สำหรับในปีนี้ เทคโนโลยีในวงการมือถือที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้นเรื่องการเชื่อมต่อ 5G ที่ในขณะนี้ได้เริ่มเปิดให้บริการในประเทศไทยไปบ้างแล้วในบางพื้นที่ ส่งผลให้ 5G กลายเป็นหนึ่งในปัจจัยที่หลายท่านหยิบมาพิจารณาในการเลือกซื้อมือถือใหม่ซักเครื่อง แต่ก็ต้องยอมรับว่าในช่วงแรกนี้ มือถือที่รองรับ 5G ก็ล้วนจะมีแต่ในรุ่นท็อปราคาไม่ต่ำกว่า 20,000 กลาง ๆ กันแทบทั้งนั้น ด้วยข้อจำกัดด้านต้นทุนของฮาร์ดแวร์ที่ยังสูงอยู่ อย่างไรก็ตาม Huawei nova 7 SE คือมือถือที่มาทำลายข้อจำกัดดังกล่าวได้ในที่สุดครับ กับการเป็นมือถือ 5G ที่มาพร้อมราคาเครื่องเปล่าประกันศูนย์ไทยเพียง 11,990 บาทเท่านั้น !!
ซึ่งสาเหตุที่ Huawei สามารถทำราคาของ nova 7 SE ได้เพียงแค่หมื่นต้น ๆ ก็เนื่องจาก Huawei เองจัดว่าเป็นหนึ่งในผู้นำในการพัฒนา 5G ระดับโลกอยู่ในปัจจุบัน ประกอบกับยังเป็นผู้พัฒนาชิปประมวลผลเองได้ด้วย จึงทำให้สามารถผลิตชิปประมวลผลระดับกลางที่รองรับ 5G ออกมาได้เร็วและมากกว่ารายอื่นนั่นเอง ซึ่งในไทยเอง ก็ต้องจัดว่าเป็นมือถือราคาหมื่นต้น ๆ ประกันศูนย์ไทยเครื่องแรกที่รองรับ 5G และวางขายอย่างเป็นทางการในไทยเลยทีเดียว โดยจะตีคู่กันมากับ Huawei nova 7 ที่เป็นรุ่นสูงขึ้นไปอีกนิดนึง
สำหรับสเปคของ Huawei nova 7 SE ที่น่าสนใจก็มีดังนี้ครับ
- ชิปประมวลผล Kirin 820 5G (8 คอร์ พร้อมชิปกราฟิก Mali-G57 และมี NPU ในตัว)
- แรม 8 GB
- พื้นที่เก็บข้อมูล 128 GB รองรับ NM card สูงสุด 256 GB
- หน้าจอ LTPS LCD ขนาด 6.5″ ความละเอียด 2400 x 1080
- กล้องหลัง 4 ตัว รองรับการประมวลผลด้วย AI เซ็นเซอร์ CMOS 1/1.7″
- กล้องหลัก 64MP f/1.8
- เลนส์อัลตร้าไวด์ 8MP f/2.4
- เลนส์มาโคร 2MP f/2.4
- เลนส์โบเก้ 2MP f/2.4
- กล้องหน้า 16MP f/2.0
- EMUI 10.1 ใช้พื้นฐานอิงจาก Android 10 (ไม่มี GMS)
- แบตเตอรี่ 4000 mAh
- รองรับระบบชาร์จเร็ว SuperCharge 40W
- ใส่ได้ 2 ซิม (ถาดซิมแบบไฮบริด) รองรับ 5G ในช่องซิม 1
- รองรับ 4G VoLTE ทั้ง 2 ซิมพร้อมกัน
- WiFi 802.11a/b/g/n/ac 2.4 และ 5 GHz
- Bluetooth 5.1
- มีช่อง 3.5 มม.
- ราคา 11,990 บาท
หากพูดถึงสเปคโดยรวมของ Huawei nova 7 SE ก็ต้องจัดว่าไม่ได้ห่างจากมือถือรุ่นอื่นในช่วงราคาเดียวกันมากนักครับ ทั้งหน้าจอ แรม พื้นที่เก็บข้อมูล แบตเตอรี่ แต่จะมีจุดที่ได้เปรียบคือเรื่องการเชื่อมต่อ 5G เนื่องจากชิป Kirin 820 5G ที่ได้รับการปรับปรุงมาจาก Kirin 810 ซึ่งเป็นชิปสำหรับมือถือรุ่นระดับกลาง ๆ ขึ้นมา
ซึ่งด้วยสเปคระดับนี้ รองรับ 5G แถมราคาก็ไม่ได้แรงเกินไป จึงไม่แปลกใจที่ Huawei nova 7 SE จะกลายเป็นมือถือที่ได้รับความสนใจมาก ๆ รุ่นหนึ่งในปัจจุบัน
อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องของ Huawei nova 7 SE ก็เป็นไปตามมาตรฐานครับ คือจะมี หูฟังแบบ 3.5 มม. สายชาร์จพร้อมอะแดปเตอร์ SuperCharge ที่จ่ายไฟได้สูงสุด 40W (เมื่อชาร์จด้วยอะแดปเตอร์กับสายที่รองรับ) นอกจากนี้ก็ยังมีเคสซิลิโคนใสมาให้ 1 ชิ้นอีกด้วย
ดีไซน์ Huawei nova 7 SE
รูปร่างหน้าตาของ Huawei nova 7 SE ก็มาในทรงยอดนิยมของช่วงนี้ครับ คือให้ความสำคัญกับพื้นที่แสดงผลของจอที่สูงถึง 90.3% ทำให้สามารถใช้หน้าจอขนาด 6.5″ ในตัวเครื่องที่ไม่เทอะทะจนเกินไปได้ ส่วนกล้องหน้าก็จะถูกวางไว้ตรงมุมซ้ายบน คุณภาพ สีสันของการแสดงผลก็จัดว่าอยู่ในระดับที่ดีสำหรับมือถือราคาหมื่นต้น ๆ เลย แม้จะไม่ใช่จอประเภท OLED แต่ก็ให้สีสัน ความสว่าง และส่วนที่เป็นสีดำได้ดี สามารถใช้งานกลางแจ้งได้อยู่เหมือนกัน
คีย์บอร์ดที่ติดเครื่องมาจะเป็น Microsoft SwiftKey ซึ่งสามารถเพิ่มภาษาไทยเข้าไปได้ไม่ยากนัก รวมถึงยังสามารถปรับแต่งได้ค่อนข้างหลากหลาย จะตั้งค่าให้ซ่อนแถบแนะนำข้อความที่เป็นแถบด้านบนปุ่มกดก็ได้ ปรับเปลี่ยนธีมก็ได้ด้วย
ฝาหลังของ Huawei nova 7 SE จะใช้เป็นผิวกระจก 3D โดยมีสีสันด้านในให้เลือกด้วยกัน 2 เฉดสี คือสีเขียว Crush Green และสีเงิน Space Silver ที่จะไล่ลงมาเป็นสีทองแดงเล็กน้อย โดยจุดที่ผมประทับใจเป็นการส่วนตัวคือ การเคลือบสีของฝาหลังนั้นทำได้ดีจริง ๆ ทำให้เกิดภาพสะท้อนน้อยกว่าในมือถือหลาย ๆ รุ่น
ตรงมุมซ้ายบนของฝาหลังก็จะเป็นตำแหน่งของชุดกล้องหลังที่นูนขึ้นมาพอสมควร ไล่จากบนก็จะเป็นเลนส์อัลตร้าไวด์ เลนส์กล้องหลัก เลนส์โบเก้ และก็เลนส์มาโคร ส่วนด้านข้างก็มีแฟลช LED มาให้
ด้านบนของ Huawei nova 7 SE จะมีเพียงช่องรับเสียงของไมค์ตัวบนเท่านั้น ส่วนด้านล่างก็มีทั้งช่อง 3.5 มม. ช่องรับเสียงของไมค์สนทนา ช่อง USB-C และก็ช่องลำโพง
ส่วนฝั่งขวาก็จะมีปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง และก็ปุ่ม Power ซึ่งทำหน้าที่เป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้วยในตัวครับ ทำให้ลักษณะของปุ่มจะแบนกว่าปุ่มทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด ความแม่นยำและความรวดเร็วในการสแกนก็จัดว่าอยู่ในระดับมาตรฐาน แต่อาจจะเหมาะสำหรับการใช้นิ้วหัวแม่มือขวาในการปลดล็อกเป็นหลัก
และก็ด้านซ้ายของตัวเครื่องจะมีเพียงถาดใส่ซิมเท่านั้น อย่างที่เกริ่นในส่วนของสเปคว่าจะเป็นถาดแบบไฮบริด ซึ่งถ้าต้องการเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลก็ต้องหาซื้อ NM Card ของทาง Huawei เองมาเท่านั้น ไม่รองรับ MicroSD นะครับ
แต่ถ้าใครต้องการใส่สองซิมก็จัดไปได้เลย โดยจะมีเฉพาะช่องซิมแรกเท่านั้น (ช่องทางซ้าย) ที่รองรับการเชื่อมต่อ 5G ส่วนช่องซิมรองจะรองรับสูงสุดที่ระดับ 4G
ฟีเจอร์เด่นของ Huawei nova 7 SE
การเชื่อมต่อ 5G
ฟีเจอร์แรกที่เป็นไฮไลท์เลยก็คือการเชื่อมต่อ 5G ที่ทำให้ Huawei nova 7 SE เป็นหนึ่งในมือถือราคาหมื่นต้น ๆ ที่น่าสนใจที่สุดในช่วงกลางปีนี้เลย โดยในขณะที่ทำการทดสอบนี้จะมีผู้ให้บริการอยู่สองรายที่เปิดให้ใช้งาน เปิดให้ทดสอบกันได้ ซึ่งผมเองขอนำมาทดสอบกับ AIS แล้วกันนะครับ ส่วนสถานที่ทดสอบก็คือที่ใจกลางอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งจะครอบคลุมบริเวณกลางตัวเมือง มาจนถึงบางช่วงของถนนเพชรเกษมด้วย ใช้เวลาขับไม่นานก็เจอจุดที่ทำความเร็วได้ค่อนข้างดี ติดที่ว่าฝนตกหนักตอนระหว่างทดสอบพอดี เลยทดสอบได้ไม่นานนัก
ความเร็วสูงสุดเท่าที่ผมทดสอบได้บน Huawei nova 7 SE ก็ตามภาพด้านบนครับ ซึ่งเทียบแล้วก็อยู่ในระดับไล่เลี่ยกับ 5G ของหลาย ๆ พื้นที่ใน กทม. เลยทีเดียว และถ้าหากพูดถึงความเร็ว ก็ต้องบอกว่าความเร็วดาวน์โหลดที่ทดสอบได้นั้นอยู่ในระดับเทียบกับเน็ตบ้านก็ยังไหว แต่ทั้งนี้ก็ต้องรอดูตอนที่เปิดใช้งานเต็มที่ ประกอบกับมีผู้ใช้งานมือถือที่รองรับ 5G กันมากกว่านี้ก่อนครับ ถึงจะได้เห็นภาพกันแบบชัด ๆ ว่าพอจะนำมาเทียบกับเน็ตบ้านได้ขนาดไหน
ส่วนในการใช้งานโทรศัพท์ระหว่างเชื่อมต่อ 5G นั้น ระบบจะยังใช้การคุย Voice บน 4G VoLTE อยู่นะครับ เนื่องจากโครงข่าย 5G ที่ใช้ในขณะนี้เป็นแบบ NSA ที่ยังใช้งานบางส่วนบนเทคโนโลยี 4G อยู่ แต่ถ้าอยากใช้ให้ทั้ง Data และ Voice วิ่งบน 5G อย่างเดียว ก็ต้องรอการปรับจาก 5G NSA มาเป็น 5G SA กันอีกที ซึ่งน่าจะเริ่มเปิดในไทยในอีกไม่นานนี้แล้ว
การดาวน์โหลดแอป/เกม
ประเด็นเรื่องของการที่ Huawei nova 7 SE ไม่ได้มาพร้อม GMS ก็เป็นอีกเรื่องที่ทำให้หลายคนชั่งใจอยู่พอสมควร เนื่องจากการโหลดแอป การใช้งานบริการที่เชื่อมโยงกับทาง Google ไม่สะดวกเท่ากับการใช้มือถือ Android (แม้กระทั่ง iPhone ด้วยก็ตาม) แต่ในเรื่องนี้ ก็ต้องบอกว่าทาง Huawei มีการพัฒนาแพลตฟอร์ม HMS และมีการดึงดูดผู้พัฒนาในการปรับแอปของตนเองให้ทำงานบน HMS ได้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อยู่เหมือนกัน
ซึ่งจากที่ผมลองดูใน AppGallery ซึ่งเป็นแหล่งโหลดแอปของ Huawei เอง ก็พบว่ามีพวกแอปหลัก ๆ ที่คนไทยใช้งานมาให้โหลดกันเยอะพอสมควรเลย อย่างพวกกลุ่มแอปธนาคารก็มีมาพอตัว ซึ่งก็มีแอปของ ธ.กรุงเทพเวอร์ชันใหม่ด้วย (แต่ผมไม่ได้ทดสอบนะ เนื่องจากไม่มีบัญชี)
กลุ่มแอปดูหนัง ฟังเพลง อ่านการ์ตูนก็มีมาบ้างบางส่วน ส่วนถ้าต้องการใช้งานแผนที่นำทาง ก็จะมีแอป HERE WeGo มาให้โหลดฟรี จะสั่งอาหารก็ทำได้ เรียกว่าอยู่ในระดับที่ค่อนข้างโอเคเลย แต่สำหรับในบางแอปเองนั้นก็ดูเหมือนว่าทางนักพัฒนาจะยังปรับจูนมาไม่ลงตัวเท่าไหร่อยู่บ้างเหมือนกัน โดยเฉพาะกับพวกเซอร์วิสที่ปกติแล้วจะไปเรียกใช้เซอร์วิสจาก GMS ที่อาจจะยังปรับมาเป็น HMS ได้ไม่สมบูรณ์ ตรงนี้ก็ต้องใช้เวลาซักนิดนึง
สำหรับการติดตั้งแอปจาก AppGallery นั้นทำได้รวดเร็วมาก รวมถึงยังมีการช่วยตรวจสอบแอปให้อีกรอบหนึ่งด้วย เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
นอกจากนี้ใน EMUI เวอร์ชันใหม่ยังมีการเพิ่มแอป Petal Search มาให้ด้วย ซึ่งในแอปนี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาแอปที่ไม่มีใน AppGallery มาติดตั้งได้ด้วย อย่างเช่นเมื่อค้นหาแอป Instagram (ไม่มีใน AppGallery) ระบบก็จะมีตัวเลือกแอปมาให้โหลด โดยจะเป็นผลการค้นหาจาก store หลาย ๆ ที่ ซึ่งตัวแอป Instagram เองจะมีให้โหลดใน APKPure ซึ่งผู้ใช้ก็สามารถกดติดตั้งจากใน Petal Search ได้เลย โดยระบบจะทำการตรวจสอบแอปก่อนการติดตั้งให้อีกรอบด้วย เพื่อความปลอดภัยครับ
กล้องของ Huawei nova 7 SE
แม้ว่าการให้กล้องหลังมา 4 ตัวจะกลายเป็นเรื่องปกติของมือถือระดับราคาเกือบหมื่นไปจนถึงหมื่นต้น ๆ แล้วก็ตาม แต่ใน Huawei nova 7 SE นั้นก็มาพร้อมกับคุณภาพที่น่าพึงพอใจมาก ๆ ทีเดียวครับ ในแง่ของระยะที่ได้จากเลนส์นั้น หลัก ๆ ก็จะเป็นระยะไวด์ปกติ กับระยะอัลตร้าไวด์เพื่อการเก็บภาพแบบกว้าง ถ้าต้องการเก็บภาพระยะใกล้มาก ๆ ก็จะเป็นหน้าที่ของเลนส์มาโคร ส่วนเลนส์โบเก้ หน้าที่หลักคือใช้ประกอบในการถ่ายพวกโหมด portrait
ในชุดภาพด้านบนนี้เป็นการถ่ายทะลุกระจกอีกทีนะครับ เลยอาจจะทำให้แสงฟุ้งนิดหน่อย ภาพแรกคือภาพจากเลนส์กล้องหลัก ภาพที่สองมาจากเลนส์อัลตร้าไวด์ ภาพที่สามเป็นการซูม 2 เท่า ส่วนภาพสุดท้ายเป็นภาพจากการซูม 10 เท่าที่เป็นการซูมดิจิตอลแบบสุดตัวของ Huawei nova 7 SE แล้ว
เรื่องสีสันก็ทำได้ดีครับ แต่ในบางสถานการณ์นั้นอาจจะได้ภาพที่สีจัดเกินไป ซึ่งเป็นผลมาจากระบบ AI อย่างเช่นในภาพด้านล่างนี้
ในตอนที่ผมถ่ายรูป แอปกล้องจะตรวจจับพบว่าเป็นการถ่ายภาพทะเลและท้องฟ้า เลยเปิดการปรับแต่งภาพด้วย AI ให้เน้นโทนสีฟ้ามาให้ ผลคือสีฟ้านั้นเข้มจัดเกินความเป็นจริงไปนิด แถมรายละเอียดบางจุดก็หายไปด้วย ดังนั้นถ้าเจอช่วงที่ได้ภาพสีจัดเกินไปแบบนี้ ก็แนะนำว่าลองปิด AI แล้วกดถ่ายใหม่อีกทีครับ
ส่วนของเลนส์มาโคร อันนี้ผมว่าทำมาดีมากเลย เพราะภาพที่ได้นั้นไม่ค่อยมีขอบดำเท่าไหร่ แถมยังได้ความคมชัดที่ค่อนข้างทั่วถึงด้วย ต่างจากเลนส์มาโครที่อยู่ในมือถือหลาย ๆ รุ่น ที่มักให้ภาพที่คมชัดแต่ตรงกลางซะเป็นส่วนใหญ่
ส่วนโหมดถ่ายกลางคืนก็มีมาให้ด้วยเช่นกัน โดยในภาพบนจะเป็นการถ่ายด้วยโหมดออโต้แล้วปล่อยให้ AI ทำงานตามปกติ ส่วนภาพล่างเป็นภาพจากโหมดถ่ายกลางคืน จะเห็นว่ามีการเก็บรายละเอียดได้ดีขึ้น และมีการขุดส่วนที่มืดให้สว่างขึ้นมาเล็กน้อยด้วย
สามารถชมตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องของ Huawei nova 7 SE ได้จากแกลเลอรี่ด้านล่างนี้ครับ
ประสิทธิภาพและการเล่นเกมบน Huawei nova 7 SE
Huawei nova 7 SE มาพร้อมกับชิป Kirin 820 5G ซึ่งในหน้า About ก็แสดงรายละเอียดของตัวเครื่องไว้ครบถ้วนเลย ทั้งรุ่นของ EMUI เวอร์ชัน Android พื้นที่เก็บข้อมูลที่เหลือให้ใช้ราว ๆ 113 GB ไปจนถึงความละเอียดหน้าจอ
ส่วนระบบจัดการซิมก็ตามที่กล่าวไปข้างต้นว่าตัวเครื่องรองรับ 5G เฉพาะซิม 1 เท่านั้น แต่ถ้าคิดว่าจะไม่ใช้งาน 5G อยู่แล้ว ก็ปรับค่าให้จับคลื่นสูงสุดที่ 4G ก็ได้นะ
แบตเตอรี่ 4000 mAh ของ Huawei nova 7 SE จัดว่าอยู่ในระดับมาตรฐานของมือถือในยุคนี้เลย ประกอบกับมือถือ Huawei ในช่วงหลังมานี้ก็ได้ชื่อเสียงที่ดีในด้านการใช้แบตเตอรี่ที่ยาวนานอยู่แล้วด้วย ซึ่งจากที่ผมทดสอบมา บอกเลยว่าแบตใช้งานเกิน 1 วันยังสบาย ส่วนถ้าจะชาร์จก็ยังรองรับการชาร์จเร็ว Huawei SuperCharge 40W อีก ซึ่งก็ชาร์จไฟได้เร็วไม่แพ้มือถือเรือธงหลาย ๆ รุ่นเลยทีเดียว
เมื่อทดสอบประสิทธิภาพกับบางแอปเท่าที่สามารถติดตั้งและใช้งานได้ ก็ได้คะแนนตามด้านบนครับ อย่างใน AnTuTu ก็เก็บคะแนนรวมไปเกือบ 300,000 คะแนน แรงถึงใจกันไปเลย!! ส่วนชิปเก็บข้อมูลเองก็อ่านข้อมูลได้เร็วสุด ๆ เช่นกัน
ทดสอบการเล่นเกม PUBG Mobile ก็รองรับการปรับภาพที่ระดับ HD เฟรมเรตสูงได้สบาย
ต่อมาก็เป็นเกม RoV อันนี้ปรับกราฟิกได้เกือบสุดครับ เสียดายที่ไม่สามารถปรับเฟรมเรตสูงได้ ทำให้ตัวเกมถูกล็อกไว้ที่เฟรมเรต 29-30 เท่านั้น
ส่วน Call of Duty Mobile ก็ไม่มีปัญหา ปรับสูงสุดได้เลย ไม่มีอาการแล็กกวนใจ
ปิดท้ายด้วยเกม FreeFire ที่มีให้โหลดตรงจาก AppGallery ก็หายห่วง เพราะปกติก็เป็นเกมที่ไม่กินสเปคเท่าไหร่อยู่แล้ว
ทั้งนี้ สำหรับคนที่ต้องการเล่นเกมบน Huawei nova 7 SE ก็อาจจะต้องใช้ความพยายามในการเสาะหาเกมมาติดตั้งหน่อยนะครับ เพราะพวกเกมยอดฮิตหลาย ๆ เกมก็อาจจะยังมาลงใน AppGallery ได้ไม่ครบเท่าไหร่ ทำให้ต้องไปหาติดตั้งจาก store อื่น เช่น APKPure หรือจะใช้การค้นหาจากแอป Petal Search ก็ได้ แต่ทั้งนี้ก็อาจจะต้องดูอีกทีว่ามันเป็นตัวเกม server เดียวกับตัวที่เปิดในไทยหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นอาจไม่เจอเพื่อนเอา หรือจะลำบากหน่อยตอนไปเล่น server ไกล ๆ ที่ทำให้ค่า ping สูงเกินไปอีก
สรุปรีวิว Huawei nova 7 SE
Huawei nova 7 SE นับว่าเป็นมือถือ 5G ประกันศูนย์ราคาหมื่นต้น ๆ ที่น่าสนใจทีเดียวสำหรับคนที่กำลังเล็งมือถือใหม่ในช่วงราคานี้ แล้วต้องการใช้งาน 5G ที่เปิดให้บริการในไทยในขณะนี้ ด้วยความครบเครื่องทั้งด้านการเชื่อมต่อ ประสิทธิภาพ กล้องคุณภาพดี แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน ไปจนถึงงานประกอบที่ต้องยอมรับว่าทำได้ดีเกินราคาจริง ๆ
แน่นอนว่าด้วยการที่ตัวเครื่องไม่ได้มาพร้อม GMS คือหนึ่งในข้อจำกัดที่อาจต้องนำมาพิจารณาด้วยเช่นกัน เพราะประเด็นนี้ส่งผลโดยตรงกับการใช้งานบางแอป บางบริการที่ท่านอาจจะใช้งานอยู่ รวมถึงการดาวน์โหลดแอป ดาวน์โหลดเกมที่อาจต้องมีการปรับตัวจากที่เคยชินในมือถือที่ใช้งานอยู่พอสมควร และที่สำคัญคือในหลาย ๆ แอปที่มีการอ้างอิงไปยัง Google service แบบที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัว เช่นพวกการดึงข้อมูลจากแผนที่ เป็นต้น ซึ่งก็อาจจะต้องคอยติดตามข้อมูล ข่าวสารกันซักนิดครับ เพราะทั้งทาง Huawei และนักพัฒนาแอปเองก็กำลังทยอยปรับปรุงระบบกันไป อย่างในตอนนี้หลาย ๆ แอปก็สามารถทำงานร่วมกับ HMS ได้แบบเต็มที่ 100% บ้างแล้วเหมือนกัน
แต่ถ้าคุณไม่ได้ใช้งานบริการเบื้องหลังหรือแอปจาก Google เป็นประจำ Huawei nova 7 SE ถือว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับกลุ่มมือถือราคาหมื่นต้น ๆ เลยทีเดียว