10 มือถือราคาไม่เกิน 15000 ปี 2022 รุ่นไหนดีใช้ 5G ได้ เล่นเกมไหลลื่นพร้อมถ่ายรูปได้สวยๆ คุ้มค่าแน่นอน
ช่วงราคามือถือที่มักจะอยู่ในช่วงราคา 10,000 – 15,000 บาทนี้ ถ้าใครลองดูจากตารางการเปรียบเทียบด้านล่าง หรือว่าดูจากการเปรียบเทียบมือถือราคาไม่เกิน 10,000 บาทที่เราเคยแนะนำกันไปแล้ว 10 รุ่น (อ่านต่อ.. 10 มือถือราคาไม่เกิน 10000 ปี 2022) ก็จะพอจับทางได้บ้างว่าราคาในช่วงนี้ จะเป็นราคาของมือถือระดับกลาง และเป็นรุ่นที่อัพเกรดมาเป็น 5G กันส่วนใหญ่ ซึ่งราคานั้นจะมีราคาที่เกินหมื่นบาทมานิดหน่อย แต่ก็จะไม่เกิน 15,000 บาท เนื่องจากยังเป็นมือถือระดับกลาง ที่ยังไม่ขึ้นไปถึงระดับเรือธง จึงทำให้มีช่วงราคาอยู่ที่ประมาณนี้ และไม่ได้หนีไปจากสเปคมือถือที่มีราคาไม่เกิน 10,000 บาท เว้นแต่ว่าเป็นมือถือราคาไม่เกิน 5,000 บาทอันนั้นจะต่างกันเยอะ (อ่านต่อ.. 10 มือถือราคาไม่เกิน 5000 ปี 2022) แน่นอนว่าสเปคของมือถือก็จะคล้ายๆ กันตรงที่สามารถใช้งานแบบทั่วไปได้ดีเยี่ยม จะเน้นเล่นเกมก็ไหลลื่น หรือว่าจะเน้นถ่ายรูปก็มีรองรับกันหลายรุ่น ที่สำคัญก็คือทุกรุ่นนั้นใช้งาน 5G ได้แน่นอน วันนี้ทาง Specphone ก็เลยจะมาแนะนำอีก 10 โทรศัพท์มือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทในปี 2022 รุ่นไหนดีที่สามารถใช้งาน 5G ได้ กับสเปคที่เล่นเกมได้สบายๆ พร้อมกับถ่ายรูปได้สวยๆ คุ้มค่าต่อการใช้งานทุกรุ่นแน่นอน
10 มือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทปี 2022 รุ่นไหนดี
หลังจากที่เราได้แนะนำมือถือราคาไม่เกิน 5,000 บาท (อ่านต่อที่นี่) กับมือถือราคาไม่เกิน 10,000 บาท (อ่านต่อที่นี่) กันไปก่อนหน้านี้แล้ว คราวนี้ก็มาถึงช่วงราคาของมือถือ 10,000 – 15,0000 บาทกันบ้าง โดยทั้ง 10 รุ่นที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นรุ่นที่เปิดตัวออกมาใหม่ในปีนี้ และมีรุ่นที่เปิดตัวออกมาช่วงปลายปีที่แล้วอยู่ด้วย ซึ่งทุกรุ่นนั้นจะเป็นมือถือ 5G ทั้งหมด สามารถซื้อมาใช้งานทั่วไป ใช้เล่นเกมหรือว่าจะเอามาถ่ายรูปก็ทำได้เป็นอย่างดี และเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมอยู่พอสมควรเลยทีเดียว ใครที่กำลังมองหามือถือระดับกลางที่ใช้งาน 5G ได้ในราคาประหยัด ลองไปดูมือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทแต่ละรุ่นที่เรานำมาฝากกันได้เลย
10 มือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทปี 2022
- Samsung Galaxy A53 5G
- Samsung Galaxy M33 5G
- OPPO Reno7 Z 5G
- realme 9 Pro+
- POCO X4 Pro 5G
- Redmi Note 11 Pro 5G
- vivo V23e 5G
- realme GT Neo2
- Samsung Galaxy M52 5G
- Motorola Edge 20 Fusion
ตารางเปรียบเทียบ 10 มือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทปี 2022
1. Samsung Galaxy A53 5G: ราคา 14,499 บาท
เริ่มกันที่มือถือจาก Samsung ที่ได้เปิดตัวออกมาเป็นซีรีส์ A รุ่นล่าสุดพร้อมกันอีก 2 รุ่นอย่าง A33 และ A73 แต่ว่ารุ่นนี้ได้มีการเปิดตัวและนำมาวางขายก่อนใครเพื่อน แถมเป็นมือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทอีกด้วย สำหรับรุ่นนี้ได้ดีไซน์โมดูลกล้องเป็นแบบ Ambient Edge สมูธไปกับฝาหลัง และมีหน้าจอเป็นแบบ Super AMOLED ระดับ FHD+ กว้าง 6.5 นิ้วพร้อมกับอัตรา Refresh Rate 120Hz สีสันคมชัดเล่นได้ลื่นๆ แน่นอน และยังได้ชิปตัวใหม่อย่าง Exynos 1280 ตัวแรงที่เข้ามาเสริมให้รุ่นนี้ใช้งานได้เร็วมากกว่ารุ่นก่อนหน้าเยอะมาก ส่วนกล้องหลังจะมีกล้อง 4 ตัวที่ความละเอียด 64MP อัลตร้าไวด์ 12MP มาโคร 5MP และชัดลึก 5MP ที่มีกันสั่น OIS จากเลนส์หลัก ถ่ายวิดีโอหรือถ่ายรูปได้แบบนิ่งๆ ทุกช่วงเวลา กับกล้องหนึความละเอียด 32MP เซลฟี่ได้ชัดเจนสะใจสายเซลฟี่ รุ่นนี้ยังได้แบตอึดมากที่ 5,000 mAh รองรับ Super Fast Charging 25W (ขายแยก) ใช้งานได้ต่อเนื่องเต็มวันไม่ต้องกลัวหมด ดูรายละเอียดและสั่งซื้อที่นี่
2. Samsung Galaxy M33 5G: ราคา 10,999 บาท
มือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทของ Samsung อีกหนึ่งรุ่นที่สามารถใช้งาน 5G ได้ โดยตัวเครื่องของรุ่นนี้จะมีดีไซน์ที่คล้ายๆ กับรุ่นก่อนหน้า แต่ทำให้สีฝาหลังดูเรียบหรูมากขึ้น กับหน้าจอที่เป็นแบบ TFT ระดับ Full HD+ กว้าง 6.6 นิ้วพร้อมอัตรา Refresh Rate หรือจอแบบ Super Smooth 120Hz ใช้งานได้ไม่มีสะดุด อีกทั้งยังได้ชิป Exynos 1280 บนความเร็ว 2.4GHz, 2GHz เหมือนกันกับรุ่นใหม่ของซีรีส์ A อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ RAM Plus ช่วยขยาย RAM ให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น มาพร้อมกับกล้อง 4 ตัวความละเอียด 50MP อัลตร้าไวด์ 5MP มาโคร 2MP และชัดลึก 2MP เก็บรายละเอียดได้ทุกมุมมองที่ต้องการไม่ว่าจะใกล้หรือไกล ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 8MP เซลฟี่ได้สวยๆ ด้วยเอฟเฟกต์โบเก้ละลายหลัง กับความจุแบตอึดเหมือนเดิมที่ 5,000 mAh รองรับ Super Fast Charging 25W เล่นเน็ตได้ต่อเนื่อง 21 ชั่วโมง ดูรายละเอียดและสั่งซื้อที่นี่
3. OPPO Reno7 Z 5G: ราคา 12,990 บาท
มือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทรุ่นต่อมาของ OPPO นี้มีสเปคดีงามไม่แพ้ยี่ห้ออื่นเช่นกัน ทั้งการดีไซน์ฝาหลังแบบ Glow Design สะท้อนแสงประกายออกมา และยังมี Dual Orbit Lights แสงรอบเลนส์เพิ่มความสวยงามได้อีกเยอะมากๆ รุ่นนี้ได้หน้าจอเป็นแบบ AMOLED ระดับ FHD+ กว้าง 6.4 นิ้วสีสันสดใสคมชัดพร้อมดู Netflix, Amazon ได้ถึง HD และยังได้ชิป Snapdragon 695 5G ที่ทำงานได้แบบไหลลื่นไม่ว่าจะดูหนังหรือเล่นเกม อีกทั้งยังสามารถกันน้ำและฝุ่นได้ที่ระดับ IPX4 อีกด้วย ส่วนกล้องหลังจะเป็นกล้อง 3 ตัวที่ความละเอียด 64MP มาโคร 2MP และชัดลึก 2MP ถ่ายภาพสวยคมชัดระดับมือโปรด้วย Ultra-Clear 108MP Image กับกล้องหน้าความละเอียด 16MP เซลฟี่ย้อนแสงด้วย HDR ก็ยังได้ ซึ่งรุ่นนี้มีความจะแบตอยู่ 4,500 mAh แต่ก็รองรับ SuperVOOC 33W ที่ชาร์จกลับมาเต็มในเวลาเพียง 63 นาที ดูรายละเอียดและสั่งซื้อที่นี่
4. realme 9 Pro+: ราคา 12,999 บาท
ต่อเนื่องกันด้วยมือถือจาก realme ที่ความจริงก็มีรุ่น realme 9 5G ที่เป็นมือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทอยู่ด้วย แต่ว่ายังไม่ได้นำเข้ามาขายอย่างเป็นทางการเหมือนกับรุ่นนี้ ที่เน้นการดีไซน์แบบเบาบาง จับได้ถนัดเข้ากับมือ และยังได้หน้าจอที่เป็นแบบ Super AMOLED ระดับ FHD+ กว้าง 6.4 นิ้วพร้อมอัตรา Refresh Rate 90Hz หน้าจอคมชัดแน่นอนตรงนี้ ส่วนความแรงก้ได้ชิปตัว Dimensity 920 5G ใช้งาน 5G ได้เร็วแรงและยังมีระบบระบายความร้อนได้ดี เหมาะกับการเล่นเกมอีกด้วย ส่วนกล้องหลังของรุ่นนี้จะมี 3 ตัวความละเอียด 50MP พร้อมกันสั่น OIS ของ Sony IMX766 กับเลนส์อัลตร้าไวด์ 8MP และชัดลึก 2MP ช่วยให้การถ่ายรูปนั้นดูดีมากขึ้น และสามารถถ่ายได้นิ่งมากขึ้นด้วยไม่ว่าจะถ่ายกลางวันหรือกลางคืน รุ่นนี้จะเน้นการถ่ายกลางคืนด้วย Ultra Nightscape ที่เก็บแสงได้เป็นอย่างดี กล้องหน้ามีความละเอียด 16MP ที่มีระบบ Clear Fusion ช่วยให้เซลฟี่ได้สวยทุกช่วงเวลา รุ่นนี้มีความจุแบตอยู่ 4,500 mAh รองรับ SuperDart Charge 60W ชาร์จกลับมาเต็มได้ในเวลาไม่นานเช่นกัน ดูรายละเอียดและสั่งซื้อที่นี่
5. POCO X4 Pro 5G: ราคา 10,990 บาท
มือถือที่ขึ้นชื่อว่าเป็นมือถือเกมมิ่งในราคาประหยัด ซึ่งนอกจากจะเป็นมือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทแล้ว ก็ยังมีสเปคที่เร็วแรงเหมาะกับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเล่นเกมหรือถ่ายรูปก็ทำได้ดีแน่นอน โดยการดีไซน์ของตัวนี้จะยังเน้นไปที่สีสันสวยงาม และมีหน้าจอแบบ AMOLED ระดับ FHD+ กว้าง 6.67 นิ้วใหญ่มากๆ เล่นเกมหรือดูหนังได้เต็มตา แถมยังมีอัตรา Refresh Rate 120Hz และ Touch Sensing 360Hz ไหลลื่นสุดๆ มาพร้อมความแรงของชิป Snapdragon 695 5G กับ LiquidCool 1.0 Plus ที่ช่วยระบายความร้อนได้ดีเยี่ยม และยังมีมอเตอร์ลิเนียร์แกน Z ที่ให้แรงสั่นสมจริงมากขึ้น พร้อมกับรองรับระบบเสียง Hi-Res Audio ส่วนกล้องหลังจะมี 3 ตัวแบบเทพๆ ที่ความละเอียด 108MP อัลตร้าไวด์ 8MP และมาโคร 2MP เก็บรายละเอียดได้ทุกมุมและทุกช่วงเวลา กับกล้องหน้าความละเอียด 16MP เซลฟี่ได้สวยงามปกติ และแบตสุดอึดที่ 5,000 mAh รองรับ Turbo Charge 67W ดูรายละเอียดและสั่งซื้อที่นี่
6. Redmi Note 11 Pro 5G: ราคา 10,990 บาท
เกาะตลาดกันมาติดๆ สำหรับมือถือในเครือของ Xiaomi ที่ครอบคลุมการใช้งานหลากหลายรูปแบบ และแน่นอนว่าเป็นมือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทราคาประหยัด ที่ได้สเปคเทพๆ เหมือนเดิมกับซีรีส์ของ Note 11 รุ่นโปรที่บอกตรงๆ ว่ามีสเปคที่คล้ายกับรุ่นด้านบนมากๆ ถ้าไม่นับการดีไซน์ของรุ่นนี้ที่มาแบบเหลี่ยมๆ สวยงามเลยทีเดียว ส่วนหน้าจอจะเป็นแบบ AMOLED ระดับ FHD+ กว้างมากถึง 6.67 นิ้วพร้อมอัตรา Refresh Rate 120Hz ไหลลื่นได้ไม่แพ้รุ่นไหนๆ และยังได้ความแรงจากชิปตัวเดียวกันคือ Snapdragon 695 5G กับตัว LiquidCool ที่ช่วยระบายความร้อนได้เหมือนกันด้วย จะต่างกันเพียงความจุที่รุ่นนี้มี ROM 128GB เท่านั้น นอกจากนี้ยังได้กล้องหลัง 3 ตัวที่ความละเอียด 108MP อัลตร้าไวด์ 8MP และมาโคร 2MP ถ่ายมุมใกล้หรือไกลได้แบบชัดๆ พร้อมกล้องหน้าความละเอียด 16MP ที่เซลฟี่ได้สวยๆ อีกทั้งยังมีความจุแบต 5,000 mAh รองรับ Turbo Charge 67W ได้เหมือนกันเป๊ะ ดูรายละเอียดและสั่งซื้อที่นี่
7. vivo V23e 5G: ราคา 12,999 บาท
มาที่ฝั่งของ vivo กันบ้างสำหรับมือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทรุ่นนี้ที่เปิดตัวออกมาช่วงปลายปีที่แล้ว แต่ก็ยังคงเป็นรุ่นที่น่าใช้งานอยู่มากๆ โดยรุ่นนี้จะเน้นไปที่การถ่ายรูป และการเซลฟี่นำเด่นมาเลย ด้วยกล้องหน้าความละเอียด 44MP ที่สามารถเซลฟี่ได้คมชัดและนิ่งมาก พร้อมกับฟีเจอร์ Eye Autofocus ที่ช่วยละลายพื้นหลังได้อย่างเป็นธรรมขาติ ส่วนกล้องหลังเป็นกล้อง 3 ตัวที่ความละเอียด 50MP อัลตร้าไวด์ 8MP และมาโคร 2MP ถ่ายวิดีโอก็นิ่ง หรือถ่ายบุคคลได้สวยๆ ด้วย Natural Portrait และยังแบ่งจอถ่ายวิดีโอด้วย Dual-View Video พร้อมกันทั้งหน้าและหลังได้ด้วย รุ่นนี้จะมีดีไซน์ที่เน้นความบางเบาของตัวเครื่อง และมีหน้าจอเป็นแบบ AMOLED ระดับ FHD+ กว้าง 6.44 นิ้วและได้ชิปเป็นตัว Dimensity 810 เล่นเกมได้สบายๆ และยังมีการรองรับระบบเสียง Hi-Res และ Extended RAM 2.0 ที่ช่วยชยาย RAM ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รุ่นนี้มีความจุแบตที่ 4,050 mAh รองรับ Fast Charging 44W ชาร์จกลับมา 69% ในเวลา 30 นาที ดูรายละเอียดและสั่งซื้อที่นี่
8. realme GT Neo2: ราคา 13,990 บาท
มือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทรุ่นต่อมานี้เป็นรุ่นที่ทำออกมาได้สวยสุดๆ เหมาะกับการเล่นเกมหรือว่าจะเน้นถ่ายรูปก็ยังพอไหว การดีไซน์ของรุ่นนี้จะเป็นแบบ Digital Urban ที่สลับกันระหว่างสีเงาและสีด้าน ซึ่งสีที่ใช้จะมีแค่ในรุ่นของ Neo เท่านั้น รวมไปถึงหน้าจอที่เป็นแบบ E4 AMOLED ระดับ HDR 10+ กว้าง 6.62 นิ้วพร้อมกับอัตรา Refresh Rate 120Hz สีสันคมชัดสมจริงและไหลลื่นไม่มีสะดุด และยังได้ชิปตัวแรงเป็น Snapdragon 870 5G เล่นเกมได้ดีเยี่ยม พร้อมกับระบบกันสั่น Tactile Engine 2.0 ที่ช่วยให้เล่นเกมได้อย่างสมจริงมากขึ้น และไม่ต้องกลัวว่าเครื่องจะร้อนเพราะรุ่นนี้มี Stainless Steel Vapor Cooling Plus ฟีเจอร์ที่ช่วยระบายความร้อน กับการทำให้เฟรมเรทไม่ตกขณะเล่นเกมอีกด้วย ส่วนกล้องหลังจะมี 3 ตัวความละเอียด 64MP อัลตร้าไวด์ 8MP และมาโคร 2MP พร้อมให้ถ่ายทุกช่วงเวลาในระดับโปร กล้องหน้ามีความละเอียด 16MP เซลฟี่ได้สวยงามปกติ รุ่นนี้มีความจุแบต 5,000 mAh รองรับ SuperDart 65W ใช้งานได้ตลอดทั้งวันแน่นอน ดูรายละเอียดและสั่งซื้อที่นี่
9. Samsung Galaxy M52 5G: ราคา 13,499 บาท
มาต่อกันที่มือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทของ Samsung อีกหนึ่งรุ่นที่ได้เปิดตัวมาช่วงปลายปีที่แล้ว ทำให้ในตอนนี้รุ่นนี้ก็ได้ลดราคาลงมาเหลือ 10,999 บาทเท่านั้น แต่ว่าก็ยังเหมาะกับการใช้งานทุกรูปแบบอยู่ดี โดยรุ่นนี้จะยังมีฝาหลังที่เป็นลวดลายแบบเส้นตรงลงมาอยู่เหมือนเดิม ส่วนหน้าจอจะเป็นแบบ Super AMOLED Plus ระดับ FHD+ กว้าง 6.7 นิ้วและมีอัตรา Refresh Rate 120Hz หายห่วงเรื่องสีสันความคมชัดและความลื่นไปได้เลย นอกจากนี้ยังได้ชิปตัว Snapdragon 778G 5G พร้อมฟีเจอร์ RAM Plus ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้วยการขยาย RAM ได้อีก 4GB กล้องหลังรุ่นนี้จะมี 3 ตัวที่ความละเอียด 64MP อัลตร้าไวด์ 12MP และมาโคร 5MP ถ่ายมุมกว้างก็ชัด หรือจะถ่ายมุมใกล้ๆ ก็ยังเก็บรายละเอียดได้ครบถ้วน ส่วนกล้องหน้าก็จัดเต็มที่ 32MP เซลฟี่ได้สวยๆ ทุกเวลาที่ต้องการ รวมไปถึงแบตที่มีความจุมากถึง 5,000 mAh รองรับ Super Fast Charging 25W ใช้ได้เต็มวันแน่นอน ดูรายละเอียดและสั่งซื้อที่นี่
10. Motorola Edge 20 Fusion: ราคา 10,999 บาท
ปิดท้ายกันด้วยมือถือราคาประหยัดที่มีสเปคดีงามไม่แพ้ยี่ห้อใหญ่ๆ เหมาะกับการใช้งานทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเน้นเล่นเกมหรือว่าถ่ายรูป ถึงแม้ว่าบนหน้าเว็บจะขายหมดแล้ว แต่ตอนนี้ก็ยังมีขายอยู่ปกติในร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการด้วย โดยรุ่นนี้จะมีหน้าจอเป็นแบบ OLED ระดับ HDR10+ กว้าง 6.7 นิ้ว พร้อมกับอัตรา Refresh Rate 90Hz สีสันสดใสไถจอได้ลื่นๆ อีกทั้งยังได้ความแรงของชิป Dimensity 800U 5G ที่ใช้งาน 5G ได้และยังเล่นเกมได้ดีอีกด้วยทั้งการเชื่อมต่อหรือสตรีม ส่วนกล้องหลังจะมี 3 ตัวที่ความละเอียด 108MP อัลตร้าไวด์ 8MP และชัดลึก 2MP ถ่ายได้สวยงาไม่แพ้ยี่ห้อไหนแน่นอน กล้องหน้าก็มีความละเอียดถึง 32MP เซลฟี่ได้คมชัดดูเป็นธรรมชาติถูกใจสายเซลฟี่เลย แถมยังได้แบตอึดที่ความจุ 5,000 mAh รองรับ TurboPower 30W ชาร์จเพียง 10 นาทีก็ใช้ต่อได้ครึ่งวันแล้ว ถือว่าเป็นมือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทที่น่าสนใจเหมือนกัน ดูรายละเอียดและสั่งซื้อที่นี่
ตารางเปรียบเทียบ 10 มือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทปี 2022
รุ่น\ ข้อมูล | หน้าจอ | ชิปประมวลผล | กล้องหน้า | กล้องหลัง | RAM/ ROM | แบตฯ | ราคา |
Samsung Galaxy A53 5G | Super AMOLED กว้าง 6.5 นิ้ว | Exynos 1280 | 32MP | 64MP + 12MP + 5MP + 5MP | 8GB/ 128GB | 5,000 mAh | 14,499 บาท |
Samsung Galaxy M33 5G | TFT กว้าง 6.6 นิ้ว | Exynos 1280 | 8MP | 50MP + 5MP + 2MP + 2MP | 8GB/ 128GB | 5,000 mAh | 10,999 บาท |
OPPO Reno7 Z 5G | AMOLED กว้าง 6.4 นิ้ว | Snapdragon 695 5G | 16MP | 64MP + 2MP + 2MP | 8GB/ 128GB | 4,500 mAh | 12,990 บาท |
realme 9 Pro+ | Super AMOLED กว้าง 6.4 นิ้ว | Dimensity 920 5G | 16MP | 50MP + 8MP + 2MP | 8GB/ 256GB | 4,500 mAh | 12,999 บาท |
POCO X4 Pro 5G | AMOLED กว้าง 6.67 นิ้ว | Snapdragon 695 5G | 16MP | 108MP + 8MP + 2MP | 8GB/ 256GB | 5,000 mAh | 10,990 บาท |
Redmi Note 11 Pro 5G | AMOLED กว้าง 6.67 นิ้ว | Snapdragon 695 5G | 16MP | 108MP + 8MP + 2MP | 8GB/ 128GB | 5,000 mAh | 10,990 บาท |
vivo V23e 5G | AMOLED กว้าง 6.44 นิ้ว | Dimensity 810 | 44MP | 50MP + 8MP + 2MP | 8GB/ 128GB | 4,050 mAh | 12,999 บาท |
realme GT Neo2 | E4 AMOLED กว้าง 6.62 นิ้ว | Snapdragon 870 5G | 16MP | 64MP + 8MP + 2MP | 8GB/ 128GB | 5,000 mAh | 13,990 บาท |
Samsung Galaxy M52 5G | Super AMOLED กว้าง 6.7 นิ้ว | Snapdragon 778G 5G | 32MP | 64MP + 12MP + 5MP | 8GB/ 128GB | 5,000 mAh | 13,499 บาท |
Motorola Edge 20 Fusion | OLED กว้าง 6.7 นิ้ว | Dimensity 800U 5G | 32MP | 108MP + 8MP + 2MP | 8GB/ 128GB | 5,000 mAh | 10,999 บาท |
แล้วทั้งหมดนี้ก็เป็น 10 โทรศัพท์มือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทในปี 2022 รุ่นไหนดีที่น่าใช้งาน โดยแต่ละรุ่นนั้นสามารถใช้ 5G ได้ และยังเล่นเกมได้แบบไหลลื่น พร้อมกับการถ่ายรูปได้อย่างสวยๆ ถ้าดูจากตารางการเปรียบเทียบของมือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทก็จะเห็นได้ว่า ราคาของแต่ละรุ่นนั้นจะไม่ค่อยห่างกันมากเท่าไหร่นัก แต่ว่าจะไปต่างกันที่ความเร็วแรงของชิป และรายละเอียดในเรื่องของการถ่ายรูปที่มีตั้งแต่เอาไว้ถ่ายทั่วไป ไปจนถึงถ่ายได้ในระดับโปร และบางรุ่นก็เหมาะกับเอาไว้ถ่ายเซลฟี่ด้วย แต่ทั้งนี้ทุกรุ่นก็เล่นเกมได้เป็นอย่างดีแน่นอน อยู่ที่ว่าอยากจะเอาไปเล่นเกมเป็นหลักมากแค่ไหน ใครที่สนใจโทรศัพท์มือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทรุ่นไหนก็ลองเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมกันได้เลย เพราะบางรุ่นนั้นก็ลดราคาจากมือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทกันบ้างแล้ว โดยเฉพาะรุ่นที่เปิดตัวมาช่วงปลายปีที่แล้ว และถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราก็จะนำมาฝากกันเรื่อยๆ เลยนะครับ