10 แอพออกกําลังกายฟรีสำหรับ iOS, Android แอพไหนดีออกกำลังกายได้ง่ายๆ ทำที่บ้านได้ไม่ต้องออกไปข้างนอกในปี 2022
ถ้าให้พูดถึงเรื่องออกกำลังกาย หรือว่าจะเป็นการลดน้ำหนักในปัจจุบันนี้ เชื่อว่าก็ยังมีหลายคนที่ยังคงมีความกังวลในเรื่องของการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 อยู่เหมือนเดิม ถึงแม้ว่าจะมีการผ่อนปรนออกมาแล้วก็ตาม แต่ถ้าจะให้ออกไปข้างนอกเพื่อเจอผู้คนก็ยังคงมีความเสี่ยงอยู่ดี ทางที่ดีและง่ายที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นการออกกำลังกายในบ้าน หรือว่าออกกำลังกายอยู่ในบริเวณที่พักของตัวเองเท่านั้น และสิ่งที่ยากที่สุดในการออกกำลังกาย ถ้าไม่นับความขี้เกียจของตัวเองก็คือ เราไม่รู้ว่าควรจะออกกำลังกายด้วยท่าไหน ไม่รู้ว่าจะหาเทรนเนอร์ที่ไหนมาคอยบอกว่าจะออกกำลังกายยังไง ออกกำลังกายตรงไหนลดส่วนไหนได้บ้าง ปัญหาเหล่านี้แก้ได้ไม่ยาก และใช้แค่สิ่งที่เราใช้กันเป็นประจำกันอยู่แล้ว นั้นก็คือโหลดแอพมาใช้งานกับมือถือของเรานั่นเอง แต่ว่าแอพเหล่านี้ก็มีเยอะมากเช่นกัน หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าจะใช้แอพไหนดีในการช่วยออกกำลังกาย วันนี้ทาง Specphone เลยจะมาแนะนำ 10 แอพออกกําลังกายฟรีในปี 2022 สำหรับ iOS และ Android แอพไหนดีที่ช่วยให้เราออกกำลังกายได้ง่ายขึ้นเหมือนมีเทรนเนอร์ประจำตัว ออกกำลังกายได้เองเลยง่ายที่บ้านไม่ต้องออกไปไหน
- 30 Day Fitness at Home
- Lose Weight for Women at Home
- Lose Weight at Home in 30 Days
- Nike Training Club
- Daily Workouts – Home Trainer
- Keep: Fitness &Workout Trainer
- 7 Minute Workout: Fitness App
- JEFIT Workout Planner Gym Log
- Home Workout – No Equipment
- Fitness & Bodybuilding Pro
10 แอพออกกําลังกายฟรีสำหรับ iOS, Android แอพไหนดีในปี 2022
สำหรับทั้ง 10 แอพที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้ จะเป็นแอพที่สามารถโหลดมาใช้งานได้เลยฟรีๆ ทั้งบนระบบ Android และ iOS โดยแต่ละแอพนั้นก็จะมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป แต่จะเป็นแอพที่ได้รับความนิยมสูง รวมไปถึงรูปแบบของตัวแอพ ที่จะมีทั้งแบบสอนท่าทางการออกกำลังกาย ว่าทำส่วนไหนลดส่วนไหน หรือเพิ่มกล้ามเนื้อส่วนไหนได้บ้าง สามารถทำได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงเลย ส่วนบางแอพนั้นก็อาจจะเป็นการกำหนดวัน และเวลาในการออกกำลังกายเหมือนเป็น Challenge ภายใน 30 วันว่าควรกินหรือออกกำลังกายแบบไหนบ้าง เพื่อลดน้ำหนักให้ตัวเอง ใครอยากได้แอพรูปแบบไหนก็ลองเลือกดูทั้ง 10 แอพออกกำลังที่เราจะมาแนะนำกันได้เลย
1. 30 Day Fitness at Home
เริ่มกันที่แอพออกกําลังกายแอพแรกกันเลย ซึ่งแอพนี้เป็นแอพที่ได้รับความนิยมสูงมาก แต่น่าเสียดายที่มีให้ใช้งานแค่บนระบบ iOS เท่านั้น ถ้าเป็นของ Android จะมีชื่อคล้ายๆ กันแต่เป็นคนละแอพกันนะ โดยแอพนี้จะเป็นแอพที่ทำขึ้นมาเพื่อคนที่ต้องการตั้ง Challenge ให้กับตัวเองภายใน 30 วัน ที่จะสามารถเลือกได้เลยว่าเรานั้นต้องการทำอะไร จะลดน้ำหนัก ฟิตหุ่น หรือว่าจะเล่นกล้ามก็เลือกได้ตามใจชอบ แถมยังเลือกได้อีกด้วยว่าเรานั้นอยากจะออกกำลังกายหนักไหม หรือว่าจะเล่นแบบเบาๆ สำหรับคนมีเวลาน้อยก็ได้ เพราะเราสามารถเลือกวันและเวลาในการออกกำลังกายได้อย่างอิสระ ที่สำคัญก็คือการเลือกส่วนที่เราต้องการลด หรือจะฟิตตรงส่วนไหนของร่างกายก็เลือกได้ตั้งแต่แรกเลย วิธีการใช้งานก็ไม่ยาก เมื่อเริ่มแล้วในวันแรกตัวแอพก็จะกำหนดว่าเราควรเริ่มที่กี่นาที ทำท่าอะไรบ้าง (มีวิดีโอสาธิตท่าให้ดูด้วย) และเลือกได้เลยว่าจะออกกำลังกายแบบเบาๆ หรือจัดหนัก และเราก็ไม่สามารถทำข้ามวันได้ด้วย ต้องทำวันแรกให้จบก่อนถึงจะเริ่มวันต่อไปได้ โดยรวมแล้วเป็นแอพที่ดีมาก ครบจบในแอพเดียว เหมาะสำหรับคนที่เริ่มหรือคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำก็ใช้ได้เช่นกัน
- iOS: โหลดแอพ 30 Day Fitness at Home ที่นี่
- Android: ไม่มี
2. Lose Weight for Women at Home
แอพออกกําลังกายตัวต่อมานี้ เป็นแอพที่ทำขึ้นมาเพื่อผู้หญิงโดยเฉพาะ ซึ่งตัวแอพจะมีแบบของผู้ชายด้วยในชื่อเดียวกัน และการทำงานก็จะคล้ายๆ กันด้วย แต่จะไปแตกต่างกันที่เรื่องวิธีการออกกำลังกาย กับท่าทางต่างๆ รวมไปถึงความเหมาะสมในการออกกำลังกายด้วย ผู้ชายคนไหนที่อยากใช้งานแอพนี้ก็แค่เปลี่ยนชื่อจาก for Women เป็น for Men เท่านั้นเลย ซึ่งแอพนี้จะสามารถเลือกได้ว่าอยากจะลดน้ำหนัก หรืออยากจะเพิ่ม-ลดส่วนไหนของร่างกาย ไปจนถึงการเพิ่มกล้ามเนื้อในส่วนต่างๆ ได้ด้วย และก็ยังสามารถเลือกได้ว่าอยากจะออกกำลังกายบ่อยแค่ไหน ให้เหมาะกับเวลาที่ตัวเองมีอยู่ หลังจากนั้นแอพก็จะคำนวณ และกำหนดตารางในการออกกำลังกายมาให้เลยเป็นเวลา 30 วัน ที่สำคัญก็คือมีการสาธิตท่าออกกำลังกายให้ดูด้วย เหมาะสำหรับมือใหม่มากๆ เพราะมีรีพอร์ตการออกกำลังด้วย ว่าวันนี้ได้อะไรบ้าง ลดไปกี่แคลฯ แล้วในแต่ละวัน ที่น่าสนใจก็คือการใส่ใจในการกินน้ำที่สามารถกำหนดได้เลยว่าต้องการกินกี่แก้วต่อวัน เพื่อสุขภาพที่ดีมากขึ้นนั่นเอง
3. Lose Weight at Home in 30 Days
อีกหนึ่งแอพออกกําลังกายที่เป็น Challenge 30 วันในการออกกำลังกาย ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ซึ่งวิธีการกำหนดค่าต่างๆ ก็จะคล้ายๆ กับแอพตัวอื่นๆ ในแบบนี้เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเพศ และการกำหนดค่าในการออกกำลังกาย แต่แอพนี้จะมีให้บอกข้อมูลการใช้ชีวิตด้วย ว่าทำงานประเภทไหน เพื่อนำไปคำนวณการออกกำลังกายต่อไป รวมไปถึงข้อมูลการกินด้วยว่าเรานั้นอยากเน้นผัก หรือว่าจะกินแบบทั่วไป ข้อดีของแอพนี้ก็คือการเก็บข้อมูลในตอนแรกที่มีให้เลือกเยอะมาก ทั้งการบอกขนาดรูปร่างที่มีอยู่ และที่ต้องการจะเป็น และยังมีรายละเอียดความสูงกับน้ำหนักในปัจจุบัน ต้องการลดมากน้อยแค่ไหนในแต่ละวัน หลังจากนั้นแอพก็จะจัดการการออกกำลังกาย การกินในแต่ละมื้อ ว่าควรกินอะไรตอนไหนบ้าง ที่สำคัญก็คือมีรีพอร์ตของแต่ละวันเป็นการบันทึกไปในตัวได้อีกด้วย แอพนี้ดีมากสำหรับคนที่ต้องการควบคุมแคลฯ ในการกินควบคู่ไปด้วย
- iOS: โหลดแอพ Lose Weight at Home in 30 Days ที่นี่
- Android: โหลดแอพ Lose Weight at Home in 30 Days ที่นี่
4. Nike Training Club
แอพออกกําลังกายที่ไม่น่าจะไม่มีใครไม่รู้จักกับชื่อแบรนด์ Nike ที่มีแอพตัวช่วยในการออกกำลังกายออกมาด้วย นอกจากตัวแอพออกกําลังกายอันนี้แล้ว ก็ยังมีแอพของ Nike อีกตัวที่เป็นแอพสำหรับนักวิ่งทั้งออกกำลังกาย หรือว่าวิ่งเพื่อเก็บสถิติต่างๆ ด้วยเช่นกัน ส่วนแอพนี้จะเป็นการออกกำลังกายในบ้าน หรือว่าต้องการเทรนเนอร์ส่วนตัวเป็นแบบวิดีโอ เหมือนว่าเราได้เข้าไปยังคลับแบบส่วนตัวเลยทีเดียว แถมในแอพยังมีให้เลือกอีกหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายทั่วไป คาร์ดิโอ โยคะ และอื่นๆ อีกมากมายตามแบบที่เราชอบได้เลย นอกจากนี้เรายังเลือกได้ด้วยว่าต้องการเพิ่มกล้ามเนื้อ หรือว่าลดน้ำหนักส่วนไหนออกไป อีกทั้งยังเลือกระดับความยากในการออกกำลังกายได้ด้วย ว่าเป็นระดับเริ่มต้นหรือว่าต้องการท่าแบบโปรขึ้นไป พร้อมกับเชื่อมต่อกับ Apple Watch เพื่อเก็บข้อมูลต่างๆ ได้อีกด้วย ใครที่ชอบออกกำลังกายแบบท่าทางตามเทรนเนอร์แอพนี้เหมาะมาก
5. Daily Workouts – Home Trainer
ใครที่ต้องการออกกำลังกายแบบมีเทรนเนอร์ส่วนตัว แนะนำอีกหนึ่งแอพออกกําลังกาย ที่เป็นแอพใช้งานง่ายๆ สามารถเข้าใจได้เลยตั้งแต่เริ่มใช้งาน โดยเราจะสามารถเลือกได้ว่าต้องการออกกำลังกายแบบไหน อยากจะลด หรือว่าอยากจะเพิ่มส่วนไหนของร่างกาย เมื่อเลือกได้แล้วก็จะมีตัวอย่างการออกกำลังกายแบบคนจริงๆ ทำให้ดูเป็นตัวอย่างก่อน หลังจากนั้นจะมีเวลานับถอยหลังให้เราทำตามจนครบเวลาที่กำหนด ถึงจะเริ่มต้นท่าต่อไปได้ ซึ่งตรงนี้เราจะกำหนดได้หมดเลยว่าอยากจะออกกำลังกายกี่นาที และจะมีทั้งหมด 10 ท่าต่อหนึ่งรูปแบบการออกกำลังกาย หรือถ้าใครไม่อยากจะทำท่าเดิมที่มีอยู่แล้ว ก็สามารถกดเข้าไปดู Streaming การออกกำลังกายเพื่อทำตามได้เลย แถมยังมีให้เลือกเยอะด้วย ไม่ว่าจะเป็นโยคะ คาร์ดิโอ ออกกำลังกายแบบหนัก เล่นเป็นบางส่วน และอีกเยอะแยะให้เลือกเลย
- iOS: โหลดแอพ Daily Workouts – Home Trainer ที่นี่
- Android: โหลดแอพ Daily Workouts – Home Trainer ที่นี่
6. Keep: Fitness &Workout Trainer
แอพออกกําลังกายที่ได้รับความนิยมและได้คะแนนสูงมาก และเป็นแอพออกกําลังกายที่ครอบคลุมทั้งการออกกำลังกายปกติ หรือว่าต้องการเทรนเนอร์ส่วนตัวก็มีให้หมดเลย แน่นอนว่าในขั้นแรกก็ยังคงมีการให้เลือกว่าเราต้องการลดน้ำหนัก อยากออกกำลังกายทั่วไป หรือว่าสร้างกล้ามเนื้อส่วนไหน และยังมีการเก็บข้อมูลต่างๆ ทั้งเพศและอายุ ที่มีผลต่อวิดีโอที่เราจะได้ดูด้วย (วิดีโอตามช่วงอายุ) อันนี้จะมีข้อดีตรงที่เราจะสามารถเข้าใจและทำตามได้ง่าย ถ้าหากว่าทำตามคนที่มีอายุใกล้เคียงกัน รวมไปถึงข้อมูลส่วนสูง น้ำหนัก การทำงานรูปแบบไหนของเราด้วย หลังจากนั้นแอพจะประมวลผลและให้เลือกการออกกำลังกายได้ ซึ่งการออกกำลังกายแบบต่างๆ นั้นเราก็จะเลือกย่อยลงไปได้อีก ว่าต้องการลดหรือเพิ่มส่วนไหนของร่างกาย พร้อมท่าทางประกอบแบบทำตามได้ง่ายๆ หรือถ้าอยากจะแพลนการออกกำลังกาย ก็สามารถจัดตารางการออกกำลังกายจากแอพได้เลยง่ายๆ แค่กดเริ่มต้นวันที่ต้องการเท่านั้น
- iOS: โหลดแอพ Keep: Fitness &Workout Trainer ที่นี่
- Android: โหลดแอพ Keep: Fitness &Workout Trainer ที่นี่
7. 7 Minute Workout: Fitness App
แอพออกกําลังกายสำหรับคนมีเวลาน้อย ที่ชื่อแอพก็บ่งบอกอยู่แล้วว่าออกกำลังกายใน 7 นาทีเท่านั้น ซึ่งถามว่าแค่ 7 นาทีมันจะลดได้จริงหรือไม่ ก็ต้องบอกได้เลยว่าสามารถทำได้จริงๆ เพียงแค่ทำตามที่แอพแนะนำในการออกกำลังกายในแต่ละวันเท่านั้นเลย โดยแอพจะมีการเก็บข้อมูลเบื้องต้นเหมือนแอพอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเพศ หรือว่าอยากออกกำลังกายเพื่ออะไร และอยากลดส่วนไหน รวมไปถึงข้อมูลน้ำหนักส่วนสูงด้วย หลังจากนั้นแอพก็จะประมวลผล และให้เรากดออกกำลังกายตามท่าที่กำหนดในแต่ละวันได้ทันที นอกจากนี้เราสามารถเลือกเวลาในการออกกำลังกายได้อีกด้วย ไม่ได้จำกัดแค่ 7 นาทีอย่างเดียว ถ้าต้องการออกมากกว่านี ก็กดไปที่รูปแบบการออกกำลังกายแบบอื่นๆ กับเวลาที่จะออกกำลังกายที่มีให้เลือกตั้งแต่ 6 – 20 นาทีหรือมากกว่านั้น แล้วแต่เราต้องการได้เลย หรือจะเลือก Custom รูปแบบการออกกำลังกายของตัวเองตามี่ถนัดได้ด้วย ถือว่าทำออกมาได้ดีมากๆ เลย
- iOS: โหลดแอพ 7 Minute Workout: Fitness App ที่นี่
- Android: โหลดแอพ 7 Minute Workout: Fitness App ที่นี่
8. JEFIT Workout Planner Gym Log
แอพออกกําลังกายแอพต่อมานี้เป็นแอพที่เหมาะกับคนที่ต้องการเทรนเนอร์ส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายที่ยิม ฟิตเนส หรือแม้กระทั่งออกกำลังกายที่บ้านก็สามารถเลือกได้หมดเลย แถมยังเลือกได้อีกด้วยว่าต้องการกำหนดเอง หรือว่าให้แอพช่วยกำหนดการออกกำลังกายให้ ส่วนการเก็บข้อมูลต่างๆ ก็จะมีการให้เลือกเหมือนแอพทั่วไป หลังจากนั้นแอพก็จะประมวลผล และให้เรากำหนดแพลนที่จะออกกำลังกายได้เลย หรือถ้าอยากจะออกกำลังกายเอาส่วนไหนเน้นเฉพาะ ก็สามารถเลือกและทำตามท่าตัวอย่างได้ทันที แต่ต้องบอกก่อนว่าแอพนี้จะเหมาะกับคนที่มีอุปกรณ์ออกกำลังกายบ้างพอสมควร เพราะท่าส่วนใหญ่จะเป็นท่าที่ออกกำลังกายกับอุปกรณ์มากกว่า อย่างน้อยมีดัมเบลสักหนึ่งถึงสองอันก็ทำตามได้แล้วสบายๆ ถ้าใครไม่มีจริงๆ ก็ให้เลือกท่าที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ออกกำลังกายก็ได้เหมือนกัน
- iOS: โหลดแอพ JEFIT Workout Planner Gym Log ที่นี่
- Android: โหลดแอพ Workout Plan & Gym Log Tracker ที่นี่
9. Home Workout – No Equipment
แอพออกกําลังกายที่ใช้งานง่าย และมีคนโหลดมาใช้งานมากกว่าล้านคน ทั้งบนระบบ iOS และ Android ที่ดูเผินๆ แล้วก็จะคล้ายๆ กับแอพที่ช่วยออกกำลังกายที่บ้านแบบทั่วไป โดยสามารถเลือกได้หมดเลยว่าต้องการออกกำลังกายแบบไหน ตามที่ตัวเองต้องการ รวมไปถึงข้อมูลร่างกายเพื่อนำไปคำนวณหาค่าต่างๆ และวิธีการออกกำลังกายด้วย แถมแอพนี้ก็ยังมีเทรนเนอร์ให้เลือกด้วยว่าอยากได้คนไหน เมื่อเลือกได้เรียบร้อยแล้ว ก็จัดตารางการออกกำลังกายได้เลยทันที โดยการออกกกำลังกายนั้นจะแบ่งเป็นแบบอาทิตย์ ด้วยท่าทางแบบเบสิคในช่วงแรก หลังจากนั้นก็จะเป็นการลดน้ำหนักด้วยการออกกำลังกายตามท่าที่แอพกำหนด พร้อมตัวอย่างการออกกำลังกายแบบเข้าใจง่ายๆ ต่อวัน เพียงไม่กี่นาทีก็ลดน้ำหนัก หรือว่าเพิ่มกล้ามเนื้อตามที่ต้องการได้แล้ว
10. Fitness & Bodybuilding Pro
แอพออกกำลังกายแอพสุดท้ายที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้ เป็นแอพออกกำลังกายที่ทำขึ้นมาสำหรับผู้ชายโดยเฉพาะ และเหมาะกับคนที่ต้องการตัวอย่างการออกกำลังกายปกติ ไม่ได้มีการคำนวณข้อมูลหรือจัดการอะไรมากนัก แต่ถ้าอยากจะทำตารางการออกกำลังกาย จะต้องอัพเกรดก่อน แต่ถ้าจะใช้งานฟรีๆ ก็ได้ไม่มีปัญหา โดยเราจะสามารถเลือกได้ว่าอยากจะสร้างกล้ามเนื้อส่วนไหน ซึ่งแอพนี้ก็จะเน้นไปที่การสร้างกล้ามเนื้อของร่างกายเป็นหลัก ดังนั้นใครที่ต้องการลดความอ้วน หรือลดน้ำหนักอันนี้จะยังไม่ตอบโจทย์มากนัก แต่ถ้าพร้อมเล่นกล้ามก็ทำตามที่ต้องการได้เลย อีกทั้งแอพยังมีการแนะนำอาหารการกินในเบื้องต้นสำหรับการ Lean หรืออาหารสร้างกล้ามเนื้ออีกด้วย
แล้วทั้งหมดนี้ก็เป็นแอพออกกำลังกายทั้ง 10 แอพที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ โดยแต่ละแอพก็จะมีความคล้ายๆ กันตรงที่สามารถเลือกรูปแบบการออกกำลังกาย และการสร้างตารางกการออกกำลังกายได้ง่ายๆ เพียงแค่ใส่ข้อมูลตามจริงลงไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเลือกรูปแบบการออกกำลังกาย น้ำหนัก ส่วนสูง อายุ เวลาที่จะออกกำลังกาย รูปแบบการทำงานต่างๆ หรืออย่างอื่นที่แอพต้องการข้อมูล แล้วให้แอพประมวลผลเพื่อให้เหมาะกับตัวเรามากที่สุด ก็จะสามารถออกกำลังกายตามรูปแบบต่างๆ ที่ต้องการได้แล้ว สิ่งสำคัญในการออกกำลังกายก็คือวินัย และความตั้งใจที่จะออกกำลังกายนั้นสำคัญที่สุด ถ้าออกกำลังกายแล้วยังกินเยอะ หรือว่าไม่ทำตามที่แอพจัดการให้ก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าตั้งใจจะทำจริงๆ ก็โหลดแอพที่ชอบมาออกกำลังกายที่บ้านกันได้เลย แล้วถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราก็จะนำมาฝากกันเรื่อยๆ เลยนะครับ