ต้องใช้ระยะทางไกล และไม่ต้องใช้ความเร็วมากนัก ที่สำคัญคือรุ่นนี้เป็นรุ่นที่มีราคาถูกที่สุดแล้ว ถ้าไม่รวมรุ่นที่มีสามล้อ สำหรับรุ่นนี้จะเน้นสีสันที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ มีแบตเตอรี่เทคโนโลยีลิเทียมขนาด 60V20Ah พร้อมระบบ BMS ช่วยป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร ส่วนมอเตอร์นั้นมีกำลังสูงสุดถึง 2000w และปรับระดับความเร็วได้ 3 ระดับโดยเป็นระบบเกียร์เดินหน้า 3 เกียร์ ทำความเร็วได้สูงสุด 60 km/hr. และมีระยะวิ่งได้ไกลสุด 60 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง และใช้เวลาในการชาร์จเพียง 3-4 ชั่วโมงเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีไฟหน้าหลังแบบ LED กับกุญแจสมาร์ทคีย์ ที่กดปุ่มเดียวก็สตาร์ทรถได้แล้ว ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ H SEM MOTOR
5. H SEM MOBILA S, G: ราคา 87,000-99,000 บาท (ไม่รวมแบตเตอรี่)
มาต่อกันที่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นฮิตของ H SEM อีกหนึ่งรุ่นที่มีรุ่นแบ่งเป็น S และ G โดยทั้งสองรุ่นนี้จะมีความแตกต่างกันตรงที่รุ่น G มีระบบการขับเคลื่อนผ่านชุดเกียร์ที่ปรับความเร็วได้ 2 ระดับ และล่าสุดก็มีรุ่นปี 2022 ที่มาพร้อมล้อใหม่หน้า-หลัง และชุดไฟหน้า LED แถมยังวิ่งได้ไกลกว่าเดิม และได้ปรับโช๊คหลังให้สูงขึ้นรองรับน้ำหนักได้มากขึ้นด้วยนั่นเอง ส่วนรุ่น S นั้นจะถอยหลังได้ด้วย การทำงานอื่นๆ ของทั้งสองรุ่นจะเหมือนกัน ที่มีแบตเตอรี่จาก Samsung ด้วยเทคโนโลยีลิเธียมขนาด 72V30Ah จำนวน 2 ลูกและมีระบบ BMS ช่วยป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรด้วย ส่วนกำลังมอเตอร์จาก BOSCH สามารถทำได้ถึง 3000w ส่งผลให้รถรุ่นนี้สามารถทำความเร็วได้สูงสุด 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมงพร้อมโหมดปรับความเร็วด้วยโหมด High & Low ส่วนการชาร์จแบตจะใช้เวลา 4 ชั่วโมงและวิ่งได้ระยะทางประมาณ 140 กิโลเมตร จะใช้ขับส่งของหรือว่าขับในเมืองก็ได้ไม่มีปัญหา ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ H SEM MOTOR
6. H SEM WINGS: ราคา 87,000 (ไม่รวมแบตเตอรี่)
มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมอีกรุ่นของ H SEM เช่นกัน ที่รุ่นนี้ออกแบบมาให้มีความโฉบเฉี่ยวกว่าทุกรุ่น พร้อมกับมีความหรูหราแบบ Luxury ที่โดดเด่นเฉพาะตัว ส่วนการขับขี่ทั้งหมดจะคล้ายๆ กับตัว MOBILA อยู่พอสมควรเลย โดยแบตเตอรี่จาก Samsung ที่เป็นเทคโนโลยีลิเธียมขนาด 72V30Ah และมีระบบ BMS ป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรเหมือนกัน พร้อมกับมอเตอร์จาก BOSCH ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 3000w อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีเดินหน้า-ถอยหลังได้เหมือนรุ่น S ด้านบนเลย นอกจากนี้ยังสามารถปรับความเร็วในการขับขี่ได้ถึง 3 ระดับ ทำความเร็วได้สูงสุดถึง 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 60 กิโลเมตร จุดเด่นอีกอย่างที่เพิ่มความสวยงามก็คือไฟหน้า-หลัง LED กับชุดโครเมียมรอบคันเพิ่มสวยงามได้มากขึ้นอีกด้วย ใครสนใจก็ติดต่อสอบถามได้จาก H SEM MOTOR ได้เลย
7. Deco SUPER ACE: ราคา 52,900 บาท
มาที่ยี่ห้อของ Deco กันบ้างที่มีมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าหลายรุ่นให้เลือกซื้อในราคาไม่สูงมากนัก ไม่ว่าจะเป็นรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสองล้อ สามล้อ ไปจนถึงนั่งได้ทั้งครอบครัวไปเลย แต่ว่ารุ่นนี้เป็นรุ่นที่ออกแบบมาโฉบเฉี่ยวล้ำสมัย ดูมีลวดลายรอบคัน ส่วนแบตเตอรี่ของรุ่นนี้เป็นแบตแบบลิเธียมขนาด 72v 30Ah มาพร้อมกับมอเตอร์กำลังสูง 2000w ที่ไม่มีเสียงรบกวนขณะขับขี่ ทำความเร็วได้สูงสุดถึง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และวิ่งได้ระยะทาง 70-80 กิโลเมตรต่อการชาร์ตเต็มหนึ่งครั้ง ใช้เวลาในการชาร์จแบตประมาณ 2-3 ชั่วโมงก็กลับมาวิ่งได้แล้ว นอกจากนี้ยังสามารถรับน้ำหนักได้ถึง 200 กิโลกรัม ใช้วิ่งส่งของได้แบบสบายๆ อีกทั้งยังมีหน้าจอเป็นแบบ LED และมือเบรกที่ปรับระดับให้เข้ากับมือของเรามากที่สุด เพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานได้ดีมากๆ ดูรายละเอียดและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Deco Green Energy
8. Deco Max One: ราคา 65,900 บาท
มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในรูปแบบบิ๊กไบค์จาก Deco ที่มีราคาไม่สูงมากนัก แถมยังได้ดีไซน์สุดเท่ เหมาะกับคนที่อยากขับรถบิ๊กไบค์แบบไฟฟ้า 100% ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายเรื่องเชื้อเพลิง ช่วยลดปัญหามลพิษ และยังสามารถจดทะเบียนกับกรมขนส่งทางบกได้ด้วย โดยแบตเตอรี่ของรุ่นนี้เป็นแบบลิเธียมขนาด 72v 30Ah และมีกำลังมอเตอร์ขับเคลื่อนด้วยคุณภาพสูง สามารถเร่งหรือลดความเร็วได้ง่ายๆ ทำกำลังได้ถึง 2000w ทำความเร็วได้สูงสุดถึง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยการชาร์จเต็มหนึ่งครั้งจะใช้เวลาเพียง 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น และเมื่อชาร์จเต็มก็สามารถวิ่งได้ระยะทางไกล 70-80 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังมีโช๊คอัพที่รองรับแรงกระแทก และรับน้ำหนักได้ดี รวมไปถึงระบบเบรกที่ระบายความร้อนได้ดี และเบาะที่ดีไซน์มาให้นั่งได้สบายไม่ลื่นไหลอีกด้วย ดูรายละเอียดและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Deco Green Energy
9. SLEEK TYPE-V: ราคา 97,500-129,000 บาท
มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจาก SLEEK หรือว่ายี่ห้อเดิมคือ Swag ที่มีรุ่นฮิตอย่าง TYPE X เคยวางขายและหมดลงไปแล้ว (บนหน้าเว็บหลัก) ซึ่งในตอนนี้ทาง SLEEK ก็ได้เปิดตัวมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าออกมาขายถึง 4 รุ่นทั้งรุ่น TYPE S, One และ TYPE V, V Lite กับ V GT ที่มีความแตกต่างกันตรงด้านกำลังของมอเตอร์ แต่ว่าเราจะมาแนะนำรุ่นกลางๆ อย่าง TYPE V รุ่นปกติ ที่มีแบตเตอรี่แบบลิเธียม 60v 35Ah ถึง 2 ชุด (ถ้าซื้อก้อนเดียวจะเหลือราคา 97,500 บาท) ทำให้รุ่นนี้มีกำลังมอเตอร์ที่เป็นสลีคมอเตอร์บลัชเลสมีกำลังถึง 3000w และวิ่งได้ความเร็วสูงสุดถึง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งระยะทางในการวิ่งแต่ละครั้ง เมื่อชาร์จแบตเต็มจะวิ่งได้ประมาณ 200 กิโลเมตรเลยทีเดียว (วิ่งต่อเนื่องที่ 35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) และใช้เวลาในการชาร์จประมาณ 3-4 ชั่วโมงเท่านั้น สามารถขอทดลองขับและสอบถามเพิ่มเติม พร้อมกับสั่งจองได้ที่ SLEEK Electric Vehicle
10. AJ EV BIKE C-LION: ราคา 44,900 บาท
ปิดท้ายกันด้วยมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า หรือ Scooter ไฟฟ้าของ AJ EV BIKE ที่มีดีไซน์แบบคันเล็กมินิมอล ใช้ขับไปกลับที่ทำงาน หรือว่าใช้ขับส่งของได้คล่องแคล่วว่องไว และมีความเร็วแรงพอประมาณ ใช้งานได้หลากหลายแน่นอน โดยรุ่นนี้จะมีแบตเตอรี่แบบ Graphene Lead-Acid ขนาด 72v 20Ah และมีกำลังมอเตอร์ 2000w วิ่งได้ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งได้ระยะทางมากถึง 120 กิโลเมตร (วิ่งต่อเนื่องด้วยความเร็ว 35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ต่อการชาร์จแบตเต็มหนึ่งครั้ง ที่น่าสนใจก็คือสามารถลุยน้ำได้สูงถึง 40 ซม. เลยทีเดียว เนื่องจากมีการตั้งแผงควบคุมและวงจรเอาไว้สูง กับการยึดน็อตแบบพิเศษจึงไม่ขยับตอนลุยน้ำ นอกจากนี้ยังมีระบบ Keyless สตาร์ทได้โดยไม่ต้องเสียบกุญแจ พร้อมช่องเก็บของขนาดความจุ 32 ลิตรอีกด้วย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสอบถามได้ที่ AJ EV BIKE
แล้วทั้งหมดนี้ก็เป็นมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าหรือว่ามอเตอร์ไซค์ EV รวมไปถึงพวก Scooter ไฟฟ้าที่เราได้นำมาแนะนำกันในวันนี้ทั้งหมด 10 รุ่นจากยี่ห้อต่างๆ ที่มีคุณสมบัติการขับขี่ และการออกแบบที่ต่างกันออกไป ซึ่งความจริงก็ยังมีมอเตอร์ไซค์ EV อีกหลายรุ่นหลายยี่ห้อมากๆ และยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะว่าเชื้อเพลิงอย่างน้ำมันที่มีราคาสูงขึ้น ทำให้หลายคนหันมาเลือกขับมอเตอร์ไซค์ EV กันแทน ยิ่งเป็นพี่ๆ ไรเดอร์ที่จำเป็นต้องขับตลอดเวลาทั้งวัน ก็ยิ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้อีกเยอะมากๆ หรือใครที่ต้องการใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างการไปทำงานในระยะที่ไม่ไกบมาก ก็ถือว่าคุ้มอยู่ดี ใครสนใจรุ่นไหนก็ติดต่อสอบถามเพื่อลองขับกันได้เลย แล้วถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราก็จะนำมาฝากกันอีกเรื่อยๆ เลยนะครับ