สรุปข่าวมือถือน่าสนใจประจำสัปดาห์ : เผยสเปค realme C31 | พบ Mi 11 มีการจำกัดความเร็ว CPU | ZTE เปิดตัวมือถือรวดเดียว 5 รุ่น ฯลฯ

สรุปข่าวมือถือน่าสนใจประจำสัปดาห์ 28 มีนาคม – 1 เมษายน 2565 สำหรับใครที่พลาดไมไ่ด้อัพเดตข่าวสารมือถือระหว่างสัปดาห์ไป วันนี้เรามาสรุปข่าวน่าสนใจประจำสัปดาห์ให้กับเพื่อนๆ แล้ว ซึ่งข่าวที่น่าสนใจจะมีอะไรบ้างเราไปดูกันได้เลย

สรุปข่าวมือถือน่าสนใจประจำสัปดาห์ 28 มีนาคม – 1 เมษายน 2565

เผยสเปค realme C31 มือถือรุ่นเริ่มต้นแบตเยอะ เล่นเกมได้ดีขึ้น แถมเครื่องบางลงด้วย

realme ได้ทำการเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ในอินโดนิเซีย ซึ่งเป๋นมือถือรุ่นเริ่มต้นที่เป็นรุ่นต่อของ realme C21 แล้วให้ชื่อ realme C31 มา โดยในการอัพเกรดนี้นับว่าน่าสนใจไม่ใช่น้อยๆ เลย เนื่องจากใน realme C31 นี้เปลี่ยนไปใช้ชิป Unisoc T612 ซึ่งทาง realme เคลมว่าจะช่วยให้การเล่นเกมได้เฟรมเรทที่นิ่งกว่าเดิม นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนความจุจาก eMMC 5.1 มาเป็น UFS 2.2 ซึ่งช่วยให้การอ่านเขียนมีความเร็วที่สูงยิ่งขึ้น อีกทั้งตัวเครื่องยังบางเพียง 8.4 มม. ซึ่งเมื่อเทียบกับ realme C21 และ realme C25 ที่เป็นรุ่นก่อนหน้าแล้วนับว่าลดไปเยอะพอสมควร

สเปคของ realme C31 แบบคร่าวๆ

• หน้าจอ : IPS-LCD, ขนาด 6.5 นิ้ว, ความละเอียด 1600 x 720 พิกเซล, อัตราส่วนหน้าจอ 20:9
• ชิปประมวลผล : Unisoc Tiger T612
• แรม / ความจุ :
  • 3GB / 32GB
  • 4GB / 64GB
• กล้องหลัง :
  • ตัวที่ 1 : 13 MP, f/2.2, AF (wide)
  • ตัวที่ 2 : 2 MP, f/2.4 (macro)
  • ตัวที่ 3 : 0.3 MP, f/2.8 (depth)
• กล้องหน้า : 5 MP
• แบตเตอรี่ : 5,000 mAh (microUSB)

ที่มา : gsmarena

เป็นเรื่อง!! Xiaomi Mi 11 มีการจำกัดการทำงานของ CPU ขณะเล่นเกมถึง 30%

หลังจากที่ข่าว Samsung จำกัดความสามารถของ CPU จบไปได้ไม่นานคร่าวนี้ถึงคิดของ Xiaomi บ้างแล้ว โดย John Poole หนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัทที่พัฒนาแอปฯ Geekbench ได้ไปเจอว่า Xiaomi ได้ลดประสิทธิภาพการทำงานของ CPU ของ Mi 11 กับแอปฯ บางตัวลง ซึ่งเกมดังที่คนเล่นเยอะอย่าง Fortnite ก็โดนไปด้วยเช่นกัน โดยในการทดสอบพบว่าผลคะแนนในส่วนของ Single-Core ร่วงลงมาถึง 30% และ Multi-Core ร่วลงมาถึง 16% ทำให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในความโปร่งใสของ Xiaomi เนื่องจากผลการทดสอบประสิทธิภาพไม่ตรงกับความเป็นจริง

ทั้งนี้คาดว่าที่ Xiaomi ทำแบบนั้นอาจจะเป็นเพราะการพยายามควบคุมความร้อนตัวเครื่องไม่ให้สูงจนเกินไปหรือไม่ก็พยายามยืดอายึแบตเตอรี่ให้อยู่ได้นานยิ่งขึ้นก็เป็นได้ ถึงจะไม่รู้ว่าการจำกับประสิทธิภาพนี้จะเป็นมาตั้งแต่แรกหรือมาทีหลังก็ตาม แต่ก็มีการตั้งข้อสังเกตว่า Mi 11i, Mi 11 Pro และ Mi 11 Ultra ที่ใช้ชิป Snapdragon 888 เหมือนกันอาจจะเข้าข่ายด้วยก็ได้

ที่มา : twitter

Xiaomi เปิดตัว Redmi Note 11 Pro+ 5G, Redmi Note 11s 5G และ Redmi 10 5G แบบ Global พร้อมสเปคแบบจัดเต็ม

หลังจากที่ Xiaomi เปิดตัว Redmi Note 11 Series ไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ตอนนี้ Xiaomi ก็ได้เปิดตัว Redmi Note 11 Series เพิ่มออกมาอีก 2 รุ่นและ Redmi 10 รุ่นใหม่เพิ่มเข้ามาอีก โดย Redmi Note 11 Series ที่เปิดตัวออกมาก็คือ Redmi Note 11S 5G และ Redmi Note 11 Pro+ 5G ซึ่งทั้ง 3 รุ่นนี้เป็นแบบ Global สำหรับวางจำหน่ายทั่งโลก (ของไทยต้องรอไปก่อน แต่อีกไม่นานแน่นอน) ซึ่งแน่นอนว่าทั้ง 3 เครื่องมาพร้อมสเปคแบบจัดเต็มในราคาเบาๆ ตามสไตล์ Redmi โดยสเปคของทั้ง 3 เครื่องจะมีดังนี้

Redmi Note 11 Pro+ 5G

• หน้าจอ : Super AMOLED, ขนาด 6.67 นิ้ว, ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล (Full-HD+), Refresh Rate 120Hz
• ชิปรปะมวลผล : MediaTek Dimensity 920 5G
• แรม / ความจุ :
  • 6GB / 128GB
  • 8GB / 128GB
  • 8GB / 256GB
• กล้องหลัง :
  • ตัวที่ 1: 108 MP, f/1.9 (wide)
  • ตัวที่ 2: 8 MP, f/2.2, 118˚ (ultrawide)
  • ตัวที่ 3: 2 MP, f/2.4 (macro)
• กล้องหน้า : 16 MP, f/2.5
• แบตเตอรี่ : 4,500 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 120W
• ระบบปฏิบัติการ : Android 11 ครอบด้วย MIUI 12.5
• การเชื่อมต่อ :
  • 5G
  • Wi-Fi 6
  • Bluetooth 5.2
  • GPS
  • NFC
• เซ็นเซอร์ :
  • Fingerprint (ด้านข้าง)
  • Accelerometer
  • Gyro
  • Proximity
  • Compass
• อื่นๆ :
  • กันน้ำ-กันฝุ่น IP53
  • ลำโพงสเตอรีโอ ปรับแต่งโดย JBL
  • สี Mysterious Black, Forest Green, Timeless Purple

Redmi Note 11S 5G

• หน้าจอ : IPS-LCD, ขนาด 6.6 นิ้ว, ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล (Full-HD+), Refresh Rate 90Hz
• ชิปรปะมวลผล : MediaTek Dimensity 810 5G
• แรม / ความจุ :
  • 4GB / 64GB
  • 4GB / 128GB
  • 6GB / 128GB
• กล้องหลัง :
  • ตัวที่ 1: 50 MP, f/1.8 (wide)
  • ตัวที่ 2: 8 MP, f/2.2, 118˚ (ultrawide)
  • ตัวที่ 3: 2 MP, f/2.4, AF (tele-macro)
• กล้องหน้า : 13 MP, f/2.4
• แบตเตอรี่ : 5,000 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 33W
• ระบบปฏิบัติการ : Android 11 ครอบด้วย MIUI 13
• การเชื่อมต่อ :
  • 5G
  • Wi-Fi 5
  • Bluetooth 5.1
  • GPS
  • NFC
• เซ็นเซอร์ :
  • Fingerprint (ด้านข้าง)
  • Accelerometer
  • Gyro
  • Proximity
  • Compass
• อื่นๆ :
  • กันน้ำ-กันฝุ่น IP53
  • สี Midnight Black, Twilight Blue, Star Blue

Redmi 10 5G

• หน้าจอ : IPS-LCD, ขนาด 6.58 นิ้ว, ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล (Full-HD+), Refresh Rate 90Hz
• ชิปรปะมวลผล : MediaTek Dimensity 700 5G
• แรม / ความจุ :
  • 4GB / 64GB
  • 4GB / 128GB
• กล้องหลัง :
  • ตัวที่ 1: 50 MP, f/1.8 (wide)
  • ตัวที่ 2: 2 MP, f/2.4 (depth)
• กล้องหน้า : 5 MP, f/2.0
• แบตเตอรี่ : 5,000 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 18W
• ระบบปฏิบัติการ : Android 11 ครอบด้วย MIUI 13
• การเชื่อมต่อ :
  • 5G
  • Wi-Fi 5
  • Bluetooth 5.1
  • GPS
  • NFC
• เซ็นเซอร์ :
  • Fingerprint (ด้านข้าง)
  • Accelerometer
  • Gyro
  • Proximity
  • Compass
• สี : Graphite Gray, Chrome Silver, Aurora Green

ที่มา : XDA

ZTE เปิดตัวมือถือในไทยรวดเดียว 5 รุ่น REDMAGIC 7, AXON 30 5G, BLADE A31 Plus, BLADE A51, BLADE V30Vita พร้อมจำหน่ายเมษายนนนี้

เมื่อวันที่ 31 มีนาคม ZTE ได้จัดงานเปิดตัวมือถือใหม่ถึง 5 รุ่นคือ ZTE BLADE A31 Plus, ZTE BLADE A51, ZTE BLADE V30Vita, ZTE AXON 30 5G และ REDMAGIC 7 ซึ่งทั้ง 5 เครื่องนั้น ซึ่งในการเปิดตัวครั้งนี้เรียกได้ว่าครอบคลุมทักช่วงราคาเลยจริงๆ สำหรับคนที่อยากได้นั้นก็ขอให้อดทนรอกันสักนิด เนื่องจาก ZTE จะเริ่มวางขายในเดือนเมษายนนี้แน่นอน สำหรับสเปคทั้ง 5 เครื่องจะมีดังนี้

REDMAGIC 7

• หน้าจอ : AMOLED, ขนาด 6.8 นิ้ว, ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล (Full-HD+), Refresh Rate 165Hz, Touch-sampling Rate 720Hz
• ชิปประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1
• แรม / ความจุ :
  • 12GB / 128GB
  • 16GB / 256GB
  • 18GB / 256GB
• กล้องหลัง :
  • ตัวที่ 1: 64 MP, f/1.8 (wide)
  • ตัวที่ 2: 8 MP, f/2.0, 120˚ (ultrawide)
  • ตัวที่ 3: 2 MP (macro)
• กล้องหน้า : 8 MP, f/2.0
• แบตเตอรี่ : 4,500 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 65W
• ขนาด : 170.6 x 78.3 x 9.5 มม.
• น้ำหนัก : 215 กรัม
• ราคา :
  • 12GB / 128GB (OBSIDIAN) : 24,990 บาท
  • 16GB / 256GB (PULSAR) : 28,990 บาท
  • 18GB / 256GB (SUPERNOVA) : 31,990 บาท

ZTE AXON 30 5G

• หน้าจอ : AMOLED, ขนาด 6.92 นิ้ว, ความละเอียด 2460 x 1080 พิกเซล (Full-HD+), Refresh Rate 120Hz
• ชิปประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 870 5G
• แรม / ความจุ :
  • 8GB / 128GB
  • 12GB / 256GB
• กล้องหลัง :
  • ตัวที่ 1: 64 MP, f/1.8 (wide)
  • ตัวที่ 2: 8 MP, f/2.2, 120˚ (ultrawide)
  • ตัวที่ 3: 5 MP, f/2.4 (macro)
  • ตัวที่ 4: 2 MP, f/2.4 (depth)
• กล้องหน้า : 16 MP, f/2.5
• แบตเตอรี่ : 4,200 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 65W
• ขนาด : 170.2 x 77.8 x 7.8 มม.
• น้ำหนัก : 189 กรัม
• ราคา :
  • 8GB / 128GB : 12,990 บาท
  • 12GB / 256GB : 17,990 บาท

ZTE BLADE V30Vita

• หน้าจอ : IPS_LCD, ขนาด 6.8 นิ้ว, ความละเอียด 1640 x 720 พิกเซล (HD+)
• ชิปประมวลผล : Spreadtrum Unisoc SC9863A
• แรม / ความจุ :
  • 4GB / 64GB
  • 4GB / 128GB
• กล้องหลัง :
  • ตัวที่ 1: 48 MP, f/1.8 (wide)
  • ตัวที่ 2: 5 MP, f/2.4 (macro)
  • ตัวที่ 3: 2 MP, f/2.4 (depth)
• กล้องหน้า : 8 MP, f/2.0
• แบตเตอรี่ : 5,000 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 18W
• ขนาด : 173.0 x 78.1 x 8.9 มม.
• น้ำหนัก : 210 กรัม
• ราคา :
  • 4GB / 64GB : 4,999 บาท
  • 4GB / 128GB : 5,299 บาท

ZTE BLADE A51

• หน้าจอ : IPS-LCD, ขนาด 6.52 นิ้ว, ความละเอียด 1600 x 720 พิกเซล (HD+)
• ชิปประมวลผล : Spreadtrum Unisoc SC9863A
• แรม / ความจุ :
  • 3GB / 64GB
• กล้องหลัง :
  • ตัวที่ 1: 13 MP, AF (wide)
  • ตัวที่ 2: 2 MP (depth)
• กล้องหน้า : 5 MP
• แบตเตอรี่ : 3,200 mAh
• ขนาด : 166.5 x 75.6 x 8.5 มม.
• น้ำหนัก : 173.7 กรัม
• ราคา : 3,699 บาท

ZTE BLADE A31 Plus

• หน้าจอ : AMOLED, ขนาด 6.8 นิ้ว, ความละเอียด 960 x 480 พิกเซล (qHD)
• ชิปประมวลผล : Spreadtrum Unisoc SC9863A
• แรม / ความจุ :
  • 2GB / 32GB
• กล้องหลัง : 5 MP (รองรับการอัปสเกลด้วยซอฟต์แวร์เป็น 8MP)
• กล้องหน้า : 2 MP (รองรับการอัปสเกลด้วยซอฟต์แวร์เป็น 5MP)
• แบตเตอรี่ : 3,000 mAh
• ขนาด : 159.2 x 77.5 x 9.6 มม.
• น้ำหนัก : ไม่ระบุ
• ราคา : 2,599 บาท

เปิดราคา OnePlus Nord CE 2 5G มือถือ 5G สเปคดี ในงบ 15,000 บาท

และแล้วมือถือตัวคุ้มรุ่นใหม่ของ OnePlus ในซีรี่ส์ Nord CE ก็เปิดราคาไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่ง OnePlus Noed CE 2 5G คือมือถือ 5G ที่มาพร้อมสเปคค่อนข้างน่าสนใจไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ 90Hz ชิป Dimensity 900 5G กล้องหลังความละเอียด 64MP และระบบชาร์จขนาด 65W ในราคาขายเพียง 14,990 บาทเท่านั้น โดย OnePlus Nord CE 2 5G จะเริ่มให้ Pre Order ในประเทศไทยได้ตั้งแต่วันที่ 1 – 7 เมษายน 2565 ซึ่งจะมีเฉพาะรุ่น 8GB / 128GB เท่านั้น และเมื่อทำการ Pre Order จะได้ของแถมสมนาคุณมูลค่า 3,300 บาท เพื่อไปด้วย สำหรับสเปคของ OnePlus Nord CE 2 5G จะมีดังนี้

OnePlus Nord CE 2 5G

• หน้าจอ : Fluid AMOLED, ขนาด 6.43 นิ้ว, ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล (Full-HD+), Refresh Rate 90Hz
• ชิปประมวลผล : MediaTek Dimensity 900 5G
• แรม / ความจุ :8GB / 128GB
• กล้องหลัง :
  • ตัวที่ 1: 64 MP, f/1.8 (wide)
  • ตัวที่ 2: 8 MP, f/2.2, 119˚ (ultrawide)
  • ตัวที่ 3: 2 MP, f/2.4 (macro)
• กล้องหน้า : 16 MP, f/2.4
• แบตเตอรี่ : 4,500 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 65W
• ขนาด : 160.6 x 73.2 x 7.8 มม.
• น้ำหนัก : 173 กรัม
• ราคา : 14,990 บาท

Apple ปล่อยอัพเดต iOS 15.4.1 แก้ปัญหาแบตหมดเร็วแล้ว

หลังจากที่ Apple ปล่อยอัพเดต iOS 15.4 ออกมาได้ไม่นานก็ได้มีผู้ใช้ประสบปัญหาแบตเตอรี่ไหลเป็นน้ำ หมดเร็วกว่าปกติเยอะมาก ซึ่งล่าสุด Apple ก็ได้ออกอัพเดตย่อย iOS 15.4.1 มาให้เหล่าผู้ใช้ทำการอัพเดตกันแล้ว แน่นอนว่ารวมไปถึง iPadOS 15.4.1 สำหรับ iPad ด้วย โดยนอกจากจะแก้ปัญหาแบตเตอรี่หมดไวแล้วยังอัพเดตความปลอดภัย อุดรอยรั่วต่างๆ เพิ่ม และแก้บัคเพิ่มเติมบางส่วนเพิ่มด้วย โดยเพื่อนๆ สามารถอัปเดต iOS 15.4.1 และ iPadOS 15.4.1 ได้โดยไปที่ Settings (ตั้งค่า) > General (ทั่วไป) > Software Update (อัปเดตซอฟต์แวร์)